“เทกุซัง” กับการคัมแบ็ค บีจี คำรบสอง ทำไมผลงานไม่เปรี้ยง

ศึก รีโว่ ไทยลีก 2023/24 หลังจากผ่านไป 4 นัด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีผลงานการออกสตาร์ทยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยพวกเขาเก็บได้เพียงแค่ 4 คะแนนเท่านั้น และปัจจุบันอยู่อันดับที่ 4 ของตาราง มี 34 คะแนน ตามหลังอันดับ 2 อยู่ 6 คะแนน และจ่าฝูงทั้งหมด 11 คะแนน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฤดูกาลนี้ “เดอะแรบบิท” มีขุมกำลังที่เพรียบพร้อม ไม่แปลกใจว่าทำไมแฟนบอลต่างคาดหวังที่จะทำผลงานให้ดีกว่าครั้งก่อน กับการไล่ล่าความสำเร็จเข้ามาสู่ทีม ผลงานความคาดหวังมันสวนทางกันมองว่าจะเป็นการวนลูปหรือไม่

เป็นอีกฤดูกาลที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือต่อเนื่อง ก่อนจบเลกแรกได้แยกทางกับ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี หลังทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และตัดสินใจดึงตัว มาโกโตะ เทกุระโมริ อดีตเฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นกลับมารับงานคุมทีมเป็นครั้งที่สอง

การคัมแบ็คสู่ บีจี สเตเดี้ยม ของกุนซือเลือดปลาดิบครั้งนี้ มีเสียงแตกออกไปเป็น 2 ฝั่ง มีทั้งฝั่งเห็นด้วยที่จะได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองเต็มตัวอีกครั้งด้วยทรัพยากรขุมกำลังนักเตะที่มีอยู่ก็ล้วนคุ้นเคยเป็นอย่างดี น่าจะไม่ต้องปรับอะไรมากมาย

ขณะที่ก็มีฝั่งที่ไม่เห็นด้วยเนื่องจากผลงานการคุมทีม ชลบุรี เอฟซี ที่ผ่านมา ค่อนข้างย่ำแย่ โดยพาทีมรั้งอยู่ในโซนสีแดงก่อนตัดสินใจลาออกเพื่อรับผิดชอบกับผลงานในที่สุด

การทำงานของ “เทกุซัง” ดูเหมือนว่าจะเป็นไปอย่างราบรื่นได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารเต็มที่กับการเสริมทัพก่อนลุยเลกสอง ทุ่มเม็ดเงินมหาศาลคว้าตัว กฤษดา กาแมน แนวรับดีกรีทีมชาติไทยจาก ชลบุรี เอฟซี ประกอบกับแข้งรายอื่นที่เด่นๆ อย่างเช่น เซย์ดีน เอ็นดิอาเย, เดนิส บุชน์ยา 

แต่ผลงานที่ออกมาหลังออกสตาร์ทไป 4 นัด แบ่งเป็น ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 ทรงบอลแท็กติกการเล่นยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงเกิดเสียงวิจารณ์มากมายตามมา

แนวโน้มแม้ตามหลักทฤษฎีอาจยังมีอยู่ ในแต่ทางปฏิบัติค่อนข้างยาก หากนำไปเปรียบเทียบกับผลงาน 4 นัดแรกภายใต้การคุมทัพโดย “โค้ชธง” ยังทำได้ได้ดีกว่าพาทีม ชนะ 2 เสมอ 2 แม้รูปเกมจะไม่สวยงามแต่ก็ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ

ด้วยผลงานเช่นนี้ทำให้หลายฝ่ายต่างตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทีม ที่ดูเหมือนวนลูปเดิมเป็นประจำทุกปี มีพร้อมทุกอย่างแต่ไปไม่สุด ซึ่งเราได้ลองวิเคราะห์จากสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 3 ข้อใหญ่ๆ มีดังนี้

เริ่มจากข้อแรก ปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บ ทั้งในรายของ ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อิคซาน ฟานดี้ และ อิรฟาน ฟานดี้ โดยในฤดูกาลนี้ “เดอะแรบบิท” ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึง อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ที่บาดเจ็บมาจากศึก เอเชี่ยน คัพ กับทีมชาติอุซเบกิสถาน จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ทีมมีผลงานไม่สม่ำเสมอขาดความต่อเนื่อง

ข้อที่สอง นักเตะต่างชาติบางรายยังไม่ตอบโจทย์ ไม่สามารถยกระดับทีมได้ดีเท่าที่ควร โดยมีเพียงที่สอบผ่านและพอฝากความหวังเป็นตัวหลักได้คือในรายของ เฟรดดี้ อัลวาเรซ และเซย์ดีน เอ็นดิอาเย 

 

ข้อสุดท้ายคือ นักเตะขาดความกระหาย และแรงจูงใจ ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่แฟนบอล “เดอะแรบบิท” กำลังถกเถียงกันที่ขาดแรงกระตุ้นปลุกเร้าสร้างแรงฮึกเหิมในการต่อสู้กับคู่แข่งแต่ละครั้ง เชื่อว่าหากสามารถปรับแก้จุดนี้ได้จะช่วยให้ทีมมีชีวิตชีวาเป็นหนึ่งกุนแจที่จะนำไปสู่ชัยชนะได้

ท้ายที่สุดนี่จึงเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ที่ “เทกุซัง” ต้องเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุด ทำอย่างไรให้นักเตะกลับมามีความมั่นใจแล้วทำผลงานดีอีกครั้ง สถานการณ์ทีมขณะนี้ยังอยู่บนเส้นทางลุ้นพื้นที่ไปเล่นในศึกฟุตบอลเอเชีย รวมถึงฟุตบอลถ้วย รีโว่ คัพ ที่ยังอยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

เชื่อว่าเหล่าแฟนบอล “เดอะแรบบิท” ยังคงมีความหวังอยากเห็นกระต่ายตัวนี้กลับมาผยองดุดันชนิดที่ไม่เกรงกลัวใคร แน่นอนกำลังใจก็คือสิ่งสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทีมร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันกับอุปสรรค์ต่างๆ ไปให้ได้

CHUNKA