logo-heading

วันเวลาเดินหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนเช่นเคย เผลอแป๊บเดียวทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดในอาเซียนอย่างเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ วนเวียนบรรจบกลับมาอีกครั้ง

2 ปีผ่านไปหลังทีมชาติไทยชูโทรฟี่ฉลองความดีใจกลางสังเวียนราชมังคลากีฬาสถานท่ามกลางสักขีพยานร่วมๆเกือบ 5 หมื่นชีวิต พร้อมทั้งเป็นแชมป์สมัยที่ 5 มากสุด นับตั้งแต่มีการจัดแข่งมาทั้งหมด 11 หน สัปดาห์หน้าอาเซียน คัพ จะเริ่มคิกออฟฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ โดยทุกชาติจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของในรอบแบ่งกลุ่ม 2 นัด เพื่อให้ไม่มีความเหลื่อมล้ํามากเกินไป และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศลูกหนังชิงแชมป์อาเซียนจึงขอพาย้อนกลับไปดูว่า 11 ครั้งที่ผ่านมาทีมชาติไทย มีใครทำหน้าเฮดโค้ชนำทัพลูกหนังจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลงชิงชัยในสมรภูมิหนนี้บ้าง เนื้อหาข้อมูลพร้อมเสิร์ฟแล้ว เลื่อนเมาท์ไปไล่เรียงด้านล่างได้เลยฮะ

1.ธวัชชัย สัจจกุล

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ ปฐมบทอาเซียน คัพ 1996 หนแรกในชื่อไทเกอร์ คัพ ทีมชาติไทย อาจจะประสบความสำเร็จก็จริงอยู่ ทว่าคนที่ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนกลับไม่ใช่โค้ชฟุตบอลอาชีพ เนื่องจาก อ.อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือตัวจริงนั้นดันติดอบรมโค้ชที่เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เป็นเวลา2 สัปดาห์ ช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้ผู้จัดการทีม "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล ที่ต้องพ่วง 2 บทบาทในคราวเดียวกัน ไปชิงแชมป์อาเซียนที่สิงคโปร์ "ลุงหอย" หอบหิ้วนักเตะที่ดีสุดในไทยแลนด์ ซ็อคเกอร์ส ลีกไปล่าแชมป์ที่เมอร์ไลออนส์ ทั้ง ดุสิต เฉลิมแสน, สุรชัย จตุรภัทรพงศ์, เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, นที ทองสุขแก้ว, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม้จะโดนสบประมาทจากสื่อมวลชนว่าไม่ใช้โค้ชอาชีพ เป็นเพียงแค่คนจ่ายเงินให้นักเตะ ทว่าเด็กๆในคาถา"บิ๊กหอย" สู้เพื่อเจ้านายที่พวกเขารัก เดินหน้าไล่ยิงประตูคู่แข่งตั้งแต่แมตซ์แรกกับฟิลิปปินส์ 5-0, ตามด้วยบรูไนอัดบรูไน 6-0, สิงคโปร์ เฉือนชนะ1-0, ชนะเวียดนาม 4-2 และนัดชิงดำกับมาเลเซีย "ซิโก้" ซัลโวประตูนอกเขตโทษตั้งแต่ต้นเกม มันก็เพียงพอจะทำให้ทีมชาติ จารึกชื่อเป็นชาติแรกในอาเซียนครองแชมป์รายการนี้

