ไม่เจ๋งจริงไม่มีชื่อติดมา!วิเคราะห์ 6 ผู้ท้าชิงโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี

ก่อนหน้านี้ รางวัลสำคัญอย่างนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ ผู้เล่นดาวรุ่งยอดยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาล 2017-18 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ถูกประกาศผล ทราบผู้ชนะไปหมดแล้วเรียบร้อย

อีกหนึ่งรางวัลสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือ "ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี" ผู้เปรียบเสมือนเป็น "กัปตัน" คอยบังคับทิศทางเรือให้ถึงเส้นชัย ล่าสุดมีการประกาศรายชื่อผู้ท้าชิงมาทั้งสิ้น 6 คน มาวิเคราะห์กันว่า เฮดโค้ชคนใดถึงมีชื่อมาเป็นหนึ่งในแคนดิเดต และ มีโอกาสเช้าชิง

1. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

กลายเป็นตัวเต็งแบบนอนมา สำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้สร้างความเกรียงไกรให้กับทัพ "เรือใบสีฟ้า" หลังสามารถนำต้นสังกัดเข้าป้ายคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชนิดทิ้งอันดับ 2 อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เห็นฝุ่น หากย้อนไปช่วงต้นฤดูกาล นับตั้งแต่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 จากนั้นอีก 20 เกมต่อไป เฮดโค้ชชาวสเปน เก็บชัยรวดเดียว ด้วยการใช้แท็คติค บดขยี้คู่แข่ง เดินหน้าฆ่ามัน ไม่ว่าจะเหย้าหรือเยือน อาจมาสะดุดเกมเสมอ คริสตัล พาเลซ หรือแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทว่าก็ไม่ได้หยุดความร้อนแรง "เดอะ ซิตี้ เซนต์" ลงได้เลย ปัจจุบัน เป๊ป ยังมีโอกาสนำทีมสร้างประวัติศาสตร์ จบฤดูกาลด้วยการแตะหลัก 100 คะแนน

2. เจอร์เก้น คล็อปป์

อาจจะมีออกอาการกระท่อนกระแท่นให้เห็นกันบ้างในช่วงต้นฤดูกาล แต่กระนั้นเมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้ "เครื่องจักรสีแดง" ตื่นจากภวังค์ และกลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ด้วยการขยับเข้ามาติดอันดับท็อปโฟร์ โดยผลงานเด่นๆของเฮดโค้ชชาวเยอรมัน คงต้องยกให้เป็นเกมที่เปิดซิงยัดเยียดความปราชัยครั้งแรกให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ อีกทั้งหนึ่งในชิ้นงานโบว์แดงที่ทำให้กับ ลิเวอร์พูล ก็คือทำเซอร์ไพรส์ นำทัพ "หงส์แดง" ฝ่าฟันวิกฤติ ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับสโมสร เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน

3. ราฟาเอล เบนิเตซ

ท่ามกลางกระแสการกดขี่จาก ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสร และ เตรียมผ่องถ่ายขายให้กับผู้อื่น หากเป็นกุนซือรายอื่นคงตะเพิดก้นหนีไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ทว่า เบนิเตซ ยังคงยืนหยัดสู้ ด้วยเม็ดเงินการทำทีม 45 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นับว่าเป็นตัวเลขที่สุ่มเสี่ยงต่อการสู้เพื่อรอดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของ ""สาลิกาดง" จะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีชายชื่อ ราฟาเอล เบนิเตซ เพราะเฮดโค้ชรายนี้ พาทีมรอดตกชั้นแน่นอนแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งไปกว่านั้นก้าวมาติดท็อปเทน จึงไม่แปลกที่ถูกเสนอชื่อให้เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงกุนซือยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาล

4. คริส ฮิวจ์ตัน

แปลกใจเหมือนกันที่ได้เห็นชื่อของ คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เข้ามาเป็น 1 ใน 6 ลุ้นชิงรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมประจำปี ผลงานอันล่าสุดเข้าตากรรมการเหลือเกิน เมื่อเปิดบ้านเฉือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ 1-0 ประกาศศักดาว่า "พวกข้า" รอดตกชั้นอย่างเป็นทางการแน่นอนแล้ว โดยในช่วงรอยต่อระหว่างเดือน ก.พ. - มี.ค. นับเป็นช่วงเวลาพีคของ ฮิวจ์ตัน เมื่อช่วยทัพ "นกนางนวล" ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1, บุกเสมอ สโต๊ก ซิตี้ 1-1 และ ชนะ สวอนซี 2-1 ต่อยอด้วยการเฉือน อาร์เซนอล 2-1 ส่งผลเคยได้รับรางวัลผู้จัดการทีม ประจำเดือนกุมภาพันธ์มาแล้ว

5. ฌอน ไดซ์

เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์เหลือเกิน สำหรับการทำทีมของ ฌอน ไดซ์ หลังสามารถพา เบิร์นลี่ย์ ขยับขึ้นมาสูงถึงอันดับ 7 ได้โควต้าไปเล่นเวทียุโรปอย่างแน่นอนแล้วในซีซั่นหน้า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 51 ปี ถึงแม้ เบิร์นลี่ย์ จะไม่มีเงินมหาศาล แต่พวกเขาแสดงศักยภาพให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อผู้จัดการทีม เน้นการเล่นแบบทีมเวิร์ค มากกว่าการใช้ความสามารถเฉพาะตัว ส่งผลให้เห็นว่าทุกๆตำแหน่งโดดเด่นเท่ากัน อย่างเช่นก่อนจะแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล 0-5 พวกเขาเคยเสียไปเพียง 32 ประตู น้อยสุดเป็นอันดับ 3 ของลีก นี่คือปัจจัยสำคัญทำให้ ฌอน ไดซ์ กลายเป็นหนึ่งในแคนดิเดตลุ้นรางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี นั่นก็คือผลงานการเล่นที่ เทิร์ฟ มัวร์

6. รอย ฮ็อดจ์สัน

เหมือน "ปู่รอย" เข้ามารับเผือกร้อน ในการฉุด พาเลซ ขึ้นมาจากขุมนรก หากวิเคราะห์กันตรงๆแน่นอน กุนซือที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ ย่อมได้เปรียบมากกว่ากับการถูกเลือกให้เป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี แต่ถ้าเจาะลึกลงไปมากกว่านั้น ฮ็อดจ์สัน ทำให้ "ปราสาทเรือนแก้ว" กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จากทีมที่เคยคิดว่าจะต้องตกชั้นแน่ๆ กลับทำแต้มขยับขึ้นมาอยู่รอดปลอดภัยบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแน่นอนแล้ว เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง ถ้าไม่เก๋าประสบการณ์บอกเลยว่าเรื่องแบบนี้ "ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ"