นับถอยหลังอีกไม่กี่วันที่ทีมชาติไทย ของเราจะลงสนามในเกมสำคัญของศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 โดยเรามีคิวจะต้องบุกไปเยือนทีมชาติจีน ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิ.ย.นี้ ที่สนามเสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น.
เกมนัดนี้มีความสำคัญอย่างไรกับทีมชาติไทย และมีอะไรน่าสนใจ ที่แฟนบอลชาวไทยต้องจับตามองบ้าง เราไปว่ากันครับ
1.เกมนี้ไทยต้องบุกชนะเท่านั้น
ความสำคัญของเกมเยือนจีนหนนี้ก็คือถือเป็นเกมชี้ชะตาว่าไทยเราจะยังได้ไปต่อในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หรือจะจบเส้นทางไว้แค่รอบสองนี้ ซึ่งสถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม C เกาหลีใต้ นำเป็นจ่าฝูง มีอยู่ 10 คะแนน ขออีกเพียง 1 คะแนนในเกมพบสิงคโปร์ ทีมโสมขาวก็จะการันตีเข้ารอบ 3 ขณะที่รองจ่าฝูงคือจีน มีอยู่ 7 คะแนน ส่วนไทยเราอยู่ที่ 3 มีอยู่ 4 คะแนน และบ๊วยของกลุ่มสิงคโปร์ 1 คะแนน ตกรอบแน่นอนแล้ว
เกมนี้เป็นนัดรองสุดท้ายของรอบสอง เราต้องการสามแต้มในเกมพบกับจีน เพื่อจะเก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนนเท่ากัน แล้วไปวัดกันนัดสุดท้าย ซึ่งเราจะกลับไปเล่นในบ้านรับมือสิงคโปร์.. โดยเชื่อว่าเมื่อถึงวันนั้นโอกาสชนะมีแนวโน้มไปในทางสดใส ขณะที่จีน ต้องออกไปเยือน เกาหลีใต้ ที่แม้จะเข้ารอบไปแล้ว แต่ก็คงไม่อยากแพ้คาบ้าน ดังนั้นงานของจีนจึงถือว่าหนักมาก
แต่กลับกันถ้าเราดันทำได้แค่เสมอหรือบุกไปแพ้จีนในเกมนี้ละก็ ทุกอย่างจบ ไปว่ากันใหม่ในอีก 4 ปีข้างหน้า สรุปง่ายๆ ก็คือโปรแกรม 2 นัดสุดท้ายเราต้องชนะรวดทั้งสองนัดได้ไปต่อในรอบสามแน่นอน
2.การคัมแบ็คทีมชาติของ ธีรศิลป์ แดงดา
การยกพลไปเยือนจีนครั้งนี้ ทีมชาติไทยได้กองหน้าเบอร์หนึ่งกลับมาสู่ทีมนั่นคือ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งสองเกมก่อนหน้านี้ที่เราต้องเจอเกาหลีใต้สองนัดไม่มีพี่ม้ยอยู่ในทีมเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่ตอนนี้กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์
และนี่ถือเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของ ธีรศิลป์ กับโค้ช อิชิอิ โดยครั้งสุดท้ายที่พี่มุ้ยเล่นทีมชาติคือเกมพบสิงคโปร์ ที่เราบุกชนะ 3-1 ตอนนั้นยังเป็น มาโน่ คุมทัพ
แน่นอนว่าการมี ธีรศิลป์ อยู่ในทีมมันช่วยให้น้องๆ ทุกคนมีความฮึกเหิมและอุ่นใจมากขึ้น เหมือนมีพี่ใหญ่คอยประคอง แต่สุดท้ายก็ต้องมาลุ้นว่า พี่มุ้ย จะเป็นตัวเลือกแรกในแนวรุกเกมนี้หรือไม่ เพราะในทีมชุดนี้มีกองหน้าถึง 5 คนด้วยกัน นอกจากพี่มุ้ยแล้ว ก็ยังมี ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโวไทยลีก, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย และ ปรเมศย์ อาจวิไล
แต่เชื่อเลยว่าถ้าไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ก็ต้องมีชื่อ ธีรศิลป์ อยู่ในม้านั่งสำรองแน่นอน และพร้อมที่จะลงไปเปลี่ยนเกม เหมือนกับตอนที่ทำได้ในนัดบุกชนะสิงคโปร์ ซึ่งพี่มุ้ยบอกเองว่าเกมนี้ต้องชนะ และไทยต้องไปต่อเท่านั้น เพราะถ้าตกรอบครั้งนี้อีก ด้วยวัย 35 ปี ตอนนี้ ถ้าต้องรออีก 4 ปีข้างหน้า พี่รออีกไม่ไหวแล้ว!!
