จัดอันดับแข้ง 30+ แต่ค่าตัวแพ๊งแพง

ในที่สุดที่ย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังโยกย้ายไป ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 105 ล้านปอนด์

นี่ขนาดอายุ 33 ปีแล้วนะพี่แกยังสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้อีก หลังเคยจารึกสถิติโลกไว้ตอนปี 2009 ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาโลดแล่นในรั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว จากประเด็นของเจ้าของโค้ดเนม CR7 ที่เกิดขึ้นทาง 'ขอบสนาม' ก็เลยปิ๊งไอเดียว่าจะพาทุกท่านย้อนกันไปดูสักหน่อยว่าที่ผ่านมานั้นมีใครที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวแพงๆ บ้าง หลังจากอายุเลยหลัก 3 ไปแล้ว... เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ (37 ล้านปอนด์)

จากผลงานตลอดช่วงที่ผ่านมากับ ยูเวนตุส ที่ช่วยพาทีมโกยแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 6 สมัยติดต่อกัน ทำให้ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก ทั้งเรื่องการเฝ้าหลังบ้านที่แน่นหนา และภาวะความเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพล แต่แล้วการตัดสินใจที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อตัว โบนุชชี่ เลือกย้ายไป เอซี มิลาน ซะงั้นในยุคที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ในวัย 30 ปี ทั้งที่จริงๆ มีทีมที่ได้ลุ้นความสำเร็จมากกว่าอยากได้แกไปเสริมแกร่งไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ เชลซี ดีเอโก้ มิลิโต้ (24.7 ล้านปอนด์)

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2009-10 ถ้ายังจำกันได้นั่นคือซีซั่นแห่งความยิ่งใหญ่ของ อินเตอร์ มิลาน ที่สามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และหนึ่งในกุญแจสำคัญก็คือการเสริมทัพ ดีเอโก้ มิลิโต้ หัวหอกวัย 30 ปีในตอนนั้นจาก เจนัว มาเสริมความแข็งแกร่งด้วยค่าตัว 24.7 ล้านปอนด์ และเขาก็ทำให้แฟนๆ เนรัซซูรี่ ต้องลืมชื่อของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไปเลยที่ย้ายทีมสวนทางกันในปีนั้น เพราะ มิลิโต้ กระซวกตาข่ายไปถึง 30 ประตูจากกลงสนามทั้งหมด 52 เกม กาเบรียล บาติสตูต้า (23.5 ล้านปอนด์)

กาเบรี่ยล บาติสตูต้า หรือ 'บาร์ติโกล์' ไม่มีคอบอลคนไหนไม่รู้จักชื่อนี้อย่างแน่นอน เพราะนี่คือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของตำนานคนหนึ่งบนโลกลูกหนัง โดยมีเท้าซ้ายอันหนักหน่วงที่อานุภาพร้ายแรงสามารถล้มช้างได้ภายในดอกเดียว พี่แกสร้างตำนานเอาไว้ ฟิออเรนติน่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 1994 พร้อมกับระเบิดตาข่ายได้แบบกระจุยกระจาย ก่อนจะย้ายไป โรม่า ในปี 2000 ตอนอายุ 31 ขวบด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ถือเป็นค่าตัวที่แพงมากๆ และเป็นผู้เล่นที่อายุเกิน 30 ที่ค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้น ซามูเอล เอโต้ (22 ล้านปอนด์)

ซามูเอล เอโต้ ถูกมองว่าเป็นแข้งที่พเนจรไปทั่วเหมือนกัน แต่ในการผจญภัยของเขานั้นก็มีความน่าอิจฉาอยู่เยอะ เพราะประสบความสำเร็จอย่างมากกับการค้าแข้งให้กับ บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน โดยได้สัมผัสกับคำว่าทริปเปิ้ลแชมป์กับทั้ง 2 สโมสร แต่ถ้าดูจากฟอร์มการทำลายตาข่ายคู่แข่งตลอดช่วงที่ผ่านมามันก็คู่ควรที่พี่แกจะได้สัมผัสกับความสำเร็จนั้น อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านพ้นช่วงพีคในอาชีพไป เอโต้ ก็ได้ตัดสินใจหาความท้าทายครั้งใหม่อีกครั้งด้วยการย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน ไป อันชิ มาคัชคาล่า ทีมเศรษฐีจ้าวใหม่ใน รัสเซีย ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ในวัย 31 ปี เคลาดิโอ บราโว่ (17 ล้านปอนด์)

เคลาดิโอ บราโว่ อยู่ปักหลักกับ บาร์เซโลน่า พาพักใหญ่ๆ หลังจบทัวร์เมนต์ ฟุตบอลโลก 2014 ที่เขาทำผลงานได้ดีกับทีมชาติ ชิลี และช่วงชีวิตที่ คัมป์ นู ก็ดูจะเฟอร์เฟคทีเดียว เพราะในระยะเวลาแค่ 2 ปีเขากลับได้สัมผัสกับถ้วยโทรฟี่ถึง 7 ใบมีทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ ตลอดจน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนที่มีใบสั่งจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระชากตัวมาร่วมทีมเมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ด้วยอายุ 33 ปี ถึงแม้ บราโว่ จะเป็นโกล์ที่ใช้เท้าได้เก่งตรงสเป็คของ เป๊ป แต่กลับใช้มือได้ไม่ดีราวกับเป็นคนพิการ บวกกับมีช็อตเหวอบ่อยๆ จนต้องทำให้กุนซือระดับตำนานคนนี้ต้องขายขี้หน้า และปัจจุบันก็มีสถานะเป็นแค่อะไหล่สำรองเท่านั้นของ เอแดร์ซอน โคล้ด มาเกเลเล่ (16 ล้านปอนด์)

ก่อนที่ เชลซี จะมี เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีทักษะสกิลการตัดเกมทำลายจังหวะคู่แข่งเป็นนัมเบอร์วันของโลก ณ ตอนนี้ ย้อนเวลากลับไปสัก 15 ปี โคล้ด มาเกเลเล่ คือคนที่เป็นต้นตำรับในบทบาทนั้นมาก่อน พี่แกย้ายจาก เรอัล มาดริด มา เชลซี ตอนปี 2003 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์กับอายุ 30 ปีพอดิบพอดี ซึ่งถึงแม้ตอนนั้นก็เป็นช่วงผ่านจุดพีคในอาชีพมาแล้ว แต่พี่ท่านก็ยังสามารถรักษามาตรของตัวเองได้ดีไม่มีตกหล่นจนเด็กๆ หลายคนต้องการ และนี่ก็คือหนึ่งในส่วนผสมสำคัญและเป็นผู้ปิดทองหลังพระกับความสำเร็จของ เชลซี ในยุคนั้น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (16 ล้านปอนด์)

ปัจจุบันถึงแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 36 ปีแล้วแต่ 'เดอะ ก็อด' ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็ยังคงผจญภัยอยู่ในโลกลูกหนัง และสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขานั้นเป็นพระเจ้าเลยก็คือการรักษามาตรฐานผลงานอันยอดเยี่ยมต่อเนื่อง วัดได้จากการซัดตาข่ายที่ระเบิดระเบ้อ และนี่ก็คือหนึ่งในนักเตะที่ติดชาร์จผู้ที่อายุผ่านเลข 3 ไปแล้วแต่มีค่าตัวที่สูงเดียว สถิติที่จดบันทึกนั้นเกิดขึ้นตอน ซลาตัน ย้ายจาก เอซี มิลาน ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์และก็พาทีมคว้าแชมป์ได้มากมายตลอด 4 ปีนับตั้งแต่นั้น ลิโอเนล เมสซี่ (ยังประเมินค่าไม่ได้)

ถ้าจะมีใครสักคนบนโลกใบนี้ และในชั่วโมงนี้ที่สามารถทำลายสถิติการย้ายทีมด้วยค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกหลังผ่านพ้นอายุ 30 ปีของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้นั้นมันก็คงต้องเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะอัจฉริยะเบอร์ 1 ของ บาร์เซโลน่า จริงๆ แต่มันก็คงเกิดขึ้นได้ยาก และทีมที่สามารถจ่ายเงินล่าลายเซ็นพี่แกได้ก็มีไม่เยอะ แต่ก็ไม่แน่หรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นในโลกของฟุตบอล...