ศึกฟุตบอลไทยลีก ยังคงลงฟาดแข้งกันอยู่ตามปกตท่ามกลางกระแสบอลโลกที่กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนความน่าสนใจมันไปอยู่ที่บอลโลกกันหมดละครับช่วงนี้ แต่ยังไงก็ตามบอลไทยเราก็ต้องเดินหน้าและติดตามกันต่อไป
พูดถึงการแข่งขันในเลกสองตอนนี้ผ่านมาแล้ว 3 นัด กับสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่ตลาดนักเตะจะปิดตัวลง เรื่องการย้ายทีมค่อยมาว่ากันทีหลังครับ วันนี้ที่อยากจะพูดถึงก็คือผลงานของสองทีมในกลุ่มลุ้นหนีตกชั้น ทีมนึงเป็นทีมเล็กต้องหนีตกชั้นอยู่แล้วทุกที ส่วนอีกทีมเป็นบิ๊กเนม ที่ไม่เคยต้องมาเกลือกกลิ้งอยู่ท้ายตารางแบบนี้
ซึ่งทั้งสองทีมดังกล่าวนั้นมีผลงานที่แตกต่างกันมาในช่วง 3 เกมแรกที่ผ่านมา เราจะมาวิเคราะห์กันว่ามันเป็นเพราะเหตุอันใด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
แต่ก่อนจะไปเข้าเรื่องพูดถึงสถานการณ์ในศึกไทยลีกเวลานี้ก่อนแล้วกัน หลังผ่านไปแล้ว 20 เกม
ในส่วนของกลุ่มหัวตารางถือว่าลุ้นกันสนุก เอาจริงๆ ลุ้นแชมป์ผมว่าเบียดกันแค่สองทีมคือ บุรีรัมย์ กับแบงค็อก แม้ทีมที่ทีมมาอย่าง ท่าเรือ และเมืองทองฯ จะฟอร์มแรงเหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วผมว่าคงลุ้นกันแค่สองทีม เจ้าท่า กับ กิเลน เต็มที่ผมว่าลุ้นที่สองหรือรองแชมป์เท่านั้น คงจะเบียดขึ้นไปที่หนึ่งยาก เพราะสองทีมนำเขาก็ไม่มีท่าทีจะตกลงมาเลย
ส่วนกลุ่มกลางตารางที่ดูจะกระโดดขึ้นมาก็เป็นชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ตอนนี้ขยับจากโซนตกชั้นมาอยู่อันดับ 9 ตรงกลางพอดิบพอดี แต่ก็ยังวางใจไม่ได้เพราะมีแต้มนำ 5 ทีมท้ายตารางแค่ 3 คะแนน เท่านั้น เกมนัดสองนัดอันดับก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
และจะว่าไปแล้วตั้งแต่อันดับ 7 อย่างราชบุรี ที่มี 30 คะแนน นำโซนตกชั้นอยู่ 6 แต้มก็ใช่ว่าจะปลอดภัย แต่ทีมพวกนี้คงไม่พลาดหรือแพ้ติดๆ กันหลายแมตช์ ดังนั้นผมว่าคงไม่ถึงขั้นลงไปหนีตกชั้นอะไร แต่ก็ต้องรักษาผลงนเอาไว้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ท้ายตาราง 5 ทีม บวกกับ 4-5 ทีมที่อยู่พ้นขึ้นมาก็ยังต้องลุ้นกันอยู่ ตอนนี้ผมขอกาชื่อ 2 ทีมท้ายตารางอย่าง อุบลฯ และแอร์ฟอร์ซ ออกไปเลย น่าจะไปแล้ว 2 ทีมแน่ๆ ต้องขอโทษแฟนคลับสองทีมนี้ที่ต้องบอกแบบนั้น
ส่วนทีมราชนาวี จริงๆ ก็ควรจะถูกกาชื่อไปด้วยก่อนเริ่มเลกสอง แต่พอดูที่ผลงานสามนัดที่ผ่านมาแล้ว ต้องบอกว่าพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่เหมือนกัน ถึงแม้อันดับจะยังไม่กระเตื้องไปไหน แต่คะแนนมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายังดีแบบนี้อีกสักนัดสองนัดก็หลุดพ้นโซนตกชั้นแน่นอน
ส่วนที่อาการน่าเป็นห่วงคงต้องยกให้กับ บางกอกกล๊าส ที่แพ้มารวด 3 นัด แต้มไม่ขยับไปไหน เช่นเดียวกับสุพรรณบุรี ที่ไม่ชนะใครมานาน รวมทั้งสุโขทัย ,พัทยา พ่วงนี้ก้น่าเป็นห่วงทั้งนั้นถ้าผลงานยังไม่ดีขึ้น
