ในช่วงเวลาที่ฟุตบอลลีกทั้งไทยและเทศ หลีกทางให้แก่ปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ที่จะเป็นคิวเตะในระดับทีมชาติ
พลพรรคแข้งจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีโปรแกมไปร่วมการแข่งขันอุ่นเครื่องที่ประเทศจีน ณ เมืองนานกิง ในชื่อรายการไชน่า คัพ 2019 และเวลานี้พวกก็เตรียมตัวเพื่อลงสนามเกมแรกเจอกับจีน ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม (พรุ่งนี้)
นอกจากจะได้เชียร์บอลทีมชาติไทยแล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือทัวร์นาเมนต์นี้ 3 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ใช้บริการโค้ชต่างชาติดีกรีระดับโลกพ่วงท้ายมากมาย สวนทางกับทีมจากดินแดนด้ามขวาน ที่ไว้วางใจกุนซือสัญชาติไทย อย่าง "บักโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุมบังเหียนในหนนี้คิดแล้วมันก็น่าอิจฉาอยู่ไม่น้อยที่โค้ชจากมหาสารคามรายนี้ กลายเป็นโค้ชเชื้อสายไทยแท้ๆ ที่ได้พบปะกับยอดฝีมือในห้วงเวลาราวๆ 74 วัน
ขอบสนามจึงขอขันอาสาไปเช็คข้อมูลเก่าๆว่า โค้ชโต่ย เจอใครมาแล้วบ้างและกำลังจะวัดกึ๋นกับใครเป็นรายต่อไป ไม่ชักช้าเสียเวลาเลื่อนเมาท์ไปอ่านกันเลยดีกว่า
1.อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่ (อิตาลี, ยูเออี)
กุนซือชาวเมืองเมลโดล่า ผู้ที่ปลุกปั้นให้โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ให้กลายเป็นยอดกองหน้าวงการลูกหนังกัลโช่ เซเรีย อา จนก้าวไปติดทีมชาติเยอรมนีตามด้วยการถูกซื้อตัวไปร่วมทีมเอซี มิลาน และช่วยทีมปีศาจแดง หยิบถ้วยแชมป์ลีกในปี 1998-98 หลังจากนั้น "อิลซัค" กลายเป็นโค้ชพเนจนสมรูปแบบ ทั้งการทำลาซิโอ, อินเตอร์ มิลาน, โตริโน่, ยูเวนตุส และโยกไปรับงานคุมทีมชาติญี่ปุ่น ระหว่างปี 2010-2014 พาทีมลูกหนังซามูไร คว้าแชมป์เอเชียน คัพ 2011 และไปรอบสุดท้ายบอลโลก ปี 2014 ที่บราซิล ก่อนจะมาทำปักกิ่ง กั่วอัน ในจีน ซึ่งจากความสำเร็จเก่าๆ ดึงดูดให้ยูเออี ดึงตัวมาคุมทีมในช่วงปลายปี 2017 เพื่อเตรียมทีมระยะยาวในเอเชียน คัพ 2019 ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวโค้ชโต่ย ได้ประชันฝีมืออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยกับ "อิสซัค" แม้รูปเกมการรุกจะไม่เป็นรองยูเออี แต่ก็เก็บ 1 แต้มสำคัญจากเจ้าภาพไปได้ และตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเอเชียน คัพ 2019
2.มาร์เซลโล่ ลิปปี้ (อิตาลี, จีน)
อาจารย์ของซีเนอดีน ซีดาน, ดิดิเย่ร์ เดสชองก์, อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ยูเวนตุส ที่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ลูกหนังจากแคว้นทัสคานี่สร้างแท็คติกเกมรับเพื่อมาต่อกรกับระบบเพรสซิ่งของอาร์ริโก้ ซาคคี่ ในช่วงยุค 80 ประสบการณ์ที่โชกโชนจากอตาลันต้า,นาโปลี, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, ทีมชาติอิตาลี เสกแชมป์เมเจอร์มากมายกว่า 14 โทรฟี่ โดยเฉพาะผลงานมาสเตอร์พีซกับการคว้าแชมป์ปี 2006
ชื่อเสียงเก่าๆทำให้ถูกดึงมาคุมกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ นำทีมกวาดทุกแชมป์ในจีน รวมถึงเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ตามด้วยการรับจ็อบทำพลพรรคมังกร 2 ปีเต็มที่กุนซือวัย 70 ปี กุมบังเหียนจีน อาจไม่มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเอเชียน คัพ 2019 โดยการผ่านไทยในรอบ 16 ทีมที่ใช้กลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน ฉกฉวยความผิดพลาดและจัดการปิดช่องการขึ้นเกมทางริมเส้นของไทยจนอยู่หมัด เรียกได้ว่าโค้ชโต่ยโดนสอนเชิงมวยใน 45 นาทีหลังจบต้องตีตั๋วกลับสุวรรณภูมิไปในที่สุด
3.ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อิตาลี, จีน)
