ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวกุนซือคนใหม่ไปกันเรียบร้อย สำหรับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ หลังให้แฟนบอลลุ้นตัวโก่งกันมานาน แต่แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนะดิลก กุนซือมากประสบการณ์ วัย 51 ปี เข้ามากัมบังเหียนตามคาด
ถือเป็นฤดูกาลที่น่าติดตามอีกครั้งกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ "กิเลนผยอง" แชมป์ไทยลีก 4 สมัย บอกตามตรงว่าผมเซอร์ไพรส์มากๆ กับครั้งแรกที่ได้ทราบข่าวลือว่า "โค้ชเบ๊" จะมาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมกิเลนผยอง ที่เซอร์ไพรส์ก็คือไม่คิดว่าจะเป็น "โค้ชเบ๊" และไม่คิดด้วยว่าเมืองทองฯ จะเปลี่ยนแนวขนาดนี้
ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า ผมเองชอบสไตล์การทำทีมของ "พี่เบ๊" ตั้งแต่คุมโอสถสภาฯ นู้นแล้ว ซึ่งแกถือเป็นกุนซือใบมีดโกนอาบน้ำผึ้งคนนึง เป็นคนพูดตรงและจริงที่สุดในไทยลีกก็ว่าได้ ดังนั้นบอกเลยว่าผมไม่ได้จะดูถูกฝีมือของพี่เบ๊ แต่อย่างใด และตอนแรกก็ไม่คิดว่าเมืองทองจะเอาพี่เบ๊มาจริงๆ (ในตอนนั้นนะ)
แต่หลังจากกระแสข่าวมันหนาหูขึ้นเรื่อยๆ มันก็เริ่มมีความชัดเจนขึ้น จนกระทั่งเหลือแค่การเปิดตัวเท่านั้น และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นในวันนี้ (22 พ.ย.)
ก่อนที่กุนร่างเล็กวัย 51 ปีรายนี้จะย่างก้าวมาในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม แน่นอนชื่อชั่นของพี่เบ๊ เราก็จะคุ้นเคยกับการคุมทีมในระดับกลางๆ ค่อนไปทางหนีตกชั้นซะส่วนใหญ่ แต่แกก็ได้สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นโค้ชจอมพาทีมหนีตกชั้นไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก้กับทีมสระบุรี,สุโขทัย และ สุพรรณบุรี ทีมล่าสุด
การเข้ามาคุมทีมเอสซีจี เมืองทองฯ ครั้งนี้จึงถือเป็นงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ อย่างน้อยก็เป็นทีมใหญ่ที่สุดที่แกเคยคุมมา แถมยังเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ด้วย เป้าหมายชัดเจนสำหรับกิเลนผยอง ไม่มีอย่างอื่นนอกจากลุ้นแชมป์ ซึ่งการได้กุนซือผู้ที่อาจจะไม่มีประสบการณ์ในการคุมทีมลุ้นแชมป์มาก่อนก็ถือว่าน่าตื่นเต้นและต้องรอการพิสูจน์ผลงานในฤดูกาลหน้า
แต่จะอย่างไรก็ตามเราคงไม่กล้าที่จะฟันธงอะไรตอนนี้ คงต้องรอดูฝีไม้ลายมือของกุนซือมาดนิ่งรายนี้ก่อนว่าจะพากิเลนผยองกลับมายิ่งใหญ่ได้หรือไม่
สิ่งน่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องขุมกำลังในทีม ที่เมื่อซีซั่นก่อนที่ทีมมีผลงานอันน่าผิดหวังก็น่าจะมาจากเรื่องขุมกำลังในทีมที่ไม่เพียงพอ และเสียตัวหลักไปหลายคน ตัวที่มีก็ยังทดแทนกันไม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ในฤดูกาล 2019 แม้เมืองทองฯ จะยังไม่ได้เสริมทัพนักเตะมามากมาย แต่ตามข่าวที่จะได้ ธีรศิลป์ แดงดา กับ ธีราทร บุญมาทัน กลับมาจากเจลีก บวกกับแข้งใหม่หน้าเก่าอย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่จะกลับมาเกรียนในถิ่นเอสซีจี อีกครั้ง แค่นี้ก็ถือว่าได้นักเตะใหม่ระดับพรีเมี่ยมมาสู่ทีมแล้ว เสริมอีกแค่ตำแหน่งสองตำแหน่งก็น่าจะโอเค