เอาละมาว่ากันที่ทีมฟอร์มแรงในเลกสองนี้กันหน่อย เราไม่พูดถึงทีมนำอย่างท่าเรือ และเมืองทองฯ ที่ฟอร์มเขาดีอยู่แล้ว แต่ที่ผิดหูผิดตาไปอย่างกับคนละทีม ต้องยกให้ ราชนาวี ที่เลกแรกนี่ชนะมาได้แค่ 2 เกม ที่เหลือแพ้กับเสมอ แถมหนักไปทางแพ้ด้วย เละเทะอีกต่างหาก เปลี่ยนโค้ชมาสามสี่รอบ ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาได้
แต่นั่นแหละทั้งหมดนี้ผมขอยกความดีความชอบให้กับทีมงานสตาฟฟ์ชุดใหม่ที่นำโดย ลูโบเมียร์ รีตอฟสกี้ กุนซือชาวเซิร์บ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมตะหานน้ำจากหน้ามือเป้นหลังเท้าเลยทีเดียว ดีขึ้นผิดหูผิดตาและชนะมารวดยังไม่แพ้ใครเลกสอง
กุนซือหัวทองเข้ามาคุมทีมราชนาวี ในช่วงปิดเลกแรก เขามีเวลาในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ไม่นาน โดยเริ่มจากการเสริมทัพเอาแบบนักเตะที่พร้อมใช้งานในตำแหน่งที่ขาดก่อนเลย อย่างแบ็กซ้ายก็ไปได้ มงคล นามนวด ที่ยืมจากบีจีมา แบ็กขวาได้ อธิบดี เอติรัตน์ จากท่าเรือมา กองหลังได้ คิม ฮยอง อิล ดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ชุดบอลโลก 2010 และแชมป์ ACL สองสมัยมา กองหน้าได้ คาญอน มาจากเคลีก
แถมยังมีอีกหลายตัวที่ผมไม่ได้พูดถึง ซึ่งนักเตะที่เอามาล้วนแล้วแต่ใช้งานได้เลย และก็ยังเอาไปใช้ได้ถูกอีก ทุกตำแหน่งลงตัวสุดๆ ผลงานมันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น
นอกจากผลงานที่มันออกมาดีแล้ว ที่เห็นและรู้สึกเลยก็คือความเก่งกาจของ รีตอฟสกี้ ที่ต่อให้เอาคนอื่นมาคุมแล้วเป็นนักเตะชุดนี้ผมว่าก็ไม่ออกมาเป็นแบบนี้ กุนซือชาวเซอร์เบีย เคยฝากผลงานในการคุมทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด มาแล้ว ตอนนั้นเกือบจะพาทีมเลื่อนชั้นมาไทยลีก แต่ดันไปมีเรื่องกันเสียก่อน
ซึ่งเมื่อเข้ามาคุมทีมนาวี เหมือนเขาจะรู้ว่าจะต้องแก้ไขอะไร และจะใช้ใครลงสนาม ลงไปทำหน้าที่ตรงไหนอย่างไร แผนการเล่นเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
สิ่งแรกที่เห็นเลยคือการเข้ามาปรับเกมรับของราชนาวีให้เเกร่งขึ้น เลกแรกราชนาวีเสียประตูติดๆ กันนัดละ 4-5-6 ลูก โดนยิงแบบต้องไปดูเลยว่ามันล้มบอลป่าวแว้ จะโดนยิงเยอะอะไรขนาดนั้น แต่พอรีตอฟสกี้ เข้ามาพวกเขาเพิ่งจะเสียไปแค่ 2 ประตู ถ้าจำไม่ผิดให้กับชลุบรี และพัทยา เกมล่าสุด
ส่วนเกมรุกราชนาวีมี กองหน้าและตัวสร้างสรรค์เกมที่ดีอยู่แล้วอย่าง วิคตอร์ จูเนียร์,อมาดู อ็อตตาร่า และ ชุษณะ นัมคณิสร บวกกับตัวใหม่อย่าง แฮริสัน คาญอน ที่เด็กกว่าและคล่องกว่า โรดริโก้ ก็เลยทำให้มิติเกมรุกดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามทีมราชนาวี ยังมีงานหนักที่ต้องทำต่อไป ในการจะรอดตกชั้นฤดูกาลนี้ให้ได้ ซึ่งถ้าเล่นฟอร์มนี้ได้จนถึงนัดสุดท้ายผมมั่นใจว่ารอดชัวร์
ตอนแรกว่าจะพูดถึงบีจี ด้วยกับฟอร์มที่น่าผิดหวังในสามเกมที่ผ่านมา มันเพราะอะไร แต่นี่ก็ว่ากันยาวละ เดี๋ยวจะเบื่อกันก่อนเพราะขี้เกียจอ่าน เอาไว้ผมมาต่อเรื่องบีจี พรุ่งนี้แล้วกัน
มูซาชิ
