ครั้งแรกของ "ทรู แบงค็อก" กับถ้วยเอเชีย ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจ!!

ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ ของสโมสรไทย นั้นได้จบลงแล้ว หลังทีมอย่าง "ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด" กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดายเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (21 ก.พ.67) หลังมาโดนจุดโทษในช่วงทดเจ็บของ 120 นาที ชนิดที่แทบไม่มีโอกาสแก้ตัวกันเลย

ย้อนกลับไปนัดแรกที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อสัปดาห์ก่อน ทีมแข้งเทพ เกือบจะแพ้คาบ้าน โชคดีที่มาตามตีเสมอได้ช่วงท้ายเกม เก็บผลเสมอ 2-2 มาได้ ทำให้มีลุ้นมาถึงเกมนัดสองที่ต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน

ซึ่งถ้านัดแรกแพ้คาบ้านมาก่อน บอกเลยว่าเกมสองรอดยาก แต่พอเสมอมาก็ทำให้ยังมีลุ้น แต่กระนั้นการออกมาเยือนทีมแชมป์เจลีก 2022 ก็ไม่ใช่งานที่ง่ายอยู่แล้ว ด้วยชื่อชั้น มาตรฐาน และนักเตะ ทีมดังเจลีก ก็ยังเหนือชั้นกว่าบียู ทุกเหลี่ยมมุม

และขอยอมรับตามตรงว่าก่อนเกมวานนี้ ส่วนตัวก็คิด แบงค็อก ไม่น่าจะต้านทานความแข็งแกร่งของเจ้าถิ่นได้ เนื่องด้วยออกไปเล่นเป็นทีมเยือน และด้วยสถานการณ์ที่ต้องบุกไปชนะเท่านั้นถึงจะเข้ารอบ มันจึงเป็นงานที่ยากถึงยากมาก

แต่พอได้ดูเกมจริงๆ ก็ต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจนักเตะทีมบียู และต้องชมโค้ชแบน ที่วางแผนเตรียมทีมมาสู้กับ มารินอส ได้ดีเกินคาด แม้จะต้องเล่นเกมรับเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ทำได้ดีมากๆ เอาอยู่ทุกจังหวะ และลูกยิงของ มารินอส แทบจะไม่มีความอันตราย หรือสร้างความหนักใจอะไรให้แผงหลังบียูเลย ส่วนใหญ่จะยองหลุดกรอบ หรือไม่ก็ยิงเบาเกินไป

ขณะที่ทีมแข้งเทพ เอง แม้จะรับเยอะแต่ก็มีอยู่ช่วงนึงที่ได้บุกเข้าใส่ และครองบอลได้มากกว่าด้วย ในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่นักเตะตัวหลักอย่าง มะห์มูด จะบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป เกมของ บียู ก็เริ่มดร็อปลงและกลายเป็นรับเต็มรูปแบบช่วงเวลาทีเหลือ แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาได้จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ

ซึ่งรูปเกมก็ยังคงเหมือนช่วงท้ายครึ่งหลัง คือเราก็โดนบุกเข้าใส่ เกือบโดนจุดโทษ โดนใบแดง หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ จนกระทั่งมาถึงนาทีที่ 120 เข้าสู่ช่วงทดเจ็บอีก 3 นาที ในใจคิดว่ายังไงก็ได้ลุ้นถึงดวลจุดโทษแน่ๆ แต่ขณะนั้นเอง บียู ก็มาเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ วิศรุศ อิ่มอุระ พยายามจะวิ่งตามไปบล็อคลูกเปิดเข้ามาทางฝั่งขวาริมกรอบโทษพอดี

ซึ่งบอลเจ้ากรรมมันก็ดันมาโดนตรงข้อพับของ วิศรุต พอดี ก่ำกึ่งกับว่าเป็นนอกกรอบหรือบอลออกหลังไปแล้วหรือยัง ตอนแรกกรรมการให้เป็นลูกเตะมุมไปแล้ว และดูเหมือนเราจะไม่โดนจุดโทษ แต่สุดท้าย VAR ก็เรียกผู้ตัดสินไปเช็ก ใช้เวลาอยู่นานสองนานก่อนจะออกมาพร้อมให้สัญญานเป็นจุดโทษ

