แวดวงลูกหนังเอเชีย กลับมาคึกคักตื่นตัวกันอีกครั้ง หลังชาติชั้นนำในทวีป ต่างพาเหรดกันโชว์ฟอร์มแกร่งลบคำสบประมาทในเวทีเวิลด์ คัพ 2018 ณ ดินแดนหมีขาว
อิหร่าน ใช้เกมรับอุดเหนียวแน่นเล่นงานสเปน และโปรตุเกส จนเกือบไปไม่เป็น, เกาหลีใต้ ประกาศให้โลกได้รู้ว่าความฟิตและสปิริตคือจุดเด่นสอยเยอรมนีตกรอบแรก, ซาอุดิอาระเบีย แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมแจกแต้ม, ญี่ปุ่น ทีมหมายเลข 1 ของทวีปที่มาด้วยสไตล์เพรสซิ่งเดินหน้ากรุยทางไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ไปพ่ายเบลเยียม
ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามาทำให้เราได้รู้ว่าแท็คติกลูกหนังทีมรองบ่อน ถ้ารู้จักวางแผนฝึกซ้อมให้ดี ลดทอนความผิดพลาดให้น้อยลงคุณผู้สิทธิ์เป็นผู้ชนะในเกมลูกหนังได้ทุกเมื่อ
ผลงานก้าวกระโดดชาติในเอเชีย บนเวทีระดับโลก ย่อมเปรียบเสมือนการเปิดประตูให้โค้ชโปรไฟล์หรู และในปี 2018 มีกุนซือมากมาย เดินทางมาหาความท้าทายครั้งใหม่ ด้วยค่าจ้างที่สูงกว่าตอนทำทีมในยุโรปเสียอีก
ขอบสนามไม่รอช้าคัดสรร 5 โค้ชมากดีกรีสู่บทบาทกุนซือทีมชาติในเอเชีย ปี2018
1.เปาโล เบนโต้ (เกาหลีใต้)
อดีตโค้ชและกองกลางทีมชาติโปรตุเกส ผู้มีดีกรีมากมาย เขาผจญภัยในสายงานโค้ชมานับไม่ถ้วน ทั้งการคุมสปอร์ติ้ง ลิสบอน, ครูไซโร่ (บราซิล), โอลิมเปียกอส (กรีซ),ฉงชิ่ง ลี่ฟาน (จีน) แต่คงไม่มีโปรไฟล์ในการทำทีมดีไปกว่า การนำแข้งฝอยทอง เข้ารอบรองชนะเลิศยูโร 2012 ก่อนจะไปพ่ายสเปน ในช่วงการดวลจุดโทษ
แม้ผลงานการคุมทีมในระยะหลังจะออกไปทางล้มเหลวทำผลงานไม่เข้าเป้า อยู่ทีมไหนได้ไม่ยาวนาน แต่ชื่อเสียงเก่าๆของเบนโต้ ยังขายได้อยู่ และกุนซือวัย 49 ปี ก็ถูกเลือกให้เข้ามากุมบังเหียนทีมชาติเกาหลีใต้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 พร้อมสัญญาระยะยาว 4 ปีไปจนถึงฟุตบอลโลก 2020 ที่กาตาร์ โดยที่ค่าเหนื่อยที่ชายสูงวัยรายนี้ได้รับตกเฉลี่ยเดือนละประมาณ 910,000 บาท
สำหรับผลงานของเบนโต้ ในการบัญชาการทีมลูกหนังอารีดัง 2 นัดแรก ชนะคอสตาริกา 2-0 และเสมอชิลี 0-0 เรียกว่าไม่เสียหายกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนโชซอนฝั่งใต้
2.เฮคตอร์ คูเปร์ (อุซเบกิสถาน)
ขรัวเฒ่ามากประสบการณ์ชาวอาร์เจนไตน์ ผู้ที่สร้างชื่อจากการนำเรอัล มายอร์ก้าและบาเลนเซีย ทะลุเข้าชิงฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรป ทั้งยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนั้นชีวิตของ คูเปอร์ ก็สาละวันเตี้ยลงทันที หลังโดนอินเตอร์ มิลาน ไล่ออกเมื่อปี 2003
คูเปอร์ ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ผลงานระดับท็อปอีกเลย กระทั่งมารับงานทีมชาติกับอียิปต์ เมื่อปี2015 ปรับจูนทีมลูกหนังแดนไคโร ตีตั๋วไปบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แต่ผลงานทีมกลับแย่พ่าย3 เกมรวด และไม่รับการต่อสัญญา
อย่างไรก็ดีชื่อเสียงในการมีดีกรีไปเวิลด์ คัพ ล่อตาล่อใจให้อุซเบกิสถาน มอบสัญญา 4 ปี พร้อมค่าเหนื่อยเดือนละ 1.5 ล้านบาท ตั้งคูเปอร์ คุมทัพไปจนถึงปี 2020 แต่ผลงาน 2 เกมแรกยังดูไม่เข้าที่เข้าทาง ลงเล่นในบ้านเสมอซีเรีย 1-1 และ โดนอิหร่าน บุกถอนหงอกถึงรังเหย้า 1-0