2.วิทยา เลาหกุล

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ อาเซียน คัพ ครั้งที่ 2 ในปี 1998 ทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่า ประสบปัญหาก่อนไปทำการแข่งขัน เมื่อวิทยา เลาหกุล กุนซือทีมชาติในเวลานั้น ถูกผู้ใหญ่ในสมาคมสั่งห้ามนำผู้เล่น 4 คนไปแข่งขัน เนื่องจากทำพาสปอร์ตโกงอายุหวั่นโดนแบนในระดับนานาชาติ ซึ่งประกอบไปด้วย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง,ตะวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน,ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ทั้งหมดเป็นตัวหลัก การเดินทางไปเหยียดแผ่นดินเวียดนามของทีมไทยในครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่น่าจดจำสำหรับ"เฮงซัง" สต๊าฟฟ์โค้ชและนักเตะเอาเสียเลย ทีมเสมอเมียนมาในเกมแรก 1-1, ชนะฟิลิปปินส์ 3-1 และเกมอัปยศที่ผู้เล่นอินโดนีเซียชนะไทย 3-2 โดยที่ผู้เล่นอิเหนาจงใจเตะเข้าประตูตัวเอง ทั้ง 2 ทีมไม่ยากเป็นแชมป์กลุ่มเพื่อไปพบเวียดนาม ในรอบรองฯ แถมยังต้องเดินทางไกลจากโฮจิมินส์ ไปแข่งที่ฮานอย เมื่อสมาคมไม่ให้เงินสนับสนุนทีมไทย "เฮงซัง" พาลูกทีม 18 ชีวิตและสต๊าฟฟ์โค้ชนั่งรถทัวร์ไปแข่งด้วยระยะทางกว่า 1,757.17 กิโลเมตร เรียกว่าเสียเวลาไปเกือบ2วันเต็ม ทีมที่ไม่ได้มีเวลาเตรียมทีมฝึกซ้อมมากหนัก และปราชัยแบบย่อยยับต่อแข้งเวียดนาม 3-0 แถมหลังจบเกมยังโดนแฟนบอลท้องถิ่นมารุมที่รถบัสนักเตะโชคยังดีที่พวกเขารอดมาได้ ส่วนผลงานในครั้งนั้นแข้งแดนสยามกลับบ้านอันดับที่ 4

3.ปีเตอร์ วิธ

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ กุนซือต่างชาติคนแรกที่ส่งตัวมาจากอังกฤษ เขาคือแข้งจากเมืองลิเวอร์พูล อดีตดาวยิงทีมสิงโตคำรามและเป็นดุจตำนานของแอสตัน วิลล่า วิธ ในช่วงแรก วิธ มีปัญหากับการทำงานที่แดนด้ามขวาน เขาพยายามจะตัดนที ทองสุขแก้ว, พัฒนพงษ์ ศรีปราโมช, ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล, ดุสิต เฉลิมแสน พ้นทีม ทว่าด้วยฝีเท้าของนักเตะทำให้กุนซือตาน้ำข้าวจำเป็นต้องยึดทั้งหมดไว้เป็นแกนหลัก ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2000 วิธ มีภารกิจทวงคืนแชมป์อาเซียน คัพ ทุกอย่างเหมาะเจาะเพราะไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพเขาเรียกนักเตะฝีเท้าระดับต้นๆของประเทศมาร่วมตัวกัน เมื่อโมเมนตัมทุกอย่างเป็นใจ ผู้เล่นสวมยูนิฟอร์มธงไตรรงค์ บรรเลงผลงานที่เจ๋งเป๋ง ตั้งแต่นัดแรกจนถึงรอบชิง อัดเมียนมา 3-1, ต้อนอินโดนีเซีย 4-1,ชนะฟิลิปปินส์ 2-0 ตามด้วยการสอยมาเลเซีย 2-0 ในรอบรอง และสอนเชิงอิเหนาจอมเจ้าเล่ห์ในรอบชิง 4-1 พร้อมทั้งเป็นการแจ้งเกิดในตำแหน่งศูนย์หน้าช่วงบั้นปลายของ วรวุธ ศรีมะฆะ ที่กระห่ำประตูไปถึง 5 ลูกในครั้งนั้น นอกจากนี้ วิธ ยังสามารถพาทีมฝ่าความโกลาหลที่อินโดฯ พาทีมแดนสยามไปป้องกันแชมป์อาเซียน คัพ ได้อีก 1 สมัย ในปี 2002 แม้จะเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดนักเตะใหม่เข้ามา แต่ความเก๋าประสบการณ์ของตัวกุนซือก็ยังพาลูกทีมหยิบโทรฟี่แชมป์ออกจากสนามเสนายันไปได้ พร้อมกับลูกชิพส่งท้ายจากปลายสตั๊ดของ"เดอะโอ่ง" สิงห์อีซ้ายหมายเลข 17

