ควันหลงหลังจากที่ ทีมชาติไทย ถล่ม ติมอร์ เลสเต 7-0 ในเกม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ประเดิม 3 แต้มแรกได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นการเปิดตัวในฐานะทีมแชมป์เก่าได้อย่างสมศักดิ์อีกด้วย
โดยลูกทีมของ มิโลวาน ราเยวัช ค่อยๆ เดินหน้ายิงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่นาทีแรกๆ ของเกม ไปจนถึงนาทีสุดท้ายของเกม ซึ่ง 7 ประตูนั้นมาจาก อดิศักดิ์ ไกรษร 6 ประตู และ ศุภชัย ใจเด็ด อีก 1 ลูก
วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยขอลงรายละเอียดกันหน่อยว่า หลังเกมที่ ทีมชาติไทย ยิงไป 7 ลูกนี้ได้อะไรกลับมาบ้าง ???
1. ได้ลองเกมรุกในแบบฉบับของราเยวัช
จะเห็นว่าเกมนี้เราเองไม่ได้บุกใส่ ติมอร์ เลสเต เหมือนที่หลายคนคิดเลยนะครับ อาจจะเป็นเพราะเกมของ ติมอร์ฯ เล่นมาเข้าทาง ทีมชาติไทย มากกว่า ซึ่งเราเองก็ใช้โอกาสนี้จัดการใช้รูปแบบการเล่นรับแล้วโต้ พร้อมใช้ความเร็วของกองหน้าและปีกที่เรามีโจมตี และก็ได้ประตูแล้วประตูเล่า ซึ่งนี่คือการเล่นเกมรุกในแบบของเกมรับที่เป็นงานถนัดของ ราเยวัช จริงๆ ดังนั้นเมื่อวานนี้ถือว่าเราได้ลองเกมรุกในแบบที่เราต้องการพอดี
2. ความมั่นใจของ AK9 กลับมาแล้ว
จากต้นปีที่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน และต้องพักไปร่วมๆ 6 เดือน ก่อนจะกลับมาเล่นก็เจอมรสุมปัญหาเรื่องครอบครัวอีก ทำให้ปีนี้เขาแทบไม่ได้พิสูจน์ผลงานในสนามสักเท่าไหร่ และก็มีหลายคนที่คิดว่าเขาไม่ควรติดทีมในครั้งนี้ แต่สุดท้าย 6 ประตูในเกมเมื่อวานที่มาครบๆ ทั้ง เท้าซ้าย , เท่าขวา , ลูกโหม่ง และ ลูกโทษ ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่เรียกความมั่นใจของ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ดีมากๆ
3. สรรวัชญ์ กับบทบาทมิดฟิลด์เจ้าเล่ห์
การเล่นเกมนี้ของ สรรวัชญ์ เดชมิตร แม้หลายคนจะบอกว่ามันเป็นเกมที่วัดอะไรมากไม่ได้ เพราะเราเจอคู่แข้่งที่อ่อนกว่ามาก แต่สำหรับผมกลับมองว่าการที่เราได้ประตูจาก 5 จาก 7 ลูก ซึ่งมาจากการมีส่วนร่วมของ "เจ้าแคมป์" จะไม่ให้เครดิตก็คงดูใจดำเกินไป สิ่งที่ต้องชื่นชมมิดฟิลด์รายนี้คือความเจ้าเล่หและสายตาที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงลูกเหนือความคาดหมายที่เล่นงานแนวรับของ ติมอร์ ได้ตลอด 90 นาที เราได้แต่หวังว่าลูกแบบนี้จะมายบ่อยๆ ในเกมอื่นๆ ด้วย
4. ทีมชาติไทย ของ ราเยวัช
เรื่องนี้น่าจะแบ่งเป็น 2 ประตู เรื่องแรกคือเมื่อวานนี้ทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวช้ามากๆ ทั้งที่สกอร์ขาดไปแล้ว และหลายคนอาจจะหงุดหงิด เพราะอยากเห็นคนอื่นๆ ลงสนามมาบ้าง แต่ต้องรอจนถึง น. 70 - 80 กว่าจะได้เห็นแข้งสำรอง ซึ่งผมมองว่าโค้ชอาจจะอยากเห็นว่าทีมชุดนี้เล่นกันยังไง และคงอยากจะเพลย์เซฟที่สุดกับเกมนัดแรกนี้
เรื่องที่ 2 คือเกมนี้หลายคนก็ยังหงุดหงิดกับรูปแบบการเล่น ที่แม้ ทีมชาติไทจ จะเจอทีมที่อ่อนกว่าแต่ก็ไม่ได้บุกเข้าใส่หรือว่าโชว์เกมรุกสะเด่าอะไรมากมาย ซึ่งมันก็จะเหมือนกับจข้อแรกที่เขียนอธิบายไว้ ผมว่าข้อนี้แฟนๆ ชาวไทย ต้องทำใจกันยาวๆ หน่อยนะครับ เพราะนี่มันคือสไตล์ของโค้ชคนนี้จริงๆ ก็คิดซะว่า รับแล้วโต้สุดท้ายเราชนะ ดีกว่าบุกมันส์แต่แพ้ไม่เป็นท่า
บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)
