มาร์เซลโล ลิปปี้ คือโค้ชดีกรีกระฉ่อนโลกรายล่าสุด ที่จะคุมทีมชาติจีนมาดวลฝีเท้ากับทัพช้างศึก แต่สถานการณ์ของขรัวเฒ่าจากเวียเรียจโจ้ ก็ไม่น่าไว้วางใจด้วยเช่นกัน เนื่องจากผลงานระยะหลังของแข้งแดนมังกรสวนทางกับเม็ดที่ ลิปปี้ รับต่อปี 23 ล้านยูโร หรือ874 ล้านบาท
จีน ภายใต้การทำทีมของกุนซือดีกรีแชมป์โลก 2006 กับทัพอัซซูรี่ ลงเล่น 8 เกมหลังสุด ปราชัยถึง 5 แมตซ์ ชนะเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ซึ่งเกิดจากการเปิดบ้านเฉือนชนะเมียนมา 1-0 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทำให้เกิดข่าวลือมากมาย ถ้าหาก ลิปปี้ ไม่สามารถนำจีนแผ่นดินใหญ่ บุกมาคว้าชัยเหนือแข้งแดนสยาม อาจสวมรองเท้าคอนเวิร์สแยกทางก่อนที่ทัวร์นาเมนต์เอเชียน คัพ จะเริ่มขึ้น จะว่าไปแล้วประเทศ แต่จะว่าไปแล้วสังเวียนราชมังคลากีฬาสถาน คือสนามปราบเซียนเอาเสียด้วย มีโค้ชดีกรีมากมายเลิศหรู กลับหน้าแหกมาแล้วนับไม่ถ้วน
ขอบสนามขอเสนอ 10 กุนซือหน้าแหก ขายหน้าบนสนามฟุตบอลหมายเลข 1 ของไทย ไม่ชักช้าเสียเวลาเชิญ รับชมเนื้อหาด้านล้างเลยครับ
1.ฮู จุง มู
ตำนานแข้งชาวโสมขาวผู้รับใช้ชาติมาร้อยกว่านัดและเคยไปผจญภัยกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาแล้ว คือคนที่คลุกคลีกับตำแหน่งกุนซืออารีดังไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง โค้ชดีกรียอดเยี่ยมของเอเอฟซี เมื่อปี 2009 ผู้นำเกาหลีใต้ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเวิล์ด คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ ก่อนจะปราชัยต่ออุรุกวัย 1-2 จากฝีตีนของหลุยส์ ซัวเรซ นี่คือเครดิตอันงดงาม
14 ธันวาคม 1998 คงไม่ใช่วันที่น่าจดจำสำหรับ ฮู จุง มู ในฐานโค้ชโสมขาว ทีมที่ขึ้นชื่อรอบสุดท้ายเวิลด์ คัพ ฟรองซ์ 98 กลับมาเสียท่าให้แก่หมายเลข 1 แห่งย่านอาเซียน ที่เหลือผู้เล่นแค่ 9 คน ในสนาม ประตูชัยช่วงโกลด์เด้นโกล จาก ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ทำให้ไทยพิชิตเกาหลีใต้ 2-1 ในฟุตบอลชายเอเชียน เกมส์ 1998 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลไทยและนักเตะทีมชาติไทยชุดนั้น จวบจนถึงปัจจุบัน
2.อ๊าด เด มอส
โค้ชมากประสบการณ์ชาวดัตซ์ ผู้ผ่านงานคุมทีมร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ําในบ้านเกิด ตามด้วย เบลเยียม,เยอรมนี, ญี่ปุ่น, ซาอุดิอาระเบีย แต่โปรไฟล์ที่ได้รับการยอมรับคงหนีไม่พ้นการนำพา ไอแอ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, พีเอสวี และ อันเดอร์เลชท์ ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ในช่วงต้นทศวรรษ 80 ถึงต้นยุค 90
อ๊าด เด มอส มาพร้อมความหวังใหม่สำหรับวงการลูกหนังยูเออี เนื่องจากโปรไฟล์ที่ขึ้นหิ้ง น่าจะชวนฝันหวานถึงการซิวโควตาฟุตบอลโลก 2006 ได้ไม่ยาก แต่ชีวิตจริงกับเป้าหมายมันไม่เป็นดั่งหวังเลย ยูเออี ภายใต้การทีม เด มอส ผลงานในรอบคัดเลือก 24 ทีมโซนเอเชีย กลุ่ม 5 ไปได้สวย
ยกเว้นการมาเยือนทีมชาติไทย ยุคเปลี่ยนถ่ายสายเลือด พร้อมกับกุนซือคนใหม่อย่าง ซิกกี้ เฮลด์ ที่โชว์แข้งพลังหนุ่มสายเลือดใหม่เข้าสู้ เศรษฐีน้ำมันจากอาหรับ ประตูนำตั้งแต่ต้นเกมจาก จักรพงษ์ เจียรสถาวงศ์, อานนท์ นานอก ตามด้วยเทิดศักดิ์ ใจมั่น 3-0 พูลสวัสดิ์ ใส่แข้งจากดูไบ
ความปราชัยเกมนัดดังกล่าว กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ ยูเออี เสียตำแหน่งแชมป์กลุ่มไปให้เกาหลีเหนือ ส่วน อ๊าด เด มอส ชิงลาออกก่อนโดนเอฟเอ ยูเออี ปลดออกจากตำแหน่ง
3.ดเซมาลูดิน มูโซวิช
ตำนานลูกหนังผู้มีลมหายชาวบอสเนียน อดีตผู้ช่วยโค้ชอิวิก้า โอซิม ในทีมชาติยูโกสาลาเวีย ไปโม่แข้งเวิลด์ คัพ 1990 ณ ดินแดนรองเท้าบูธ ในแง่ของศาสตร์ลูกหนังเขาขึ้นชื่อในเรื่องจิตวิทยา หลังจบทัวร์นาเมนต์ที่อิตาลี มูโซวิช เลือกรับเงินมหาศาลจากตะวันกลาง เพื่อช่วยวางรากฐานวงการฟุตบอลกาตาร์ ตั้งแต่ระดับเยาวชนพ่วงด้วยตำแหน่งกุนซือทีมชุดใหญ่
มูโซวิช คัมแบ็คกลับมาทำทีมหนที่ 2 เมื่อปี 2004-2007 ทว่ากลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนวันวาน ก่อนการเตรียมทีมเอเชียน คัพ 2007 บุรุษบอสเนียนนำกาตาร์ มาอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย ที่ราชมังคลาฯ แต่เจอการบีบเกมเร็วของทัพช้างศึก เล่นเอาซะไปไม่เป็น และเป็นฝ่ายปราชัย 0-2 จากการยิงของ ตะวัน ศรีปาน, สุธี สุขสมกิจ
ความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติไทย ทำให้ขุนพลกาตาร์ เสียความมั่นใจไปพอสมควร และร่วงตกรอบแรกเอเชียน คัพ สายบี ไปตั้งแต่ไก่โห
4.ชู กวางฮู
โค้ชยอดเยี่ยมของสมาคมลูกหนังจีน เมื่อปี 2004 หลังประสบความสำเร็จนำเซินเจิ้น เอฟซี หักปากกาเซียน นำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนมังกร ได้รับการทาบทามให้กุมบังเหียนรับจ็อบใหญ่สุดในชีวิต ทำทีมชาติจีน พร้อมความหวังเป็นเจ้าลูกหนังเอเชียน คัพ 2007
ชู กวางฮู มีเวลางานกับทีมชุดใหญ่แดนมังกร ถึง3 ปี ผลงานไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ทว่าเกมเดียวที่สร้างความสั่นคล่อนในชีวิตการเป็นกุนซือ เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เกมอุ่นเครื่องก่อนเอเชียน คัพ 1 เดือน จีน บุกมาลับคมกับช้างศึก
หากพูดตามหน้าเสื่อแข้งมังกรเป็นต่อบานตะไท ทว่ารูปเกมที่ออกมาเด็กในคาถาของ กวางฮู กลับสร้างโอกาสเจาะตาข่ายใส่ โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ไม่ได้ แถมมาเจอทีเด็ดจังหวะประตูชัย 1-0 จาก พิพัฒน์ ต้นกันยา ทำให้เวลานั้นจีนพลาดท่าต่อทีมชาติไทย ในรอบ 17ปี
5.กาเบรียล กัลเดร่อน
อดีตห้องเครื่องทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดรองแชมป์โลก ปี 1990 คือกุนซือชั้นยอดในยุทธจักรลูกหนังตะวันออกกลาง หากินมาไม่น้อยกว่า 11 ปี กัลเดร่อน คือคนที่นำซาอุดิอาระเบีย คว้าตั๋วรอบสุดท้ายเวิล์ด คัพ 2006 แต่กลับโดนไล่ออก ก่อนจะไปรับงานใหม่คุมโอมาน ลุยรอบสุดท้ายเอเชียน คัพ 2007 ที่ไทย แต่มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักสำหรับชายชาวอาร์เจนติเนียน แม้จะเปิดหัวได้สวยกับออสเตรเลีย ในนัดแรก
แต่การโคจรพบกับช้างศึก นัดที่ 2 โอมาน กลับเจอทีเด็ดจากแก้เกมของชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่ส่งพิพัฒน์ ต้นกันยา ลงมาเป็นโจ๊กเกอร์ ซัลโว 2 ประตู ใส่ อาลี อัล ฮับซี่ เรียกว่าเป็นการน็อคชื่อเสียงที่เคยสั่งสมมาของกัลเดร่อน ตายสนิทคาสนามราชมังคลากีฬาสถาน
นอกจากนี้ชัยชนะเกมดังกล่าวของทีมชาติไทย กลายเป็นการเก็บ 3 แต้มแรกในรอบ 35 ปีในรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดของเอเชีย หลังหนสุดท้ายเกิดขึ้นในเอเชียน คัพ ปี 1972 ที่ไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ
เอ็มเร่
