เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสแปนิช กำลังโชว์ผลงานไร้เทียมทาน ด้วยการทำให้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หมดสนุกตั้งแต่เนิ่นๆ หลังขยับเข้าใกล้คว้าแชมป์เข้าไปทุกขณะ
ลบเสียงข้อครหาจนหมดสิ้นว่า "เป๊ป มาอังกฤษ คงไม่ได้มานอนตีพุงพาทีมซิวแชมป์สบายๆ เหมือนสมัยที่คุม บาร์เซโลน่า หรือแม้กระทั่ง บาเยิร์น มิวนิค เพราะมีหลายทีมขับเคี่ยวกันสนุกสูสี"
แต่ขอโทษตอนนี้ เป๊ป พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำเป็นจ่าฝูง ด้วยการทิ้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดลอยถึง 13 คะแนน กับการแข่งขันที่เหลืออีกเพียง 9 นัด หากฟ้าไม่ผ่า โลกไม่ทลาย ปาฏิหาริย์ใดๆ คงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
เพราะพวก ลิเวอร์พูล, เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ถอดใจกันไปนานแล้ว บางทีมเลิกหวังแชมป์ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นปี 2018 ด้วยซ้ำ
[caption id="attachment_6673" align="aligncenter" width="1000"]
แชมป์แรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ แมนฯ ซิตี้ "คาราบาว คัพ"[/caption]
อย่างไรก็ตามถึงแม้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังจะสร้าง "เรือใบสีฟ้า" แข็งแกร่งไปทั่วยุทธภพ แต่กระนั้นทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ "ย่อมมีจุดอ่อน" ไม่เว้นแม้แต่โล่ของ กัปตันอเมริกา ที่ทำขึ้นมาจากแร่โลหะผสมพิเศษแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล Marvel ระหว่าง ‘ไวเบรเนียม-อะดาเมนเที่ยม’ ก็ยังโดน ธานอส ทุบแตกมาแล้ว
จุดอ่อนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็คือการพา แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นเกมวันจันทร์ ซึ่งคืนนี้ก็ต้องบุกไปเยือน สโต๊ค ซิตี้ ทีมหนีตาย
หากมองดูผิวเผิน "เรือใบสีฟ้า" ก็คงบุกไปตบเก็บ 3 คะแนน ได้ไม่ยาก แต่ทว่า "มันเดย์ ไนท์" คือของแสลงที่ เป๊ป ไม่ต้องการพบเจอ และเขายอมรับตรงๆว่า ไม่ชอบลงเตะ "วันจันทร์" เอาเสียเลย เพราะสถิติมันบ่งบอกว่าแย่เหลือเกิน หลังเคยนำลูกทีมลงเตะ "มันเดย์ ไนท์" 2 ครั้งซีซั่นนี้
เกมแรก : ย้อนกลับไปเมื่อแรกเริ่มต้นฤดูกาล พวกเขาต้องเล่นเกม "มันเดย์ ไนท์" เปิดถิ่นเอติฮัด สตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ต่อให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" จะเสริมทัพด้วยเม็ดเงินมากแค่ไหน แต่ "เรือใบสีฟ้า" ก็แข็งแกร่งกว่าอยู่ดี อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ โดนลูบคมเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน 0-1 ยิ่งไปกว่านั้น ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวา ซึ่งเพิ่งซื้อตัวมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็โดนใบแดง จากการโดน 2 ใบเหลือง ในเวลาห่างกันเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น แต่ยังโชคดีที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มาช่วยชีวิตตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ นาที 82
[caption id="attachment_6666" align="alignnone" width="1000"]
เป๊ป ออกอาการเครียด หลัง ไคล์ วอล์คเกอร์ โดนไล่ออก แต่ยังโชคดีตามตีเสมอสำเร็จ[/caption]
หลังจากนั้น เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ได้เตะตามโปรแกรมเหมือนชาวบ้านคือ เสาร์-อาทิตย์ ก็โชว์ความโหดชนะ 18 เกมรวดติดต่อกันในศึก พรีเมียร์ลีก ก่อนจะสะดุดเสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 และพ่าย ลิเวอร์พูล 3-4 ในเวลาต่อมา ทว่าผลงานของ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี เดินหน้าลุ้นคว้า 4 แชมป์ จนกระทั่งเกม "คืนวันจันทร์" ครั้งที่ 2 ก็มาถึง
เกมสอง : แมนฯ ซิตี้ มีคิวบุกไปเยือน วีแกน แอธเลติก ซึ่งเผลอแปบเดียวหล่นไปอยู่ ลีก วัน ในการแข่งขัน เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดว่า "เดอะ ลาติกส์" จะเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ต่อให้เคยมีสถิติที่ดีมากๆเมื่อลงสนามพบกับ "เรือใบสีฟ้า" แต่ฟุตบอลมันคือ "ลูกกลมๆมีลมอยู่ข้างใน" เพราะ "เดอะ ซิตี้ เซนส์" เหลือ 10 คน หลัง ฟาเบียน เดลฟ์ โดนใบแดงไล่ออก สุดท้าย วีแกน สร้างสตอรี่มหัศจรรย์ เปิดบ้านหักปากกาเซียน ชนะไป 1-0 สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ชนิดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จำขึ้นใจ
[caption id="attachment_6668" align="aligncenter" width="1000"]
เกมพลิกล็อคประจำซีซั่น เมื่อ แมนฯ ซิตี้ แพ้ให้กับ วีแกน[/caption]
จริงๆแล้ว เป๊ป ไม่ได้มีสถิติคุมทีมลงเล่น “มันเดย์ ไนท์” ห่วยขนาดนั้น เพราะซีซั่นก่อน ก็พา แมนฯ ซิตี้ ชนะได้ทั้ง 3 เกม ส่วนสมัยคุม บาร์เซโลน่า ก็เคยถล่ม เรอัล มาดริด 5-0 ในการเล่นคืนวันจันทร์มาแล้ว
แต่ด้วยฟอร์มป่วยๆของ แมนฯ ซิตี้ กับ "มันเดย์ ไนท์" ซีซั่นนี้ ดังนั้นนัดเจอ สโต๊ค ซิตี้ คือบทพิสูจน์ที่แท้จริงว่าจะสามารถลบล้างอาถรรพ์ได้หรือไม่ ซึ่งหากคำตอบคือไม่ บางทีอาจต้องทำบุญล้างซวยกันหน่อยแล้ว
