ไทยลีกกลายเป็นสมรภูมิลูกหนังที่ใครต่อใครต่างถวิลหา โดยเฉพาะพ่อค้าแข้งแดนปลาแดก เพราะมันหมายถึงโอกาสสร้างชื่อเสียงพร้อมเม็ดเงินตอบแทนที่สูงขึ้น คงไม่มีใครอยากจะเอาตัวเองไปโลดแล่นในระดับที่ต่ำกว่าเป็นแน่
ทว่ามันคงจะพูดเกินจริง ถ้าจะบอกว่า T2 กลายเป็นแห่งเพาะพันธุ์แข้งไทยฝีเท้าดีมากมาย และไต่เต้าสู่ทำเนียบทีมชาติมาแล้ว หลายต่อหลายคน ลีกพระรอง 2018 ฟาดแข้งกันครบ 14 เกมในช่วงเลกแรก ขอบสนามได้เฟ้นหา 5 แข้งไทยแดนสยามฟอร์มดีเยี่ยม สมควรพิสูจน์ฝีเท้าในไทยลีก ไม่ช้าเสียเวลาจนเกินไปเชิญอ่านเนื้อหาด้านล่างได้เลยครับ
1.วิทยา มูลวงศ์
แบ็คซ้ายหมายเลข 2 ของ “พญาไก่ชน” คืออดีตเยาวชนบีอีซี เทโรศาสน รุ่นเดียวกับพีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แต่กลับสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่มังกรไฟ ไม่ได้ เพราะปัญหาความฟิตและอาการบาดเจ็บที่เรื้อรังมานาน จนต้องพเนจรไปหลายสโมสร เช่น สงขลา ยูไนเต็ด,ประจวบ, นครปฐม ก่อนจะมาลงเอยที่หนองบัว พิชญ ในฤดูกาล 2018
ธีระเวคิน สีหะวงศ์ โค้ชหนุ่มวัยไม่เฉียบใกล้ 40 ปี นำ วิทยา มาปักหลักเป็นตัวจริงในทีมด้วยฝีเท้าที่คู่ควรกับไทยลีก ทำให้เกมรับทางฝั่งซ้ายของหนองบัว กลายเป็นจุดเด่นแทนจุดบอด 13 เกมในลีกพระรอง พ่วงด้วยกึ๋นความเก๋าเกมและประสบการณ์ของหมอนี่ ช่วยนำพาสโมสรหนองบัวฯ ทีมนอกสายตา หักปากกาเซียนขึ้นไปจบเป็นจ่าฝูงเลกแรกไทยลีก 2 ได้เหนือความคาดหมาย
เป็นที่เชื่อได้ว่าอีกไม่น่าคงมีทีมไทยลีกที่กำลังมองหาแบ็คซ้ายเล่นได้ทั้งเกมรุกและรับ จีบไปร่วมชายคาเร็ววันนี้แน่นอน
2.ศฤงคาร พรมสุภะ
แนวรับจากจังหวัดศรีสะเกษ อพยพตามครอบครัวมาอยู่ที่จังหวัดระยอง เขาไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นผู้เล่นดีกรีทีมชาติไทย ชุดเหรียญทองซีเกมส์ 2017 แต่ทว่ากราฟชีวิตแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเพราะกีฬาลูกหนังที่เขารัก
เขาคือดาวเตะโนเนม จากเด็กเยาวชนระยอง เอฟซี ส่งแข่งโค้กคัพ กลายเป็นนักเตะตัวหลักของสโมสรม้านิลมังกร 3-4 ปีหลังสุด จนมีชื่อรับใช้ชาติ ทั้งที่ไม่เคยผ่านฟุตบอลนักเรียนมาก่อน
ศฤงคาร พรมสุภะ รูปร่างไม่สูงใหญ่ แต่สิ่งที่เขามาทดแทนคือความนิ่งในการเข้าสกัดบอลจากคู่แข่งที่แม่นยำมากและหนักหน่วง เขาคือกำลังสำคัญของทีมม้านิลมังกรขาดไม่ได้ แม้จะมีดีกรีทีมชาติคล้ำคอจนได้รับการทาบทามจากหลายสโมสรในไทยลีก แต่ดูเหมือนว่าเขาอยากปักหลักช่วยทีมที่ให้ชีวิตฟุตบอลแก่เขา มากกว่าจะไปนั่งสำรองเหมือนแข้งรุ่นราวคราวเดียวกัน
3.เอกนิษฐ์ ปัญญา