4.ซิกกี้ เฮลด์

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ หลังไม่ประสบความสำเร็จในการคัดบอลโลก โซนเอเชีย 2006 สมาคมฯ เด้งปีเตอร์ วิธ และคาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ พ้นตำแหน่ง สุดท้ายไปได้ตัวกุนซือตกยุคอย่างซิกกี้ เฮลด์ เข้ามากุมบังเหียนทีมแทน เฮลด์ เป็นอดีตตำนานกองหน้าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และติดทีมเยอรมันตะวันตกรองแชมป์โลกปี 1966 ทว่างานโค้ชในเมืองบางกอก ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าบุรุษจากเมืองบรุนทัล ไม่เหมาะกับการเป็นโค้ชฟุตบอลเลย เขารับใบสั่งจากสมาคมฯ เพื่อสร้างทีมยังบลัด รวมดาวรุ่งฝีเท้าดีไทยลีกขึ้นมาประดับทีมชาติ ทว่าเคมีที่ไม่คลิกกัน ผู้เล่นไร้ประสบการณ์รับมือความกดดันไม่ไหว ทำให้ไทยลงเล่นอาเซียน 2004 ที่มาเลเซีย จบด้วยความผิดหวัง เสมอเมียนมา 1-1, ชนะติมอร์ เลสเต 8-0, แพ้มาเลเซีย 1-2 และชนะฟิลิปปินส์ 3-1 ไม่เพียงพอที่จะไปต่อในรอบรองฯ นอกจากนี้ทีม"ยังบูด" ชื่อที่สื่อมวลชนยุคนั้นตั้งให้ จอดป้ายตกรอบแรกเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ในศึกอาเซียน คัพ

5.ชาญวิทย์ ผลชีวิน

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ ข้าราชการครูกรมพละศึกษาผู้อยู่เบื้องหลังสำหรับของทีมนักเรียนไทย ชุดแชมป์เอเชีย ว่ากันว่าเขาเก่งกาจในเรื่องการเฟ้นหาวัตถุดิบแข้งนอกสายตามาปลุกปั้นหลายต่อหลายคน "ป๋าหรั่ง" พาธนาคารกสิกรไทย คว้าแชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย ถ้วยพระราชทานก. 4 สมัย, ทำทีม17 ปีไปเยาวชนโลก 1997 ที่อียิปต์ ด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดา วิจิตร เกตุแก้ว จึงร้องขอให้มาทำทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก อ.ชาญวิทย์ มีโอกาสทำทีมโม่แข้งอาเซียน คัพ ช่วงต้นปี 2007 เขาหยิบดาวรุ่งจากทีม 23 ปีขึ้นมาใช้งานทีมชุดใหญ่ ทั้งสุเชาว์ นุชนุ่ม, สุรีย์ สุขะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ ฯลฯ ทีมชาติไทย เริ่มต้นสวยหรูในรอบแบ่งกลุ่ม เสมอเมียนมาเกมแรก 1-1 ตามด้วยการอัดฟิลิปปินส์ 4-0 และเฉือนมาเลเซีย 1-0 ตีตั๋วเข้ารอบรองอัดเวียดนาม 2-0 เดินหน้าเข้าสู่รอบชิงดำ โคจรมาพบสิงคโปร์ เกมแรกสมควรจะจบลงด้วยผลเสมอ ทว่าจุดโทษกังขาจากกรรมการเสือเหลืองที่มอบให้ทีมลอดช่อง ทำให้ช้างศึก เผชิญแท็คติกในเกมนัดที่2 แบบยากลำบาก และมาโดน ไครู อัมลี่ ซัดประตูตีเสมอท้ายเกม ชวดแชมป์คาบ้านในสนามศุภชลาศัย