ถึงตรงนี้เท่าที่ทราบนอกจากสามคนที่จะกลับมาร่วมทีมในปี 2019 แล้ว ก็จะมี ศุภนันท์ บุรีรัตน์ แบ็กขวาอดีตเด็กปั่นของเมืองทอง ที่มีข่าวว่าจะไปดึงตัวกลับมาจากพัทยา ยูไนเต็ด แต่จะได้ไม่ได้ต้องรอดูกัน
ดังนั้นเราจะขอลองจัดทีมเล่นๆ กับนักเตะชุดปัจจุบันที่มีอยู่ บวกกับนักเตะใหมีตามข่าว ว่าเอสซีจี เมืองทองฯ ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชเบ๊" ในฤดูกาล 2019 มันจะมีหน้าตาออกมาแบบไหน ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะใช้ระบบอะไร แต่ก็ขอยึดระบบเดิมจากฤดูกาลที่แล้วไว้ก่อน ลองดูครับว่าเวิร์คไหมกับทีมชุดนี้
จากแผนผังผมลองจัดทีมในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งเป้นระบบยอดฮิตของบอลไทยในเวลานี้ รวมทั้งทีมชาติด้วย แต่ถึงเวลาจริงก็อาจจะไม่ใช่แผนนี้ก็ได้ คงต้องให้ "โค้ชเบ๊" ได้นักเตะกลับมาแบบครบๆ ก่อนถึงจะรู้ว่าจะเล่นระบบไหนอย่างไร
เช่นเดียวกับตัวนักเตะผมก็จัดแบบคร่าวๆ เท่าที่มีอยู่กับนักเตะที่จะกลับมาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า ซึ่งมันก้มีโอกาสที่พวกเขาจะได้นักเตะใหม่เข้ามา หรือปล่อยตัวเก่าออกไป
เริ่มที่ผู้รักษาประตู เท่าที่มีอยู่ตอนนี้ผมให้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เป็นมือหนึ่ง แต่ก็มีข่าวว่าทีมกำลังเล็งนายด่านต่างชาติอยู่เหมือนกัน จะจริงแต่ไหนก็ต้องรอดู
แผงหลัง ต้องบอกว่ายังคงเป็นจุดอ่อนหลังปล่อย อาโอยามะ ออกไป คงต้องหาปราการหลังตัวหลักเข้ามาใหม่ เพราะเท่าที่มีอยู่คงไม่พอแน่ๆ นักเตะอย่าง นุกูลกิจ หรือ ศฤงคาร คงยังเป็นอะไหล่ของทีมแต่จะให้ยืนระยะทั้งฤดูกาลไม่แน่ใจว่าจะไหวหรือเปล่า ส่วน อดิศร พรหมรักษ์ ตอนนี้ก็ดูดีสุดในตำแหน่งเซ็นเตอร์
แบ็กขวา ศุภนันท์ ว่าที่ตัวใหม่ถ้าได้มาคงจะต้องแย่งตำแหน่งกับ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ว่าใครจะได้ลงเล่นแถมยังมี วัฒนา พลายนุ่ม กับ อดิศร ก็เล่นตรงนี้ได้เหมือนกัน ส่วนแบ็กซ้ายแน่นอน ธีราทร จะเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง ส่วนสำหรองก็ยังมี วีระวุฒิ กาเหย็ม อีกคน
แดนกลาง ชาริล ชัปปุยส์ กับ สารัช มีภาษีดีสุดที่จะได้ลงเล่นคู่กัน นอกจากนี้ยังมี ศนุกรานต์ ถิ่นจอม,วัฒนา พลายนุ่ม และ อี โฮ ที่ยังไม่รู้อนาคตอยุ่ในตำแหน่งนี้เช่นกัน
แนวรุกสามประสาน ถือว่าโหดใช้ได้ นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา,เฮแบร์ตี้ เฟอร์นันเดส และ มาริโอ ยูรอฟสกี้ แค่นี้ก็กินขาดแล้ว
ส่วนหน้าเป้า ต้องรอดูอนาคตของ จาจ้า อีกครั้งว่าจะอยู่ในแผนการทำทีม หรือมีทีมไหนสนใจหรือไม่ ถ้ายังอยู่ก็คงเป็นตัวเลือกแรก แต่ก็มี อดิศักดิ์ ไกรษร ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว หรือจะดัน มุ้ย มาเล่นก็ยังได้ แถมยังมี เจนรบ สำเภาดี อีกต่างหาก
จะว่าไปถือว่าทีมชุดนี้ก็ใช้ได้ในระดับนึง นี่ยังไม่รวมพวกบรรดาอคาเดมี่ที่จะถูกดันขึ้นมาชุดใหญ่อีกหลายคนที่ฝีเท้าจัดจ้าน ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย
สุดท้ายนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของ "ขงเบ๊" แล้วละว่า จะจัดทีมจริงๆ ออกมาน่าตาแบบไหน และจะปังหรือแป๊ก คงต้องรอดูกัน
มูซาชิ
