เกมที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม ในวันเสาร์นี้ (20 เม.ย.) นอกจากจะเป็นเกมแรกของ ยุน จอง ฮวาน ในฐานะกุนซือคนใหม่กิเลนผยองแล้ว การเจอกันของ เอสซีจี เมืองทอง และ การท่าเรือ เอฟซี ถือว่าเป็นเกมคู่ใหญ่ที่สนใจอีกด้วย
ซึ่งถ้าจะหาสัก 1 แมตช์ที่มีดาเมจรุนแรงมากพอจะเป็นจุดเปลี่ยนฉุดให้ "กิเลน" ตัวนี้กลับมา "ผยอง" อีกครั้ง ผมว่าเกมในสุดสัปดาห์นี้น่าสนใจทีเดียว ...
เพราะอะไร ?? ทำไม ?? เกมที่ กิเลน จะเล่นกับ เจ้าท่า พวกเขาควรเอามาเป็นจุดเปลี่ยนของตัวเอง ผมมีคำตอบ ...
อย่างแรก เลยคือเพราะ
เกมนี้คือ "เกมแรก" ของ "ยุน จอง ฮวาน" ในฐานะกุนซือคนใหม่ของ เมืองทอง และที่ผ่านมาการแพ้ติดๆ กัน 3 เกมรวด คงบั่นทอนแข้งกิเลนเยอะเหลือเกิน หากกลับมา
"ชนะ" ได้ในเกมนี้ คงไม่ต้องบอกเรื่องกำลังใจว่าจะกลับมาพุ่งแรงขนาดไหน
อย่างที่สอง คือเพราะ
เกมนี้ได้ "เล่นในบ้าน" ที่เอาจริงๆ น่าจะได้เรียกได้ว่า "ได้เปรียบทุกอย่าง" นอกจากความคุ้นชินเรื่องสภาพสนามแล้ว เสียงเชียร์ที่ ท่าเรือ ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีกองเชียร์มาเยือนน่าจะทำให้ฝั่ง กิเลนผยอง ได้เปรียบเต็มๆ ในเรื่องนี้ อย่างน้อยๆ กดดันทีมเยือนได้ฝ่ายเดียวแน่นอน
อย่างสุดท้าย เพราะ
เกมนี้ "เป็นการหยุดแต้มจ่าฝูง" อย่าง การท่าเรือ เอฟซี อีกด้วย เนื่องจากสถานการณ์ที่มีคะแนนห่างกันมากถึง 8 คะแนน จากการเล่นแค่ 7 เกมแรก ซึ่งหากเกมนี้ เมืองทอง ชนะได้นอกจากจะชะลอแต้มจ่าฝูง ยังเพิ่มแต้มให้กับตัวเอง โดยจะเหลือห่างแค่ 5 แต้มเท่านั้น ซึ่ง 5 คะแนนนี้ ผมว่ามันยังคิดและเห็นภาพการนำตัวเองกลับไปหัวตารางได้ง่ายกว่า 8 หรือ 11 คะแนนแน่นอน
และนี่คือ 3 เหตุผลสำคัญที่ "กิเลน" ต้องเอาชนะ "เจ้าท่า" เพราะถ้าทำได้เชื่อได้เลยว่าโมเมนตั้มเหวี่ยงมาที่พวกเขาเต็มๆ แน่นอน ทั้งการชนะเกมแรกของกุนซือคนใหม่, การได้หลุดพ้นจากหลุมเร้ดโซน และที่สำคัญเรื่องกำลังใจน่าจะกลับมาเต็มที่อีกครั้ง
แต่ .... ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้น เล่นในบ้านก็ไม่ได้แปลว่า เอสซีจี เมืองทอง จะชนะได้เสมอไป เพราะปีที่แล้วในบ้านพวกเขาก็แพ้ ท่าเรือ มาแล้ว (สกอร์ 0 - 2)
หากเกมนี้เคราะห์ซ้ำกรรมซัด กิเลน เข้าไปอีกด้วยความพ่ายแพ้ แฟนๆ ก็อย่าเพิ่งท้อครับ ก็แค่ต้องก้มหน้ายอมรับ และลุยกันต่อในเกมหน้าๆ เท่านั้นเอง เพราะชั่วโมงนี้ "กำลังใจ" คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของ เอสซีจี เมืองทอง
และที่ว่าทั้งหมดคำตอบไม่ได้อยู่ที่ "ท่าเรือ" ทีมเดียวว่าดีพอจะบุกมายัดเยียดความปราชัยได้อีกครั้งหรือไม่ แต่อยู่ที่ "เมืองทอง" ด้วยว่าพวกคุณดีพอจะพลิกชะตาทีมตัวเองได้แล้วหรือยัง ???
บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)