3.อิชิอิ กับ 3 แต้มแรกในบอลโลก
เกมบุกเยือนจีนครั้งนี้ของทีมชาติไทย จะเป็นการคุมทีมในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดที่ 3 ของ มาซาทาดะ อิชิอิ ซึ่งสองเกมแรกก็คือการพบกับเกาหลีใต้ โดยบุกไปเสมอได้ 1 นัด และแพ้ในบ้าน 1 นัด
ดังนั้นโค้ช อิชิอิ ยังไม่สามารถพาทีมชาติไทยคว้าสามแต้มแรกในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกได้เลย นี่จึงถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่ากุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้ จะปลดล็อคได้หรือไม่ แถมเป็นเกมสำคัญถึงขั้นชี้อนาคตทีมชาติไทยด้วย ก็ต้องมารอลุ้นกันว่าจะทำได้หรือไม่
4.คีย์แมนสำคัญทัพช้างศึก
สุดท้ายคงเป็นเรื่องของคีย์แมนสำคัญของทีมชาติไทย ในเกมนี้ ซึ่งนอกจาก ธีรศิลป์ แดงดา ที่เราพูดถึงไปแล้ว ก็ยังมีนักเตะอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่ต้องลุ้นว่าจะฟิตทันก่อนลงสนามเกมนี้หรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหา
คนต่อมาคือกัปตันทีมอย่าง ธีราทร บุญมาทัน ที่ก็ถือว่าเป็นศูนย์รวมการทำเกมของทีมชาติไทยชุดนี้ นอกจากนี้นักเตะอย่าง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ก็เป็นฟันเฟืองสำคัญในการคุมแดนกลาง ส่วนกองหน้าตัวเป้าคอยจบสกอร์ก็คงต้องหวังพึ่ง ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโวไทยลีก 2 สมัย
น่าเสียดายที่ทีมชุดนี้เราไม่มี นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กขวาตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บกับต้นสังกัด อาจจะทำให้เราไม่ฟูลทีมมากนัก แต่ขุมกำลังที่ อิชิอิ ขนไปก็ถือว่าครบทุกตำแหน่ง และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ต้องมาลุ้นกันว่าทีมชาติไทยจะยังอยู่ในเส้นทางของฟุตบอลโลก 2026 หรือไม่ หรือจะจอดป้ายไว้แค่รอบนี้ ซึ่งถ้าใครไม่อยากเชียร์ทีมชาติไทยอยู่ที่บ้านเหงาๆ คนเดียว อยากเชียร์แบบเป็นหมู่คณะ ไปเจอกันได้ที่งาน “ชิดขอบเชียร์บอลไทย” ที่ร้าน Park Terrace (ห้วยขวาง)
ไปเชียร์ช้างศึกด้วยกันกับทีมงานขอบสนามแบบสดๆ บนจอยักษ์ ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ พร้อมด้วยแขกรับเชิญในวงการฟุตบอลไทยมากมาย งานเริ่ม 17.00 น. เป็นต้นไป งานนี้ฟรีไม่เสียตังค์
ใครพร้อมไปเชียร์บอลไทยด้วยกัน 6 มิ.ย.นี้ ลงทะเบียนได้ทาง Inbox เพจขอบสนาม และ ขอบสนามบอลไทย พิเศษสำหรับ 50 คนแรก ที่ลงทะเบียนและไปถึงที่งานก่อน ลุ้นรับเสื้อทีมชาติไทย ไปใส่เชียร์กันได้เลย แล้วเจอกันครับทุกคน ไทยแลนด์ ปู้นๆๆๆๆๆ
