จบทีมชาติ กลับสู่โหมดไทยลีก กับความมันส์ที่กำลังรออยู่ในเลกสอง

เสร็จสิ้นภารกิจของทีมชาติไทย ในฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทัพช้างศึกของเราก็จอดป้ายเพียงแค่รอบ 2 หรือรอบ 16 ทีมเท่านั้น ไม่สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ

เรื่องของทีมชาติจบไป แต่ความมันส์ของฟุตบอลไทย ก็ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งอีกเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ฟุตบอลไทยลีก เลกสอง ก็จะกลับมาลงสนามฟาดแข้งกันต่อแล้ว พร้อมๆ กับการได้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนใหม่ด้วย

ก่อนที่ฟุตบอลไทยลีก เลกสอง จะกลับมาลงแข่งขัน โดยจะเริ่มเปิดฉากกันในวันศุกร์ที่ 9 ก.พ.นี้ ซึ่งก่อนหน้านั้น 1 วัน ก็คือวันที่ 8 ก.พ.67 ก็จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เกิดขึ้น ซึ่งบางคนก็คงจะลืมไปแล้วว่าเราจะได้ประมุขบอลไทยคนใหม่ในไม่กี่วันข้างหน้า

และแม้ว่าหลายคนอาจจะคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนต่อไป แต่มันก็ยังน่าสนใจอยู่ดีว่า ฟ้าใหม่ของฟุตบอลไทย จะเป็นอย่างไร ในขณะที่บอลลีกก็ยังต้องแข่งขันอยู่ และทีมชาติเองก็ยังมีโปรแกรมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รออยู่ในเดือนมีนาคมนี้

ซึ่งเรื่องนั้นก็เอาไว้เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน สัปดาห์หน้าเราก็จะรู้แล้วว่านายกสมาคมฯ คนใหม่ จะเป็นใคร และแนวทางในการบริหารฟุตบอลไทยในภายภาคหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เรากลับมาที่ฟุตบอลไทยลีกที่จะกลับมาทำการแข่งขันในเลกสองกันดีกว่า ซึ่งถือเป็นอีกฤดูกาลที่การเสริมทัพในเลกสองนั้นเข้มข้นมาก และทำให้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะการเสริมทัพของสองทีมใหญ่ลุ้นแชมป์อย่าง ทรู แบงค็อก และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือว่าเสริมโหดทั้งคู่ อย่าง บียู เอง แม้ไม่ได้เสริมเยอะอะไร แต่เล่นของหนัก ได้ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ มาขับเคลื่อนเกมแดนกลาง รวมทั้งการกลับมาของ วานเดอร์ หลุยส์ ด้วยอีกคน

ส่วนทางบุรีรัมย์ แชมป์เก่า ก็เสริมมาเยอะ 6-7 คน โดยเฉพาะตัวต่างชาติก็มาใหม่ 2 ราย มีแข้งไทย แข้งอาเซียน มากันจนจำชื่อไม่ได้ แต่ที่จำได้และถือว่าน่าสนใจก็คือในรายของ สยาม แย็ปป์ กองหน้าดาวรุ่งที่ไปดึงตัวมาจากโปลิศ เทโร ส่วนตัวอื่นๆ ก็ต้องรอดูผลงานเลกสองว่าจะเป็นนักเตะเซียงกงหรือไม่

แต่กระนั้นเราก็มองข้ามทีมอย่างการท่าเรือ เอฟซี ไม่ได้ แม้จะเปลี่ยนประธานสโมสร แต่ก็เสริมทัพน่าสนใจ โดยเฉพาะการได้ตัว อัสนาวี่ แบ็กขวากัปตันทีมชาติอินโดนีเซีย มาเสริมโควต้าอาเซียน แบบเซอร์ไพรส์ ก็เป็นอีกหนึ่งแข้งที่น่าจับตามองเหมือนกัน

ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุมฯ อีกหนึ่งบิ๊กทีม ก็เสริมทัพไม่เยอะ ได้กองหลังผิวสีเข้ามาคนนึง บวกกับตัวโครเอเชีย มาคนนึง แต่ที่น่าสนใจคือการดึงเอา มาโกโตะ เทกุระโมริ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น กลับมาคุมทีมอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องดูว่าจะอยู่กันยาวไหมในรอบสองนี้ 

พูดถึงการเปลี่ยนโค้ช เขาคนนี้ก็กลับสู่ไทยลีกอีกครั้ง นั่นก็คือ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ที่โดดไปรับงานกุนซือคนใหม่ของ พีที ประจวบ โดยจะคุมทีมร่วมกับโค้ชโอ่ง ประธานเทคนิคของทีม ซึ่งก็ต้องรอดูว่าการกลับมาไทยลีกครั้งนี้ ของ "เตี้ยรินโญ่" จะเวิร์คไหมกับทีมใหม่

ขณะที่ทีมอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงก็มีการเสริมทัพและเปลี่ยนแปลงทีมที่น่าสนใจเช่นกัน อย่าง สิงห์เชียงราย ที่เปลี่ยนต่างชาติมาใหม่หลายคน ชลบุรี ที่ให้โค้ชเฮง คุมทีมยาวจนจบฤดูกาล แถมได้ตัวดีๆ มาหลายคน โดยเฉพาะ ลีออน เจมส์ กับ ไคอ่อน ที่ไม่รู้จะเป็นอย่างไร

นอกนั้นทีมอื่นๆ ก็เสริมทัพน่าสนใจ แต่ถ้าจะให้ยกมาทั้งหมดก็คงไม่ไหว เอาเป็นว่าหลังจบเอเชี่ยน คัพ แฟนบอลไทยก็คงไม่เหงา เพราะมีไทยลีก ให้ได้เชียร์กันอย่างต่อเนื่อง 

แล้วมารอดูกันว่าไทยลีก เลกสอง จะมันส์อย่างที่คิดหรือไม่ แล้วบทสรุปสุดท้ายจะลงเอ่ยอย่างไร