อดีตเด็กเก็บบอลสนามซาน เปาโลของนาโปลีในยุคสมัยที่ดิเอโก้ มาราโดน่า ค้าแข้ง จนไต่เต้าสู่การเป็นนักเตะของทีมดังแห่งเมืองเนเปิ้ล ตามด้วยการย้ายไปคุมหลังบ้านให้ปาร์ม่า, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, เรอัล มาดริด ส่วนผลงานในนามทีมชาติเขาคือคีย์แมนคนสำคัญพาอัซซูรี่ กระชากแชมป์โลกกลับบ้านเกิดเมื่อปี 2006
คันนาวาโร่ จัดเป็นแข้งประเภทมันสมองแม้รูปร่างจะเล็กไม่สมกับตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แต่สิ่งที่เขามาทดแทนคือการเข้าสกัดบอลที่ชาญฉลาด จนได้รับการยอมรับไปทั่วสารทิศ
หลังเลิกเล่นคันนาวาโร่ ผู้พี่รับงานคุมทีมกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ทว่าชีวิตการเป็นโค้ชอาชีพมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลย เขาจบด้วยการแยกทาง เรียกว่าผลงานจับต้องไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็นทั้ง อัล นาซเซอร์, เทียนจิน ฉวนเจี้ยน และกว่างโจว หนที่2
น่าติดตามว่าการทำทีมชาติจีน โดยที่มีลิปปี้เป็นแบ็กอัพหนุนหลังจะไปได้ไกลอีกหรือไม่ โค้ชโต่ย คงเป็นผู้ให้คำตอบในเกมแรกของไชน่า คัพ
4.ออสการ์ ตาบาเรซ (อุรุกวัย)
กุนซือมือเก๋าผู้ที่มีฉายา "เอล มาเอสโตร" หรือ เดอะ ทีชเชอร์ เพราะเคยเป็นครูมาก่อน ด้วยบารมีที่มากมายเหลือล้นอายุ40 ปี ตาบาเรซ พามอนเตวิเดโอ คว้าแชมป์โคปาลิเบอร์ตาโดเรส 1987 และถูกดึงตัวไปทำทีมจอมโหดยู20 ตามด้วยการทำอุรุกวัยหนแรกพาทีมไปบอลโลก 1990 ที่อิตาลี
โปรไฟล์ในเวลานั้นส่งผลให้ ตาบาเรซ รับงานโบคา จูเนียร์ ตามด้วยการกาญารี่ และเอซี มิลาน แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ และซมซานกลับบ้านเกิด ถึงกระนั้นเขาเปรียบเสมือนเป็นเทพเจ้าขององค์กรลูกหนังอุรุกวัย และหวนคืนทีมชาติเป็นคำรบที่ 2 เมื่อปี 2006 ปรับภาพลักษณ์ทีมที่เคยเล่นบอลอันธพาลแถมคู่ต่อสู้ กลายเป็นชาติที่เล่นบอลใสสะอาดในอเมริกาใต้ จนช่วยบ้านเกิดเมืองนอนไปบอลโลก 3 สมัย 2010, 2014, 2018 และหยิบแชมป์โคปา อเมริกาใต้ เมื่อปี 2011 เราคงได้แต่หวังว่า โค้ชโต่ย จะผ่านด่านคันนาวาโร่ เพื่อไปประชันฝีมือกับคุณครูลูกหนังวัย 72 ปีในรอบชิงไชน่า คัพ ถ้าดวงมันสมพงษ์กันนะ
5.เฮคตอร์ คูเปร์ (อาร์เจนไตน์, อุซเบกิสถาน)
ขรัวเฒ่าจอมพเนจรชาวอาร์เจนไตน์ ผู้ที่มาสร้างชื่อบนแผ่นดินสเปน พาเรอัล มายอร์ก้า ทีมชาวเกาะเข้าชิงฟุตบอลถ้วยคัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1998 ตามด้วยการจบอันดับ 3 ลาลีกา จนผลงานไปเข้าตาบาเลนเซียที่ดึงไปคุมทัพ เขาช่วยให้ทีมค้างคาวเล่นฟุตบอลเกมรุกได้ทรงพลังในยุโรป พร้อมด้วยการดึงแข้งสัญชาติฟ้าขาวเข้าสู่ทีมมากมาย และทีมได้เข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกถึง 2 หน แต่สุดท้ายทำได้แค่รองแชมป์ ก่อนที่จะไขก๊อกอำลาตำแหน่งไป เพื่อไปคุมอินเตอร์ มิลาน ทว่าผลงานไม่ถูกใจผู้บริหาร จนถูกไล่ออก และกราฟชีวิตก็ดูเหมือนจะไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาทำทีมไม่รุ่งเหมือนเก่า ทั้งปาร์ม่า, ราซิ่ง ซานตาแดร์, เรอัล เบติส, อัล วาเซอร์ หรือทีมชาติจอร์เจีย ที่ทั้งหมดจบด้วยการโดนไล่ออก
ทว่าชีวิตก็ต้องเดินหน้าต่อ คูเปร์ รับงานทำทีมชาติอียิปต์ ด้วยค่าจ้างราวๆ 9 แสนบาท เขาชุบชีวิตทีมจากไคโร นำพลพรรคมัมมี่เข้าชิงฟุตบอลแอฟริกัน เนชั่นส์ ปี 2017 แม้จะพ่ายต่อแคเมอรูนในรอบชิง แต่ได้ไฟเขียวทำทีมต่อและช่วยให้โม ซาลาห์และผ่องเพื่อน ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายบอลโลก ในรอบ 48 ปี นำธงชาติอียิปต์ไปโบกสะบัดในรัสเซีย แม้ผลงานจะล้มเหลวแพ้รวด 3 เกม และต้องโบกมืออำลาทีมไปแต่อย่างก็ดีผลงานเก่าๆมันขายได้ จนถูกอุซเบกิสถาน ดึงมาทำทีมพร้อมสัญญา 4 ปี เพื่อภารกิจเข้ารอบสุดท้ายบอลโลก ปี2022
ไม่แน่ว่า 25 มีนาคม คูเปร์ อาจเป็นคู่ต่อกรวัดกึ๋นในสนามกับโค้ชโต่ย หากทั้งไทยและอุซเบกิสถาน นัดกันพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศ ไชน่า คัพ 2019
เอ็มเร่
[email protected]