วันนี้แล้ว (10 สิงหาคม 2018) ที่ฟุตบอลลีกหมายเลข 1 ของโลกใบนี้อย่างพรีเมียร์ลีก ได้ฤกษ์เปิดฉากฟาดแข้งกันอย่างเป็นทางการระหว่างแมนฯยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซึ่งจะว่าไปมันดันตรงกับวันที่ลูกหนังบอลชายเอเชียน เกมส์ 2018 ณ ประเทศอินโดนีเซีย เริ่มต้นคิกออฟกันแบบไม่เป็นทางการด้วยเช่นกัน
แม้จะไม่ได้ทัวร์นาเมนต์ที่ฟีฟ่า เนื่องจากเพราะเป็นการใช้แข้งอายุไม่เกิน 23 ปี แต่กลับมี 1 ทีมจากเกาะอังกฤษ คือท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เลือกปล่อย แข้งคนสำคัญหมายเลข 7 มาร่วมวงบอลชายเอเชียน เกมส์ ในครั้งนี้
ซน ฮึง มิน ต้องขอโทษขอโพยสโมสรยกใหญ่เพื่อปลีกตัวไปรับใช้ชาติ โดยจะไม่มีส่วนร่วมในเล่นเกมลีกไปร่วม 1 เดือน
ขอบสนามขอนำเสนอ 6 ปัจจัย ที่แข้งกิมจิรายนี้ยอมหักข้อกับสเปอร์เพื่อเลือกไปช่วยเกาหลีใต้ป้องกันเหรียญทองลูกหนังบอลชายเอเชียน เกมส์ 2018
1.ต้องการป้องกันแชมป์
แม้เกาหลีใต้ จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของเหรียญทองบอลชายเอเชียน เกมส์หนล่าสุด แข้งแทกุ๊กวอริเออร์สชุดนั้น เล่นด้วยระบบทีมเวิร์คใช้พละกำลังความฟิตเข้าสู้จนประสบผลสำเร็จ อาจจะมีข้อครหาในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่ล้มที่ชาติไทย 2-0
แต่ถ้าหากเราตัดเกมพบทีมช้างศึกออกไป จะพบว่าแข้งโสมขาว เล่นได้ดีตั้งแต่การออกสตาร์ทรอบแรกยันจบทัวร์นาเมนต์ ปราบทีมชั้นนำทั้งซาอุดิอาระเบีย,ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ โดยไม่เสียประตูให้คู่แข่งแม้แต่ลูกเดียว
น่าเสียดายที่ทีมชุดนั้นไร้ชื่อ ซน ฮึง มิน เนื่องจากเลเวอร์คูเซ่น ต้นสังกัดในเวลานั้นที่ไม่ยอมปล่อยตัวให้มาร่วมทีม เลยทำให้เอเชียน เกมส์ 2018 สตาร์หน้าตี๋หมายเลข 7 ต้องหอบหิ้วลูกทีมมาทำภารกิจป้องกันเหรียญทองบอลชายอีก 1 สมัย
2.อายุไม่มากอยู่ในเกณฑ์ใช้งาน
อายุอานามของจะอยู่ 26 ปี อาจจะอยู่ในข่ายแข้งโควตาอายุเกินก็จริงอยู่ ทว่า ซน ฮึง มิน นั้นคลุกคลีกับทีมอายุไม่เกิน 23 ปี มาตั้งแต่ถูกเรียกไปติดทีมชาติ ตอนโม่แข้งบอลชายกีฬาโอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิลมาแล้ว ทำให้ไม่เสียเวลาในการปรับตัวเด็กในทีมชุดนี้มากหนัก แถมคู่หูในแดนหน้าอย่าง ฮวาง ฮี ชาน กองหน้าจากเร็ดบลู ซัลบวร์ก ก็เล่นร่วมกันมาตลอดเวลารับใช้ทีมชาติชุดใหญ่
3.ผ่านประสบการณ์ระดับโลก
ขวบปีที่ผ่านมา ซน ฮึง มิน โดดเด่นกับการลงเล่นให้สเปอร์ ในพรีเมียร์ลีก เขากดไป 12 เม็ด และจ่ายไปอีก 6 แอสซิสต์ สู้รบปรบมือกับคู่แข่งชั้นนำมาแบบไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น แถมประสบการณ์ลูกหนังแกร่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ผลงานในเวิลด์ คัพ 2018 ก็โชว์เจ๋งซัลโว 2 ประตูใส่เยอรมนี จอดป้ายรอบแรกมาแล้ว เรียกว่าแข้งรายนี้กำลังอยู่ในช่วงกำลังมั่นใจสุดขีด
ประสบการณ์ระดับโลกที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหนักต่อหนักของ ซน จะช่วยให้ผู้เล่นดาวรุ่งกิมจิภายในทีมรายอื่นๆ เล่นได้ง่ายขึ้นปราศจากแรงกดดัน
4.เกาหลีใต้มีดี DNA เป็นผู้ชนะเสมอ
หากเราสังเกตดูดีๆ ไม่ว่าเกาหลีใต้ จะส่งนักกีฬาลงแข่งชนิดไหนรายการไหน พวกเขาเอาจริงเอาจังเสมอที่มีเอี่ยว (ยกเว้นเรื่องโกงยามเป็นเจ้าภาพ)
ช้อยส์เดียวของโสมขาว คือชัยชนะสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ พวกเขาจัดเต็มใส่หมดแม็กซ์ แน่นอนว่าบอลชายเอเชียน เกมส์ หนนี้ พวกเขาต้องการประกาศศักดาเป็นเต้ยลูกหนัง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าฟุตบอลแดนอารีดังไม่ได้เป็นสองรองใครในทวีปเอเชีย
5.เป็นที่เพิ่งพาในการทำประตู
4 ปีก่อนเกาหลีใต้ คว้าเหรียญทองบอลชายอินชอน เกมส์ 2014 แต่ศูนย์หน้าตัวหลักอย่าง คิม ซึง-แด พี่แกกดไปได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น น้อยกว่า อดิศักดิ์ ไกรษร ของไทยเสียอีก
เมื่อโจทย์ขององค์กรลูกหนังโสมขาว คือเหรียญทอง คิม ฮัก บอม โค้ชทีมโสมขาว 23 ปี จึงต้องใส่ชื่อ ซน ฮึง มิน เข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการจบสกอร์ให้เด็ดขาดเฉียบคมที่สุด เนื่องจากในเวลานี้กองหน้าตัวรุกวัย 26 ปี กำลังอยู่ฟอร์มที่พีคในชีวิตการ ดีกรีชื่อชั้นเข้าขั้นเวิลด์คลาสไปแล้ว
6.เหรียญทองเพื่อรอดพ้นเกณฑ์ทหาร
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และสเปอร์ หัวเสียและจำยอมปล่อยนักเตะให้มารับใช้ทีมโสมขาว ก็เพราะ ซน ฮึง มิน ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนำทีมแทกกุ๊กวอริเออร์ส 23 ปี ชุดนี้กระชากเหรียญทองฟุตบอลชายเอเชียน เกมส์ 2018 ที่ดินแดนอิเหนาให้ได้สถานเดียวเท่านั้น ถึงจะรอดพ้นการกรมเข้าไปเกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ
แต่ถ้าเกาหลีใต้ชุดนี้ เกิดว่าวเหรียญทองขึ้นมา บอกตามตรงเลยว่า ตัวใครตัวมันนะครับ เพราสตาร์กิมจิ ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปีเต็ม แถมผลกระทบก็ย้อนกลับมาหาไก่เดือยทอง เพราะเพิ่งจับ ซนนัลโด้ ต่อสัญญาไปถึงปี 2023
เอ็มเร่
(ธีร์รัฐ วงษ์ทอง)