เด็กระเบิดจากอำเภอพญาเม็งราย ผู้มีอันเดรส อิเนียสต้า เป็นไอดอลลูกหนัง เขาผู้นี่เคยเป็นอดีตเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยสุดลงสนามไทยลีก และอายุน้อยสุดที่ทำประตูในไทยลีก (15 ปี 11เดือน 28 วัน) ก่อนจะโดนศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ของบุรีรัมย์ ทำลายสถิติในเวลาต่อมา
“บุ๊ค” เก่งกาจเกินกว่าเพื่อนร่วมลุ้นสมัยเป็นเด็กฝึกหัดของเชียงราย ยูไนเต็ด ทำให้ถูกเรียกไปซ้อมในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อปี2015 ใช่คุณอ่านไม่ผิดหลอก ทีมกว่างโซ้งคาดหวังในตัว เอกนิษฐ์ ไว้มาก และมองเห็นว่าถ้าอยู่ในทีมโอกาสลงเล่นแทบเป็นศูนย์ จึงส่งไปลับฝีเท้าที่เชียงใหม่ เอฟซี ในฤดูกาล 2018
เอกนิษฐ์ ปักหลักเล่นในไทยลีก 2 ได้สบาย เด็กวัย 19 ปี เล่นไป 12 เกมยิง 1 ตุง จับคู่ทำเกมตรงกลางสนามร่วมกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ชนิดเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนเริ่มมีความหวังลุ้นตั๋วไทยลีก
4.กฤษณ เกษมกุลวิไล
อดีตฮีโร่ผู้สังหารประตูชัย นำพาสุโขทัย เฉือนชนะนครปฐม ยูไนเต็ด 1-0 จนได้ตีตั๋วมาเล่นไทยลีก เมื่อปี 2016 แต่ทว่าชีวิตฟุตบอลหลังจากนั้นเป็นต้นไปมาของ “ยีนส์” กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง
ดาวเตะเทคนิคดีจากกาญจนบุรี กลับใช้เวลาส่วนใหญ่กับทีมค้างคาวไฟ บนมานั่งสำรองเป็นหลัก เขาโดนหมางเมินกับบทบาทตัวจริง 2 ปีในถิ่นทุ่งทะเลหลวง ลงสนามไป 34 เกม ยิง 2 ประตู ทำให้โดนปล่อยตัวออกจากทีมเมื่อปี 2017
สุดท้ายกลายเป็นทางสมุทรสาคร น้องใหม่ไทยลีก 2 เซ็นสัญญา กฤษณ ไปร่วมทีม ซึ่งเขาโลดแล่นในไทยลีก 2 ได้แบบไร้ปัญหา คลาสบอลและฝีเท้าอยู่ในระดับเกรดพรีเมี่ยม 7 เกมในลีกพระรอง สังหารไป 3 ประตู อาจจะน้อยเกินไป แต่เขาคือคนสำคัญที่ในเกมรุกของทัพสำเภาผยองที่จะขาดไม่ได้เสียแล้ว
5.ธนากรณ์ แดงทอง
หัวหอกสัญชาติไทยเมื่อหลายปีก่อน เคยมีหลายๆเสียงแนะนำว่าควร เรียก ธนากรณ์ ไปรับใช้ทีมชุดใหญ่ เนื่องจากมีผลงานที่สม่ำเสมอในการเล่นให้แก่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด แต่วันเวลาผ่านไป ธนากรณ์ ถูกมองข้ามจากดาวเตะเวทีไทยลีก เปลี่ยนสถานะเป็นแข้งที 2 เต็มตัว
แม้จะมีข้อเสนอมากมายจากทีมระดับลีกสูงสุดแดนสยาม ที่ประเคนเงินเพื่อให้ย้ายไปร่วมชายคา แต่ “บี” กลับเลือกความมั่นคงในชีวิตข้าราชการทหาร ปักหลักรับใช้ทีมกองทัพบกต่อไป
“บี” คือกองหน้าประเภทจอมเข้าฮอส หาจังหวะจบสกอร์ มากกว่าจะเป็นประเภทวันแมนโชว์ 13 เกมในลีกพระรองฟอร์มอาจจะเปรี้ยงเหมือนเก่า ซัลโวได้แค่ 2 ลูก แต่พอเข้าใจได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีแข้งนอกดีกรีแพงนำเข้าจากบราซิล อย่าง เอริเวลโต้ เป็นกองหน้าเบอร์1 ทำให้ต้องปรับบทบาทและสไตล์การเล่นกับอาร์มี่ใหม่อีกครั้ง เพื่อจะยืนหยัดสู้กับทีมรักต่อไป