และสุดท้ายก็เป็น แอนเดอร์สัน โลเปซ ที่ซัดจุดโทษเข้าไปไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0 ในขณะที่ 120 นาทีนั้นหมดลงไปแล้ว เข้าสู่ช่วงทดเจ็บอีก 2-3 นาที ทีมแข้งเทพพยายามบอมเข้าใส่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกมแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 1-0 

ไอ้การที่แพ้แล้วต้องตกรอบมันไม่เท่าไหร่หรอกครับ คือแพ้ทีมอย่าง โยโกฮาม่า มารินอส ในรอบยี้มันก็เข้าใจได้ แต่การมาโดนจุดโทษในช่วงนาทีสุดท้ายแบบนี้มันน่าเสียดายมากกว่า อีกนิดเดียวก็จะไปวัดกันที่จุดโทษอยู่แล้ว ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อถึงตรงนั้น

แต่อีกมุมนึงเราก็ไปโทษใครไม่ได้ เพราะเราพลาดเอง และบอลมันก็โดนมือจริงๆ ในเขตโทษจริงๆ ก็ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ไปแล้วกันสำหรับทีมแบงค็อก กับการลงเตะในฟุตบอลระดับนี้ ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ทีมแพ้ และตกรอบได้เลย

 

แต่อย่างไรก็ตาม การตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ครั้งนี้ ไม่มีอะไรต้องเสียใจเลย พวกเขามาได้ไกลเกินคาดมากๆ อีกทั้งในรอบแบ่งกลุ่มก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ไว้มากมาย

นี่เป็นการลงเตะถ้วยเอเชียของทีมบียู ครั้งแรก หลังใช้ชื่อ ทรู แบงค็อก หรือ แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้เคยมาครั้งนึงสมัยเป็น ม.กรุงเทพ ซึ่งเราไม่นับละกัน

การมาลงเตะเอซีแอลครั้งนี้ของทีม บียู หลายคนมองว่าไม่ง่ายที่พวกเขาจะผ่านเข้ารอบไปได้ แต่สุดท้าย แบงค็อก ก็สร้างปรากฏการณ์ เป็นทีมแรกของไทยที่ชนะ 3 นัดแรก เก็บ 9 แต้มเต็ม เก็บแต้มได้ถึง 13 คะแนน มากที่สุดของไทย และคว้าแชมป์กลุ่มได้ด้วย 

ผลงานรอบแรกของบียู ถือว่าเพอร์เฟคมากๆ และหลายคนก็เอาใจช่วยลุ้นให้เข้ารอบลึกๆ แต่สุดท้ายก้มาจอดที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ในส่วนของถ้วยเอเชีย ก็ไว้มาลุ้นกันใหม่หากบียู ได้มีโอกาสกลับมาเล่นอีกครั้ง แต่สำหรับฤดูกาลนี้ ก็ถือว่าตัดภาระออกไปหนึ่งรายการ ทำให้หมดห่วงถ้วยเอเชีย กลับมามีสมาธิกับไทยลีก ที่ก็หมายมั่นปั้นมือจะเป็นแชมป์ให้ได้เหมือนกัน

ซึ่งล่าสุดโดน บุรีรัมย์ แซงจ่าฝูงไป แต่บียูก็มีเกมตกค้างอยู่หนึ่งนัด มีโอกาสจะแซงกลับไปเหมือนกัน ขณะที่บอลถ้วยอีกสองรายการก็ยังอยู่ในเส้นทาง ก็ขอให้เอาบทเรียนของถ้วยเอเชีย มาแก้ไขปรับปรุงกับไทยลีก และบอลถ้วยที่เหลือ

ไม่แน่ปีนี้ บียู อาจจะคว้าแชมป์ที่รอคอย หรือได้มากกว่าหนึ่งแชมป์ก็เป็นได้ สู้ต่อไป ทรู แบงค็อกฯ