6.ปีเตอร์ รีดส์

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ อดีตนักเตะระดับตำนานของเอฟเวอร์ตันและแมนฯซิตี้ เขาคือกุนซือเจ้าพ่อบอลโยนยาวในช่วงยุค 90 ซึ่งสไตล์ดังกล่าวของรีดส์ นำพาทีมซันเดอร์แลนด์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก รีดส์ กำลังจะกลายเป็นกุนซือตกยุค กระทั่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี แต่งตั้งให้เขามาทำทีมไทยในเดือนกันยายน ปี 2008 เพื่อภารกิจไล่ล่าแชมป์อาเซียน คัพ กุนซือชาวเมืองเมอร์ซีไซต์ทำการบ้านกับฟุตบอลไทย 2 เดือนเศษ ก่อนแข่งขันจริง รีดส์ เปิดตัวได้เข้าท่าในซูซูกิ คัพ ในรอบแบ่งกลุ่ม เขาพาทีมเก็บชัยรวด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัดแรก ชนะเวียดนาม 2-0, อัดลาว6-0, ขยี้มาเลย์ 3-0 ตามด้วยการสอนบอลอินโดฯ ในรอบรองฯ ทั้งไปและกลับสกอร์รวม 3-1 แต่ทว่าทีมดันมาตกม้าตายในรอบชิงเสียท่าคู่ปรับเก่าอย่างเวียดนามในรอบชิง นัดแรก และผลพ่วงนั้นนัดทำให้ทีมพลาดแชมป์ไปในที่สุด

7.ไบรอัน ร็อบสัน

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ นักเตะห้องเครื่องระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เข้ามาสานต่อภารกิจในการทำทีมชาติไทย ทว่าโปรไฟล์ที่ผ่านมาของ "ร็อบโบ้" นั่นพอบ่งบอกได้ว่าเขาเหมาะเป็นผู้เล่น แต่ไม่สมควรมาเป็นกุนซือ นอกจากพาเวสต์บรอมวิชฯ รอดตกชั้นในพรีเมียร์ลีก ในซีซั่น 2004-05 ไม่มีทีมไหนที่คุมแล้วประสบผลสำเร็จแบบเป็นชิ้นเป็นอัน และก็เป็นไปอย่างที่สื่อมวลชนไทยคิดไว้ตั้งแต่แรกมาอันตั้งเหลวไม่เป็นท่า ซูซูกิ คัพ 2010 กุนซือจากแดนผู้ดี ไม่สามารถสร้างสรรค์แท็คติกวิธีการเล่นให้ทีมไทยได้เลย เว้นเสียจากปล่อยผู้เล่นโชว์ความสามารถเฉพาะตัวเอาตัวรอดในสนามเท่านั้น ที่เด็ดกว่านั้นร็อบสัน เตรียมทีมก่อนไปแข่งที่อินโดนีเซีย เพียงแค่2 วัน บทสรุปไม่ต้องคิดอะไรมาก ทีมตกรอบแรก ลุ้นเหนื่อยตามตีเสมอราว 2-2 ในนาทีสุดท้าย, เสมอมาเลเซีย 0-0, แพ้อินโดฯ 1-2 ตีตั๋วกลับเมืองไทยชนิดแทบแทรกแผ่นดินหนี เสียชื่อที่เป็นโคตรนักเตะชั้นนำยุค80