3.กุส ฮิดดิ้งค์ (จีน ยู-23ปี)
กุนซือระดับตำนานวงการฟุตบอลดัตซ์ ผู้นำพีเอสวี ซิวโทรฟี่ยูโรเปี้ยน คัพ ปี1988 พร้อมทั้งขยับไปคุมทีมชาติฮอลแลนด์ ช่วงระหว่างปี 1994-1998 แต่ที่มีชื่อเสียงที่คนทั่วไปจำได้คือการทำเกาหลีใต้ ชุดอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 จากนั้นชีวิต ฮิดดิ้งส์ วนเวียนคุมหลายทีมทั้งออสเตรเลีย, รัสเซีย,ตุรกี,อันจิ มาคัชคาล่า, รวมถึงจ็อบชั่วคราวที่เชลซี 2 รอบ
แม้จะล้มเหลวกับการกลับมาทำทีมฮอลแลนด์ รอบ2 แถมโดนด่าว่าเป็นกุนซือตกยุคหัวโบราณ จนเสียรังวัดไปพอควร แต่ความรู้ความสามารถในการปรุงแต่งนักเตะจำพวกเกรดบีให้เล่นเป็นทีม บวกกับคำแนะนำของมาร์เซโล่ ลิปปี้ กุนซือทีมชุดใหญ่ ทำให้สมาคมฟุตบอลแดนมังกร ทุ่มเงิน 4 ล้านบาทต่อเดือนจ้าง ฮิดดิ้งค์ มารับงานคุมทีมชุด 23 ปี เพื่อเป้าหมายติด 1 ใน 3 ทวีปเอเชีย ไปโลดแล่นฟุตบอลชายโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
4.ซลัตโก้ ครานชาร์ (อิหร่าน ยู-23ปี)
พ่อบังเกิดเกล้าผู้ให้กำเนิด นิโก้ ครานชาร์ แข้งหน้าหล่ออดีตทีมชาติโครเอเชีย เปรียบเสมือนบุคลากรชั้นยอดวงการลูกหนังโครแอต และเป็นหนึ่งในคีย์แมนหลักในการวางรากฐานระบบเยาวชนสโมสรดินาโม ซาเกร็บ ซึ่ง ครานชาร์ผู้พ่อนั้นคือตำนานของสโมสรแห่งนี้
ซลัตโก้ ครานชาร์ ขยับไปทำทีมตราหมากรุกระหว่างปี 2004-06 แต่ผลงานบอลโลก 2006 จอดป้ายแค่รอบแรก ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งไป และโค้ชจอมเก๋ารายนี้ต้องหลบไปเลียแผลใจในลีกอิหร่าน ทั้งเปอร์เซโปลิส,เซปาฮาน
ด้วยชื่อเสียงเก่าในดินแดนเปอร์เซีย แถมเคยได้แชมป์ลีกในปี2012 พ่วงด้วยตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมประจำปี เลยทำให้ ครานชาร์ ถูกเรียกตัวมารับหน้าที่คุมอิหร่านชุด 23 ปี พร้อมสัญญาถึงปี 2020 และมีเงินเดือนเข้าบัญชีเฉลี่ยเดือนละ 1.75 ล้านบาท
โดยที่กุนซือจอมเก๋าวัย 71 ปี ได้ลองชิมลางเวที23 ปีไปคราวๆแล้ว หลังนำทีมมาแข่งบอลชายเอเชียน เกมส์ 2018 ก่อนจะไปโดนทีเด็ดเกาหลีใต้ สอยร่วงรอบ 16 ทีม
5.ฆวน อันโตนิโอ ปิซซี่ (ซาอุดิอาระเบีย)
แข้งชาวอาร์เจนไตน์ผู้เลือกรับใช้ทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลก 1998 เขาคือกองหน้าจอมเข้าฮอสชั้นนำในลาลีกา เมื่อยุค 90 หลังมาโลดแล่นกับหลายสโมสรทั้งบาเลนเซีย,บาร์เซโลน่า,บียาร์เรอัล
เมื่อปรับบทบาทมาสวมสูทคุมทีมข้างสนาม ปิซซี่ จับงานคุมระดับสโมสรในละแวกอเมริกา และสเปน แต่ผลงานไม่น่าจดจำมากเท่าการนำชิลี เล่นเกมอุดรับเน้น แล้วไปยื้อชนะจุดโทษอาร์เจนติน่า ในเกมโคปา อเมริกา เมื่อปี2016
อย่างไรก็ดี ปิซซี่ ไม่สามารถนำพา “ลา โรฆา” แห่งอเมริกาใต้ไปเวิลด์ คัพ 2018 และถูกดึงมาทำซาอุดิอาระเบีย ก่อนบอลโลกที่แดนหมีขาว
แม้ผลงานของปิซซี่ จะไม่สวยหรู แต่การชนะอียิปต์ 2-1 เสกชัยในบอลโลกเป็นหนแรกในรอบ 24 ปี ก็เพียงพอจะทำให้กุนซือวัย 50 ปี ได้โอกาสทำทีมจนถึงเอเชียน คัพ 2019 พร้อมค่าเหนื่อยต่อเดือนราว 1.85 ล้านบาท
ปรัชญา หลงทาง
