ต่อจากนี้ ทัพ "อินทรีเหล็ก" คงเข้าสู่ยุคใหม่แบบเต็มตัว เหมือนกับชาติอื่นๆ เพื่อผลักดันเด็กรุ่นใหม่ ก้าวขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ เพราะในช่วง "ฟีฟ่า เดย์" ที่ต้องมาฟาดแข้ง ยูโร 2020 รอบคัดเลือก โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ เรียกนักเตะที่เหลือจากชุดแชมป์ "เวิลด์ คัพ 2014" มาเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นคือ โทนี่ โครส, มานูเอล นอยเออร์ และ มัทธีอัส กินเทอร์
ส่วนคนอื่นๆเป็นพวกที่ เลิฟ เรียกมาก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน หลายๆคนมีแววไม่แพ้กับรุ่นพี่ และ พร้อมก้าวขึ้นมาสืบทอดความแข็งแกร่ง ฉะนั้นไปดูว่ากันว่ามีนักเตะหน้าใหม่คนไหนของทัพ "อินทรีเหล็ก" ที่น่าจับตามองกันบ้าง
5. นิโก้ ชูลซ์
ถึงแม้ นิโก้ ชูลซ์ จะไม่ใช่วัยรุ่นอายุ 18-19 ขวบ และ ปาเข้าไปแล้ว 25 ปี แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ถือว่าเป็นหน้าใหม่ที่้เพิ่งก้าวเข้ามาติดทีมชาติเยอมัน ชุดใหญ่ ในตอนที่จบ ฟุตบอลโลก 2018 ไปแล้ว กระนั้นผลงานของดาวเตะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไม่สามารถเมินไปได้เลย
เพราะเพียงแค่นัดแรกที่ นิโก้ ชูลซ์ เจ้าของตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งซ้าย ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมชาติเยอรมัน ก็สามารถเปิดซิงยิงให้กับทีมได้ทันที ด้วยการเอาชนะ เปรู 2-1 นับตั้งแต่นั้น เวลาถึงเกมทีมชาติ นิโก้ ชูลซ์ จะมีชื่อติดทัพ "อินทรีเหล็ก" อยู่เสมอ และ ล่าสุดก็ได้ตอบแทน โยอัคคิม เลิฟ อีกครั้ง ด้วยการทำทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-2 ในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก
4. ไค ฮาเวิร์ตซ์
เชื่อว่าถ้าใครได้ติดตาม บุนเดสลีกา เยอรมัน และ ตามดู ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อยู่บ่อยๆ จะต้องรู้จักชื่อ ไค ฮาเวิร์ตซ์ มิดฟิลด์กองกลางอนาคตไกล วัย 19 ปี แน่นอน ถึงแม้อายุยังไม่แตะเลข 2 แต่ประสบการณ์ก็มีพอตัว เพราะไอ้หนูคนนี้ ได้รับโอกาสลงเล่นลีกสูงสุด ตั้งแต่อายุ 17 ปี 126 วัน นับเป็นแข้งเด็กสุดตลอดกาลของสโมสร
ไค ฮาเวิร์ตซ์ เป็นตัวหลักของ "ห้างขายยา" มาโดยตลอด และ ซีซั่นนี้ก็ปล่อยของด้วยการกดไปแล้ว 13 ประตู จาก 33 นัด ก็ทำให้ โยอัคคิม เลิฟ เรียกตัวมาติดทีมชาติชุดใหญ่ ตั้งแต่แข่งขัน "ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก" ที่พบกับ ฝรั่งเศส เผลอแปบเดียวก็ลงรับใช้บ้านเกิดไปแล้ว 3 นัด เรียกว่าเข้าทฤษฎี ที่ "อินทรีเหล็ก" ไม่เคยขาดแคลนตัวรุก และ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ก็พร้อมก้าวขึ้นมาเสียบทอดแทนรุ่นพี่
3. ธิโล เคห์เรอร์
ธิโล เคห์เรอร์ คือเด็กลูกหม้อของ ชาลเก้ 04 และ เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งได้ลงเล่นในลีกสูงสุดอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมัน ตั้งแต่อายุแค่ 19 ขวบ พร้อมมีดีกรีพาทัพ "อินทรีเหล็ก" รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นแชมป์ยุโรป เมื่อปี 2017 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันของรุ่นนี้
เมื่อเวลาผ่านไป ธิโล เคห์เรอร์ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้น เมื่อ โทมัส ทูเคิ่ล ตัดสินใจซื้อตัวเขาไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ก็มีโอกาสลงสนามอยู่บ่อยๆ จนส่งผลให้ก้าวขึ้นติดทีมชาติเยอรมัน เรียบร้อย โดยรับใช้ชาติไปทั้งสิ้น 6 เกม พร้อมมีโอกาสต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะเขายังไปได้ไกลกว่านี้
2. แซร์จ นาบรี้
ไม่รู้ว่าแฟนบอล อาร์เซน่อล จะรู้สึกเสียดาย กับ แซร์จ นาบรี้ หรือเปล่า เพราะตลอดเวลาที่ได้ค้าแข้งให้ทีมจากลอนดอน เขามักถูกมองข้ามอยู่ตลอด จนที่ไอ้หนูรายนี้ ไปปล่อยของให้กับทีมชาติเยอรมัน ชุด โอลิมปิก เกมส์ และ คว้าเหรียญเงินกลับมาได้ พร้อมพ่วงตำแหน่งดาวซัลโวร่วม ด้วยจำนวน 6 ประตู
และ นับตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์นั้น ชื่อเสียงของ แซร์จ นาบรี้ ก็เริ่มแผ่ขยายไปเรื่อยๆ เพราะเขาได้ย้ายไปอยู่กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ในลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน แค่ซีซั่นแรกที่ลงเปิดตัวแบบเต็มๆ ก็กดไป 11 ตุง มีหรือที่ผลงานแบบนี้จะเล็ดลอดสายตา บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่สุดท้ายจะกลายมาเป็นเด็กของ "เสือใต้"
แซร์จ นาบรี้ มาใช้เวลาเก็บประสบการณ์กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ อยู่ 1 ซีซั่น จนกระทั่งฤดูกาลนี้ ก็กลับมาอยู่ บาเยิร์น พร้อมโอกาสลงสนามแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และ ก็ทำให้เขาถูกเรียกไปติดทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งประทับร่าง ร็อบเบน เลี้ยงตัดเข้าใน ยิงประตูพาทัพ "อินทรีเหล็ก" เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 3-2 ในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก
1. เลรอย ซาเน่
ถ้าหากย้อนกลับไป ก่อนศึก ฟุตบอลโลก 2018 จะเริ่มขึ้น เชื่อว่าหลายๆคนคง "งงเป็นไก่ตาแตก" ว่าทำไม เลรอย ซาเน่ ถึงหลุดจากทีมชาติเยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ โยอัคคิม เลิฟ ทั้งๆที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในการพาทัพ "เรือใบสีฟ้า" เถลิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครอง
อย่างไรก็ตาม พอผ่านพ้น "เวิลด์ คัพ 2018" ที่ เยอรมัน กระเด็นตกรอบแรก เลรอย ซาเน่ ก็แทบจะเป็นขาประจำในทัพ "อินทรีเหล็ก" อยู่ตลอด และ ได้ลงตัวจริงสม่ำเสมอ ฉะนั้นไม่น่าผิดแปลกอะไรที่ ถ้าต่อจากนี้ ซาเน่ จะกลายเป็นกำลังสำคัญที่คอยขับเคลื่อนเกมรุก ตราบใดที่ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัดเช่นกัน
