หลังจากลือกันไปลือกันตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับตำแหน่งกุนซือใหญ่ของ เอสซีจี เมืองทอง จากคนนู้น ไปคนนี้ จากคนนั้น ไปต่ออีกคน แต่สุดท้ายเมื่อวานที่ผ่านมาคำตอบทุกอย่างจบแล้วด้วยการไปชูนิ้วโป้งบนพื้นหญ้าที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม ของ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก
แต่เชื่อเถอะว่าภาพของ "โค้ชเบ๊" กับสีเสื้อแดงๆ ของ เมืองทอง ไม่ค่อยเป็นที่โสภาของเหล่ากิเลนเลี่ยนทั้งหลายเท่าไหร่หนัก เพราะที่ผ่านๆ ต้องยอมรับว่าพวกเขาใช้กุนซือที่มีชื่อเสียงมาตลอด โดยเฉพาะกุนซือต่างชาติ แต่คราวนี้กลับเป็น "กุนซือคนไทย" ที่ยังไม่มีเคยมีแชมป์ แถมยังคุมทีมกลางๆ ตารางเป็นส่วนใหญ่ และปีที่ผ่านมาก็เพิ่งจะไปช่วย "สุพรรณบุรี เอฟซี" หนีตายมาได้
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ ณ ตอนนี้ เอสซีจี เมืองทอง เลือกแล้วว่าจะให้ "โค้ชเบ๊" คุมทีม ซึ่งผมเชื่อในเหตุและผลของทีมที่ตัดสินใจ "ลองของ" ในครั้งนี้ เลยลองคิดสัก 5 เหตุผลดูว่า "ทำไม กิเลน ต้องใช้งาน ขงเบ๊ ด้วย" มาดูกันว่าจะตรงใจกับหลายๆ คนหรือเปล่า ???
เชื่อฝีมือกุนซือรายนี้
ข้อนี้โคตรสำคัญเลยนะครับ เพราะหากคุณไม่เชื่อมือกุนซือที่คุณเอาเข้ามา ต่อให้คุณมีเงินเยอะขนาดไหน คุณก็คงไม่ประสบความสำเร็จในการทำทีมแน่นอน และด้วยผลงานของ โค้ชเบ๊ กับการคุมทีมก่อนหน้านี้อย่าง สุโขทัย เอฟซี และ สุพรรณบุรี เอฟซี ก็ทำให้เห็นแล้วว่า "กูก็มีของนะเว้ย" ซึ่งมันก็ไปสะกิดตาของบอร์ดเมืองทองให้มาสนใจได้ จนในที่สุดก็ผ่านการคัดกรองก่อนที่จะดีลมาคุมทีมกันในที่สุด !!!!
การที่ทีมไม่ได้ไป ACL
การไม่ได้ไปฟุตบอล ACL ในปี 2019 ของ เอสซีจี เมืองทอง น่าจะเป็นข้อที่ใหญ่เบอร์ต้นๆ ที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องไปหาสรรหาโค้ชต่างชาติมากประสบการณ์อะไรมาคุมทีม เพื่อเอาตัวเองไปอยู่ในรอบแบ่งกลุ่มของรายการใหญ่ของ เอเชีย นี้ให้ได้ ดังนั้นเมื่อไม่ต้องมองหาคนนอกประเทษ สายตาจึงเมียงมองหาโค้ชคนไทยที่มีประสบการณ์ในไทยลีก และชื่อของ นายไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก จึงกระเด็นมาเข้าตาอย่างจัง !!!!
ยังว่างงานและพร้อมลุยทันที
ในเมื่อต้องหาโค้ชใหม่เพื่อพาทีมลุยไทยลีก 2019 และเมื่อนำไปบวกกับเหตุผลในข้อที่สองเราจะเห็นว่า เมืองทอง จะใช้บริการ "โค้ชคนไทย" โดดลอยออกมาเลย และพอมองไปแล้วคนที่น่าสนใจจริงๆ ก็คงมีไม่กี่คน และประจวบเหมาะกับที่ "โค้ชเบ๊" ยังว่างหลังจากไม่ได้ไปต่อกับ สุพรรณบุรี ทำให้ทุกอย่างมันลงล็อค และเมื่อโอกาสคุมทีมใหญ่มาถึงคนอย่าง "นายไพโรจน์" มีเหรอที่จะปล่อยให้หลุดมือไป !!!!
ประสบการณ์คือจุดเด่น
ถ้าถามว่า "โค้ชเบ๊" มีอะไรโดดเด่นกว่าโค้ชคนก่อนๆ หน้านี้ของ เอสซีจี เมืองทอง สิ่งที่ผมพอจะนึกออกคงเป็นเรื่องของ "ประสบการณ์" เพราะนอกจากจะคุมทีมในไทยลีกมาเพียบแล้ว โดยเฉพาะ 2 ทีมหลังสุดกับ สุโขทัย เอฟซี และ สุพรรณบุรี เอฟซี ผลงานก็ไม่ได้ขี้เหร่ พร้อมนี้ยังมีดีที่เคยคลุกคลีกับนักเตะไทยและเทศในไทยลีกมาหลายต่อหลายคน น่าจะทำให้โค้ชผู้นี้รู้เขารู้เรากับอีกหลายๆ ทีมแน่นอน ซึ่งตรงนี้โค้ชคนก่อนๆ ของกิเลนไม่ค่อยมี ดังนั้นเรื่องนี้ขงเบ๊ชนะเลิศ !!!!
อยากลองของใหม่ๆ
โค้ชคนไทยที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดอย่าง #โค้ชแบน กิเลนผยอง ก็เคยใช้งานมาแล้ว รวมไปถึงโค้ชนอกที่ดังๆ ดีกรียาวเป็นหางว่าวพวกเขาก็ลองใช้มาแล้ว แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปีที่ต้องเปลี่ยนแปลง มันก็เลยได้เปลี่ยนแปลงจริงๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทีนี้เลยมาจ๊ะเอ๋กับ "โค้ชเบ๊" ที่ไม่เคยคุมทีมใหญ่เลยๆ แต่ประสบการณ์และความห้าวมีเพียบ ดังนั้นการ #ลองของ ในครั้งนี้มันเลยลงตัว !!!!
สุดท้ายนี้เชื่อว่าภาพของ "โค้ชเบ๊" กับ "เอสซีจี เมืองทอง" คือภาพที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นเหล่า กิเลนเลี่ยน ทั้งหลายคงต้องเชียร์กันต่อไป
ส่วนผลงานในปี 2019 ของ เมืองทอง จะรุ่ง หรือ จะร่วง มารอดูคำตอบพร้อมๆ กัน และที่สำคัญที่ทำให้การคุมทีมใหญ่ของกุนซือผู้นี้น่าสนใจขึ้นมาเป็นสองเท่า เพราะ "โค้ชเบ๊" บอกแล้วว่าถ้า 3 - 5 เกมแรกทีมไม่ดีพร้อมไปทันที
บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)