คับใจอยู่ยาก! 10 แข้งอำลาทีมชาติเพราะมีปัญหา

โอซิล โบกมือลาทีมชาติไปอย่างสุดชอกช้ำ การถูกเหยีดจากชนชาติที่เป็นบ้านเกิดตัวเอง เพราะความแตกต่างของเชื้อชาติ เป็นเรื่องน่าเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ใช่คนแรกที่ต้องเลิกเล่นทีมชาติแบบน่าเจ็บใจ

เมื่อไม่กี่วันก่อน เมซุต โอซิล ทำให้โลกลูกหนังต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง ด้วยการประกาศเลิกเล่นทีมชาติก่อนเวลาอันควร ด้วยอายุเพียง 29 ปี สาเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่อง ฟุตบอล แต่เป็นเพราะเชื้อสายตุรกีของเขาที่จู่ๆ ก็โดนหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นโจมตี เลยเถิดมาทำให้โดนพาดพิงมาว่าเพราะอย่างนี้แหละเขาเลยเหมือนเล่นไม่เต็มที่กับทีมชาติ นั่นไม่โอเค เขาทำอะไรให้กับทีมชาติ เยอรมัน มากมาย ใหญ่สุดก็คว้าแชมป์โลกปี 2014 ถึงขั้นตัดพ้อว่า "ตอนเล่นดีผมเป็นคนเยอรมัน แต่พอเล่นแย่ ก็เป็นตุรกีอพยพ" ที่ผ่านมา โอซิล ไม่ใช่คนแรกที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติเพราะมีปัญหา แล้วก่อนหน้านี้มีใครบ้างที่ต้องอำลาการติดธงก่อนเวลาอันควร ด้วยเหตุผลที่น่าเจ็บช้ำบ้าง

1. รอย คีน

ด้วยความดิบเถื่อน และจริงจังของ "คีโน่" ทำให้เขาในฐานะกัปตันทีมชาติ ไอร์แลนด์ ไม่พอใจเอาซะเลยกับการตัดสินใจของกุนซือ มิค แม็คคาร์ธี ที่พาทีมไปเก็บตัวที่เกาะ ไซปัน ก่อน ฟุตบอลโลก 2002 มันไม่เกิดประโยชน์เลย รวมถึงการกระทำหลายๆ อย่างที่มันดูไม่จริงจัง บวกกับก่อนหน้านั้น แม็คคาร์ธี ด่า คีน ว่าแกล้งเจ็บ ตอนเล่นเกมเพลย์ออฟ เลกสองกับ อิหร่าน นั่นดำเนินไปถึงจุดแตกหัก คีน ด่า มิค ว่า "มิค มึงมันตอแหล มึงมันไอ้โรคจิต กูไม่เห็นมึงเป็นนักเตะ ไม่เคยเห็นเป็นกุนซือ ไม่เห็นมึงเป็นคนด้วยซ้ำ มึงมันไอ้เหี้ยโรคจิต จะเอาไงกับ บอลโลก ก็แล้วแต่มึงเลย ที่กูนั่งสนใจมึงทุกวันนี้เพราะมึงเป็นผู้จัดการทีมของประเทศกูแค่นั้นแหละ จะเอาไงก็เรื่องของมึงเลย" เท่านั้นแหละ คีน ก็โดนส่งกลับบ้าน และไม่ได้ติดทีมชาติอีกเลย หลังจากนั้น 2 ปี ไอร์แลนด์ เปลี่ยนกุนซือแล้ว ไบรอัน เคอร์ กุนซือคนต่อไป ไปขอร้องให้ คีน กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้กลับมาในฐานะกัปตันอีกต่อไป และไม่ถูกพูดถึงเท่าที่ควร ก่อนจะเลิกไปจริงๆ ตอนทีมไม่ผ่านรอบคัดเลือก บอลโลก 2006

2. สเตฟาน คีสลิงก์

การตัดสินใจหันหลังให้ทีมชาติเยอรมันของ คีสลิงค์ ถือเป็นความชอกช้ำในฐานะนักเตะอาชีพ นั่นคือการถูกเมินจากกุนซือ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012-13 และ 2013-14 ฤดูกาลก่อน ฟุตบอลโลก ที่บราซิล จะเริ่มเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม 2 ซีซั่นนั้นเขายิงในลีกรวมกันถึง 40 ลูก โดดเด่นมากในฐานะกองหน้าตัวเป้า แต่สุดท้ายเขาโดน โยอัคคิม เลิฟ เมิน แบบไม่ใยดี ทั้งๆ ที่ตอนนั้นทีมไม่มีทั้ง มาริโอ โกเมซ และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ที่บาดเจ็บ เขาตัดสินใจโบกมือลาทันที ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เพราะตัวเองก็พยายามอย่างหนักแล้ว สุดท้ายเขาประกาศชัดว่าถ้า โยกี้ เลิฟ ยังอยู่เขาจะไม่เล่นให้ทีมชาติ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ และ คีสลิงก์ ก็แก่จนไม่มีทางกลับมาติดธงแล้ว เรื่องของ คีสลิงก์ เป็นกรณีศึกษาของหลายๆ คน นักเตะเยอรมันหลายคนเล่นดีมากในฤดูกาลปกติ บางครั้งเป็นดาวซัลโวลีกด้วยซ้ำ แต่ เลิฟ ก็เลือกที่จะเรียกแต่นักเตะที่ตัวเองชอบมาติดทีมอยู่ดี ล่าสุดก็อย่าง ลีรอย ซาเน่ ที่เล่นดีแทบตาย สุดท้ายไม่ได้ไป ฟุตบอลโลก 2018

3. รัดย่า เนียงโกลัน

กรณีของ เนียงโกลัน ไม่ต่างจาก คีสลิงก์ เลย เขาแค่ไม่ถูกใจโค้ช โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เท่านั้น เพียงแต่ตอนนี้ไม่ถูกพูดถึงแล้ว เพราะเบลเยี่ยมคว้าอันดับ 3 ใน ฟุตบอลโลก 2018 ได้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ มาร์ติเนซ เข้ามาทำทีม เนียงโกลัน ก็ไม่ค่อยได้โอกาสติดธงอยู่แล้ว จนกระทั่งการประกาศรายชื่ 23 คนไปเล่น บอลโลก นั่นก็มาจนถึงฟางเส้นสุดท้าย เขาบอกว่า เขาเจ็บปวดที่พยายามแทบตายแต่สุดท้ายก็ถูกเมิน ทำให้เขาประกาศอำลาทีมชาติไปเลย เรื่องเบื้องหน้าเป็นแบบนั้น แต่เบื้องหลังว่ากันว่าเป็นเพราะเรื่องความมุ่งมั่น และระเบียบวินัย รวมถึงการติดบุหรี่ ซึ่งเอาเข้าจริง มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้

4. เวย์น บริดจ์

การเลิกเล่นทีมชาติของ เวย์น บริดจ์ เป็นเรื่องที่โคตรช้ำ แต่ดูเป็นลูกผู้ชายดี ณ ตอนนั้นเขาเป็นแบ็กซ้ายฝีเท้าดีคนหนึ่ง และหาได้ยากในอังกฤษในฐานะแข้งซ้ายธรรมชาติ แม้ว่าตอนนั้นจะมี แอชลีย์ โคล เป็นตัวหลัก แต่ บริดจ์ ก็เป็นตัวสอดแทรกที่สไตล์แตกต่าง และเปลี่ยนเกมได้อย่างดีคนหนึ่ง เขาประกาศถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษในช่วงปี 2010 หลังจากมีปัญหากับ จอห์น เทอร์รี่ เพื่อนรักที่ตอนนั้นเป็นกัปตันทีม "สิงโตคำราม" หลังโดนแนวรับเพื่อนร่วมทีมดอยเมียไปแดกตามข่าวฉาวอย่างที่แฟนบอลรู้กัน ไม่งั้นเจอหน้ากันในแคมป์ คงมีวางมวยแน่ๆ

5. อีริค คันโตน่า

ย้อนไปเมื่อปี 1995 คันโตน่า กำลังเล่นได้ดี ฟอร์มกำลังยอดเยี่ยม ไอเมต์ ฌักเกต์ กุนซือทีมชาติ ฝรั่งเศส ก็ตั้งใจจะปั้นทีมโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับตั้งเขาเป็นกัปตันทีม ทุกอย่างกำลังไปได้สวย จนกระทั่งเหตุการณ์ "กังฟูคิก" อันลือเลืองที่ เชลเฮิร์ทส์ ปาร์ค ชื่อเสียงเขาพังพินาศ แถมโดนแบนจากฟุตบอลไป 8 เดือน พ้นโทษแบน แฟนๆ "ปีศาจแดง" ยังให้การต้อนรับเขากลับมาในฐานะ "เดอะ คิง" และยังกลับมาช่วยทีมได้เหมือนเดิม ทว่ากับทีมชาติไม่ใช่ เมื่อเขาโดนแบน เกิดเพลย์เมกเกอร์คนใหม่มาทดแทนเขา นั่นคือ ซีเนดีน ซีดาน ทำให้ ฌักเกต์ ริบปลอกแขนกัปตันของเขาและตัดเขาออกจากทีมชุดลุย ยูโร 1996 พร้อมบอกว่า จะเรียกมาทำไม ไม่มีทีมก็ผลงานดีอยู่แล้ว สุดท้าย ฝรั่งเศส ก็ไปได้แค่รอบ 8 ทีมเท่านั้นในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว และ "ก็องโต้" ก็ไม่ใยดีการติดธงอีกเลย

6.เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง

บัวเต็งประกาศอำลาทีมชาติ กาน่า ตอนอายุ 24 ปี เมื่อปี 2011 ด้วยเหตุผลว่า "เหนื่อย" ท่ามกลางคำสาปแช่งและสมน้ำหน้าของผู้คนมากมาย แต่นั่นยังไม่จบ เพราะดูจะเป็นเรื่องงี่เง่าเสียมากกว่า เพราะเมื่อปี 2013 เขากลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง พาทีมลงเล่น ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดเพลย์ออฟ กับ อิยิปต์ และแน่นอน เขาทำได้ และได้เป็นหนึ่งในขุนพลลุยบอลโลก 2014 ที่บราซิลด้วย และแล้วก็มาถึงจุดแตกหัก เขาและ ซัลลี่ มุนตารี่ โดนส่งตัวกลับบ้าน ทั้งๆ ที่กำลังจะเตะเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยเหตุผลเรื่องพฤติกรรม หลังจากเขาไปด่าการทำงานของ เจมส์ เควซี่ อัปเปีย กุนซือของทีม ซึ่งภายหลังเขาออกมาบอกว่าเพราะทีมไม่มีความเป็นมืออาชีพ เขาเลยทำแบบนั้น และนั่นก็เป็นการสั่งลาทีมชาติของเขา

7. แบรนด์ ชูสเตอร์

ฉายา "ขบถลูกหนัง" ไม่ได้ได้มาเพราะมีพระตั้งให้ แต่เพราะพฤติกรรมพี่แกนี่แหละที่พร้อมบวกกับทุกคน ฝีเท้าในตอนนั้นเป็นระดับตำนานแน่นอน ทักษะไม่เป็นสองรองใครเล่นให้ทีมใหญ่ในสเปนครบทั้ง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ แอตฯ มาดริด แต่การพร้อมบวกของพี่แกเลยก่อปัญหาไปด้วย ไล่ตั้งแต่ เพื่อนร่วมทมอย่าง พอล ไบรท์เนอร์ และ คาร์ล-ไฮน์ซ รุมเมนิเก้ แม้แต่กุนซือ จุ๊ปป์ แดร์วัลล์ อีก เขาได้เล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่แค่ ยูโร 1980 แค่รายการเดียว ฟุตบอลโลก ไม่เคยเล่นสักครั้ง เพราะขอเลิกรับใช้ชาติตอนอายุ 24 เพราะปัญหาพวกนี้แหละ คนที่พยายามเข้ามาจัดการคือ เดเอฟเบ แต่ก็ไม่เป็นผล เมียพี่แกก็ไปมีปัญหากับ สหพันธ์อีก ทีนี้เลิกคุย เขากับทีมชาติ ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย

8. ซามีร์ นาสรี่

มีแค่ฝีเท้าแหละที่ดี สำหรับนักเตะคนนี้ เพราะที่เหลือก็แค่พวกอีโก้สูงแบบโง่ๆ คนหนึ่ง เขาออกมาวิจารณ์สหพันธ์ฟุตบอล หลังทีมชาติตกรอบ ยูโร 2012 เหมือนที่เขาชอบด่ากราดทีมเก่า หลังย้ายทีมนั่นแหละ จนสุดท้ายก็โดนแบนไปจากการรับใช้ชาติ แน่นอนตอนนั้นคนเชื่อว่าพ้นแบนแล้วจะปรับปรุงตัว รอให้โอกาส แต่เปล่า สันดอนขุดง่าย แต่สันดานขุดยาก นาสรี่ ยังเป็นตั่วเฮีย ปากเสียเหมือนเดิม แถมอวดดีไม่ยอมนั่งม้านั่งสำรองด้วยถ้าติดทีม สุดท้าย ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ที่เคร่งวินัยเหนืออย่างอื่นก็หั่นชื่อเขาจาก ฟุตบอลโลก 2014 ไป และเขาก็ประกาศเลิกเล่นไป พร้อมบอกว่า "มึงจะเอาคนไปนั่งทำไมถ้าไม่คิดจะส่งลงเล่น" ตามด้วยศรีภรรยาผู้น่ารัก ด่า ฟักแฟงแตงโม ให้กับฝรั่งเศสบนทวิตเตอร์อีก ศีลเสมอกันล้วนๆ ทุกวันนี้ ไม่ได้ดีทั้งคู่ไปแล้ว

9. อาร์ดา ตูราน

มิดฟิลด์ที่ดังและเก่งที่สุดของ ตุรกี ในเวลานั้นแสดงความเป็นลูกผู้ชาย ประกาศขอเลิกเล่นทีมชาติ หลังจากเขาทำร้ายร่างกายนักข่าว ท่ามกลางควมงงงวยของคนในประเทศ เพราะเขาคือหัวใจหลักของทัพ "ไก่งวง" ในเวลานั้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 เขากับทีมชาตินั่งเครื่องบินกลับบ้านพร้อมกับพวกนักข่าว หลังเสร็จเกมอุ่นเครื่องกับ มาร์เซโดเนีย ตูราน เจอกับ ไบราล เมเซ นักข่าวที่เคยเขียนข่าวกล่าวหาเขาว่ามีส่วนรู้เห็นกับสหพันธ์เรื่องยักยอกเงินโบนัสที่ควรจ่ายใน ยูโร 2016 ตูราน ปรี่เข้าไปบีบคอและพร้อมบวกมีเรื่องบนเครื่องบิน สุดท้ายก็กล้าทำกล้ารับผิดชอบ ออกมาประกาศเลิกยุ่งเกี่ยวกับทีมชาติในทันที

10. โยฮัน ครัฟฟ์

ตำนานลูกหนักชาวดัตช์ประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลงจากถอนตัวไม่ไปเล่น ฟุตบอลโลก 1978 ที่ อาร์เจนติน่า ย้อนไปก่อนหน้านั้น เขาคือหัวจักรและแกนหลักสำคัญในการพา "อัศวินสีส้ม" เข้าไปใกล้กับการเป็นแชมป์โลกมากที่สุดในปี 1974 แต่กลับไปแพ้ให้เจ้าภาพ เยอรมันตะวันตก ทุกอย่างไม่มีอะไรเลย ดำเนินไปตามปกติ ครัฟฟ์ พาทีมลงเล่นรอบคัดเลือก และไป บอลโลก ได้แบบสบายๆ แต่พอถึงเวลาจะไปจริงๆ กลับถอนตัวดื้อๆ ทั้งที่ไม่เจ็บ พร้อมเหตุผลที่ดูงี่เง่ามากว่า "ไม่พอใจความเป็นเผด็จการของ อาร์เจนติน่า" ฮอลแลนด์ แพ้ อาร์เจนติน่า เจ้าภาพ ในรอบชิงชนะเลิศ ได้แค่รองแชมป์อีกแล้ว และทุกคนเชื่อว่าถ้ามี ครัฟฟ์ ทีมอาจเป็นแชมป์ก็ได้ ทำให้แฟนบอลใน ฮอลแลนด์ ไม่พอใจเขาอย่างมาก และเขาก็แขวนสตั๊ดไปท่ามกลางความสงสัยมากมาย เรื่องเหมือนจะจบแค่นั้น แต่ใครจะรู้เมื่อปี 2008 ครัฟฟ์ ก็ออกมาเปิดเผยที่แท้จริงกับสื่อ ตอนนั้นเขาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า เขาอยู่ในบ้านพัก ตัวเขาภรรยาและลูกโดยคนร้ายบุกปล้นเอาปืนจ่อมัดมือมัดเท้าอย่างน่ากลัว แม้สุดท้ายจะขอความช่วยเหลือได้ทัน ไม่มีใครบาดเจ็บ และจับโจรได้ก็จริง แต่สภาพจิตใจเขาย่ำแย่มาก เขาและลูกๆ ต้องมีตำรวจตามประกบไปทุกที่ เขาไม่กล้าทิ้งลูกเมียไว้ที่บ้าน ไปเล่นฟุตบอลโลกอย่างสบายใจได้เลย จะหอบลูกเมียไปก็กลัว เพราะ อาร์เจนติน่า ตอนนั้นก็ไม่ได้ปลอดภัยนัก สุดท้ายเขาก็ย้ายออกจาก บาร์เซโลน่า ด้วย ไปอยู่ที่ อเมริกา ที่เขาคิดว่าปลอดภัยกว่านั่นเอง

- เทพเฟี๊ยต -