ใครจะคิดกันหละครับว่า พลพรคคปืนโต จะบุกมาระเบิดถังขี้แบบน่าสยดสยอง ถึงถิ่น ลอนดอน สเตเดี้ยม พร้อมกระหน่ำไปถึง 6 ประตู เล่นเอาซะทางฝั่งเจ้าบ้านแทบจะร้องขอชีวิต
โดยก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล ต้องพบกับความปราชัยทั้ง 2 นัดที่พบกับ เวสต์แฮม ในฤดูกาลนี้ เรียกได้ว่า อาร์เซน่อล ชำระแค้น และเอาคืนแบบทบต้นทบดอก ส่วนจะมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างไปรับชมกันครับ
[ Perfect Game ]
เป็นอีกวันที่เหล่าแฟนๆ เดอะกันเนอร์ส ทุกหมู่เหล่าต่างมีความสุขกันถ้วนหน้าทั้งรูปเกม ทั้งผลสกอร์ต่างก็เป็นใจไปซะหมด ยิงเป็นเข้า จะบอกว่าเป็น perfect game ของทาง อาร์เซน่อล ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใด
มีเพียงแค่ 15 นาทีแรกเท่านั้นที่ เวสต์แฮม พอจะมีโอกาสได้โต้ตอบอยู่บ้าง ด้วยเสียงเชียร์ในสนามที่กดดันคู่แข่งได้ดีเหมือนเคย ทำเอา อาร์เซน่อล ขึ้นเกมลำบากอยู่เหมือนกันในช่วงแรก
แต่พอ อาร์เซน่อล เริ่มปะติดปะต่อเกมได้ เริ่มที่จะพาบอลขึ้นหน้าได้มากขึ้น โอเดการ์ด เริ่มมีพื้นที่ในการสร้างสรรค์เกมมากกว่าเดิม เก็บบอลจังหวะสองได้มากขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็เป็นทางฝั่งทีมเยือนที่กดดันคู่แข่งอยู่ฝ่ายเดียว
ยิ่งพอปลดล็อคได้ประตูแรกจากลูกโขกของ วิลเลี่ยม ซาลิบา ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเข้าทาง อาร์เซน่อล ไปเสียหมด ทำอะไรดี ยิงยังไงก็เข้า จนได้ประตูที่สอง สาม และสี่ตามมา
ทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 4-0 ชนิดที่เรียกได้ว่าเล่นซะทางฝั่งเจ้าบ้านอย่าง เวสต์แฮม หมดโอกาสในการกลับมาเลยจริงๆ จนทำเอาแฟนบอลบางส่วนหนีกลับบ้านไปตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก
ส่วนครึ่งหลังก็ไม่มีอะไรมาก เวสต์แฮม เองก็ดูเหมือนจะถอดใจไปแล้ว อาร์เซน่อล ก็เล่นไปตามจังหวะเกมของตัวเองจนมาได้อีก 2 ประตูตอกฝาโลงจาก บูกาโย่ ซาก้า และ เดแคลน ไรซ์
อีกทั้งชัยชนะในเกมนี้ของ อาร์เซน่อล ยังเป็นการคว้าชัยที่ยิงได้มากที่สุดในฐานะทีมเยือน ส่วน เวสต์แฮม ก็เป็นความพ่ายแพ้ที่ยับเยินมากที่สุดในฐานะเจ้าบ้านด้วยเช่นกัน
[ Combination ระหว่าง ทรอสซาร์ และ ฮาแวร์ตซ์ โคตรลงตัว ]
วันนี้เป็นอีกวันที่ มิเกล อาร์เตต้า เลือกที่จะใช้ เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงพร้อมกันทั้งคู่ แทนที่ของ จอร์จิญโญ่ ที่ทำได้ดีนัดที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ในแมตซ์ที่แล้ว
ซึ่งทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้เข้าฝักเสียเหลือเกิน ทั้งสลับตำแหน่งกันระหว่างพื้นที่แดนหน้า และแดนกลาง สอดประสานงานได้อย่างเข้าขารู้ใจ และมีประสิทธิภาพ
ทรอสซาร์ ก็ดูจะลงตัวมากๆกับแหน่งที่ อาร์เตต้า มอบหน้าที่ให้ในเกมวันนี้ ทั้งลงต่ำมาจ่ายบอล รวมถึงการทรอดขึ้นมาทำประตูก็ทำได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองเสียเหลือเกิน
ส่วน ไค ฮาแวร์ตซ์ แม้จะไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ด แต่วันนี้ก้ถือว่าเขามีส่วนรว่มกับเกมอยู่ตลอด เป็นตัวเชื่อมเกมในแดนบน อีกทั้งในบางจังหวะจะสลับหน้าที่กับ ทรอสซาร์ ในตำแหน่งหมายเลข 8 ด้วยเช่นกัน
[ ลูกเซตเพลย์ ยังเป็นไพ่ตายของ อาร์เซน่อล ]
นัดนี้เป็นการตอกย้ำชัดว่าลูกเซตเพลย์ของ อาร์เซน่อล ยังเป็นไพ่ตายของพวกเขาเสมอ ไม่ว่ารูปเกมจะย่ำแย่แค่ไหน หรือกองหน้าจะติดบอดเพียงใด แต่พอเปิดไพ่ลูกเซตเพลย์ก็มักจะเปลี่ยนโฉมรูปเกมของ อาร์เซน่อล ได้ตลอด
ซึ่งสองประตูที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ได้จากลูกเซตเพลย์ จากการขึ้นโขกของคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คของทีมอย่าง กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลี่ยม ซาลิบา จัดกันไปคนละหนึ่งดอกเน้นๆ
อีกทั้ง อาร์เซน่อล ยังได้ประตูจากลูกเซตเพลย์มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ถึง 15 ประตูด้วยกัน เรื่องนี้คงต้องยกเครดิตให้ นิโคลัส โจเวอร์ โค้ชลูกเซตเพลย์ของทีม
[ 105 ล้านปอนด์ ไม่มีคำว่าแพง ]
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้นั่นก็คือฟอร์มการเล่นของ เดแคลน ไรซ์ ที่ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย นอกจากคำว่า พี่ข้าวแม่งสุดตีนจริงๆ ทั้งการคุมจังหวะเกม การตัดบอลจากคู่แข่งก็ทำดีไปหมด เรียกได้ว่า 105 ล้านปอนด์ไม่มีคำว่าแพงจริงๆ
แถมในเกมวันนี้ยังทำได้อีก 2 แอสซิสต์ กับ อีก 1 ประตู สุดสวยที่ยิงใส่ทีมเก่า แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมากลับไม่มีอาการดีใจให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเขาจะได้เสียงโห่ทุกครั้งเวลาได้บอลก็ตาม
สุดท้ายก่อนที่ เดแคลน ไรซ์ จะถูกเปลี่ยนตัวออกไป แฟนบอลจากที่โห่ใส่ ก็กลับกลายเป็นเสียงปรบมือที่ดังกึกก้องไปทั่วสนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า ชายที่ใส่เสื้อเบอร์ 41 ตั้งแต่ต้นยันวันสุดท้ายคนนี้ คนที่เติบโตมากับสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่สมัยเป็นเยาวชน ยังคงอยู่ในหัวใจของแฟนบอลขุนค้อนเสมอ แม้ไม่ใช่กับทุกคนก็ตาม
-บีเบลล์ กูนเนอร์-