8.วินฟรีด เชเฟอร์

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ กุนซือผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ฉายาพ่อหนุ่มบลูยีนส์ จากสื่อมวลชนแดนเบียร์ เมื่อครั้งทำทีมคาร์ลสรูห์ เขาประสบความสำเร็จในการทำทีมชาติแคเมอรูน ได้แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ ปี 2002 ต่อด้วยการไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกในปีเดียวกัน แถมปลุกปั้นนักเตะมากมายเช่น โอลิเวอร์ คาห์น, เดิร์ก ชูสเตอร์, สลาเวน บิลิช, เยนส์ โนวอนท์นี่, โธมัส เฮลเลอร์, เมห์เหม็ต โชล เรียกว่าผลงานในอดีตแม่งรวยหรูกว่าโค้ชคนก่อนๆเสียอีก "วินนี่" เอาชนะใจแฟนบอลไทยในเรื่องการทำทีมแต่กลับไม่สามารถประสบความสำเร็จในเรื่องผลการแข่งขันได้อย่างที่ผู้สันทัดกรณีและผู้บริหารลูกหนังแดนสยามหวังเอาไว้ได้ ซูซูกิ คัพ 2012 ไทย ผลงานเข้าขั้นเจ๋งตั้งแต่เกมแรกชนะฟิลิปปินส์ 2-1, บดเมียนมา 4-0, สอนเชิงเวียดนาม3-1 ส่วนผลงานรอบรองฯ ผ่านมาเลเซีย มาด้วยสกอร์ 3-1 ทุกอย่างทำท่าไปได้สวยจนกระทั่งนัดชิง"วินนี่" วางแผนผิดพลาดเจอแท็คติกจอมแสบของสิงคโปร์ ปราชัยกลับมาด้วยสกอร์ 3-1 เรื่องดังกล่าวทำให้แข้งไทย เจองานที่ยากขึ้น เมื่อต้องมาเจอการจอดรถบัสของผู้เล่นเมอร์ไลออนส์ สุดท้าย ยิงได้แค่ประตูเดียว มันไม่เพียงพอช่วยให้พลพรรคช้างศึก คว้าแชมป์รายการนี้มาครองได้นะซิ

9.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ย้อนรอย! 9 กุนซือทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ ยอดนักเตะจากขอนแก่นที่สร้างตำนานยอดดาวยิงหมายเลข 13 ให้แก่วงการลูกหนังเมืองไทยรวมๆ15 ปี กระโดนมาจับงานกุนซือทีมชาติไทย ในช่วงที่บอลไทยเริ่มซบเซา "ซิโก้" เก่งกาจในเรื่องคำพูดที่เอาไว้บอกนักเตะในสนาม และนั้นทำให้การทำทีมชาติ ควบ 2 ชุดระหว่างทีม23 ปีกับทีมชุดใหญ่ เขาจึงใช้ผู้เล่นแกนหลักชุดเดียวกัน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของนักเตะ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชาริล ชัปปุยส์, อดิศักด์ ไกรษร, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ คือแกนหลักของทีมยุคซิโก้ อาเซียน คัพ 2014 "ซิโก้" มีเวลาไม่มากในการเตรียมทีมจึงใช้ตัวหลักทีมชุดอันดับ 4 เอเชียน เกมส์ สปิริตที่หล่อหลอมของตัวกุนซือและนักเตะที่ลงตัว นั้นทำให้แข้งวัยคะนองโชว์ฝีเท้าได้ประทับใจแฟนบอลไทย ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบชิง เปิดหัวชนะสิงคโปร์ 2-1, ชนะมาเลเซีย 3-2, ชนะเมียนมา 2-0 ตามด้วยการอัดฟิลิปปินส์ 3-0 ในรอบรองฯ เมื่อถึงรอบชิงไทยมาพบคู่ปรับเก่าเสือเหลือง นัดแรกปิดบัญชีไปได้ก่อน 2-0 เกมเยือนดูเหมือนจะเล่นสบายกระทั่งจบครึ่งแรกสกอร์ตามหลัง 3-0 ทว่าสปิริตและความตั้งใจที่จะนำถ้วยกลับบ้าน ชัปปุยส์ และชนาคุง มายิงประตูสำคัญในท้ายเกม ส่งให้"ซิโก้" กลายเป็นนักเตะและโค้ชคนแรกที่ได้แชมป์รายการนี้ เฉกเช่นเดียวกันกับในปี 2016 ที่เทพบุตรจอมตีลังกา พาทีมป้องกันแชมป์ได้อีก 1 สมัย ส่งให้ช้างศึกเชือกนี้กลับมาเป็นเจ้าลูกหนังอาเซียนสูงสุด 5 สมัย

เอ็มเร่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline