logo-heading

เหลือเวลาอีกเพียง 8 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ก็จะเปิดฉากฟาดแข้งขึ้น บนดินแดนอีสานใต้ อย่างจังหวัดบุรีรัมย์ เมืองกีฬาอันดับหนึ่งของไทยตอนนี้

ถือเป็นคิงส์ คัพ อีกครั้งที่ได้ออกมาจัดนอกเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร โดยครั้งล่าสุดที่ฟุตบอลคิงส์ คัพ จัดที่ต่างจังหวัดก็คือปี 2015 คิงส์ คัพ ครั้งที่ 43 ที่โคราช ซึ่งนอกจากเมืองย่าโม แล้ว ก็มีที่ เชียงใหม่ กับ ภูเก็ต ที่เคยได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลคิงส์ คัพ นี่จึงเป็นครั้งแรกของบุรีรัมย์ อีก 1 สัปดาห์!! นับถอยหลังสู่ "คิงส์ คัพ 2019" ที่บุรีรัมย์ พูดถึงความพร้อมของสนามช้าง อารีน่า ที่จะใช้เป็นสังเวียนแข้ง นั้นก็ต้องบอกเลยว่าโคตรจะพร้อม และนี่ก็จะเป็นฟุตบอลคิงส์ คัพ ครั้งแรกที่ลงแข่งขันในสนามที่เป็นฟุตบอลสเตเดี้ยม ก็คือสนามที่ไม่มีลู่วิ่ง มันจะเป็นคิงส์ คัพ ที่แปลกตาไปอย่างแน่นอน ขณะที่ความน่าสนใจของคิงส์ คัพ หนนี้ ก็คือทีมที่เราเชิญมาร่วมฟาดแข้งอีก 3 ชาติ อย่าง เวียดนาม ที่ถือเป็นคู่รักคู่แค้นของเราในอาเซียน ซึ่งที่ผ่านๆ มา เราแทบจะไม่เคยเชิญทีมสกุลเหงียน มาเตะรายการนี้เลย ตั้งแต่เป็นทีมชาติเวียดนาม เพราะที่เคยมาก็ต้องย้อนไปคิงส์ คัพ ครั้งแรกๆ ที่สมัยนั้นยังเป็นเวียดนามใต้อยู่ และที่มันน่าสนใจไปกว่านั้น ทีมชาติไทยของเรา ก็จะเปิดหัวนัดแรกกับเวียดนาม ด้วย ซึ่งบอกเลยเกมนี้สนามแตกแน่นอน นี่คือเกมที่แฟนบอลทั้งไทย และเวียดนาม อยากดู เพราะนี่คือสองทีมที่ดีที่สุดของอาเซียน ตอนนี้ ถ้าจะพูดกันแบบเข้าข้างตัวเอง แต่ถ้าอิงจากแรงกิ้งฟีฟ่า ก็ต้องบอกว่า เวียดนาม กับ ฟิลิปปินส์ คือสองทีมอันดับหนึ่งและสองในอาเซียน ซึ่งถ้าย้อนกลับไปสักสองสามปีก่อน เรากล้าพูดเต็มปากกว่าทีมชาติไทยของเราเหนือกว่าเวียดนาม เพราะเจอกันทีไร ชุดไหน เราก็เอาชนะได้ตลอด โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่พบกันถ้าจำไม่ผิดก็คือฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก สมัยที่ดค้ชซิโก้ คุมทีมชาติไทย ซึ่งเราก็ชนะเวียดนาม ได้ทั้งไปและกลับ ซึ่งตอนนั้นเราดีกว่าจริงๆ อีก 1 สัปดาห์!! นับถอยหลังสู่ "คิงส์ คัพ 2019" ที่บุรีรัมย์ แต่มาตอนนี้ เราเองก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเราจะดีกว่าเวียดนาม หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าทีมดาวทอง คือแชมป์อาเซียน ทีมล่าสุด และในเอเชียน คัพ ที่ผ่านมา ก็เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ดังนั้นด้วยผลงานเขาคือเบอร์หนึ่งอาเซียนเวลานี้ แต่เราก็ยังหลอกตัวเองว่า "ถ้าเจอกันยังไงเราก้ชนะได้" ซึ่งมันก็ไม่ได้เจอกันสักที สุดท้ายทางสมาคมฯ ก็เลยจัดให้เอามาเจอกันในคิงส์ คัพ ครั้งนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ว่าก็ว่านะครับ ถ้าเวียดนามเขามาแบบชุดเต็ม บอกเลยมันคงไม่ง่ายหนักที่เราจะชนะได้ง่ายๆ อีกสองทีมก็คือ อินเดีย ทีมที่แต่ก่อนเราเคยชนะได้มาตลอด และดูเหมือนจะห่างชั้นกัน แต่สุดท้ายความคิดของเราก็เปลี่ยนไป เมื่อเราไปแพ้เขาอย่างหมดรูปในเอเชียน คัพ 4-1 ซึ่งมันก็เป็นที่มาในการที่เราอยากจะล้างแค้นอินเดีย ก็เลยเชิญทีมจากแดนภารตะมาร่วมโม่แข้งครั้งนี้ด้วย ส่วนทีมสุดท้าย ที่เมื่อทุกคนได้ยินชื่อ ต่างก็ร้องเป้นเสียงเดียวกันว่า "นี่คือทีมอะไรว่ะ" นั่นคือ "กือราเซา หรือ คูราเซา หรือ คือราเซา" แล้วแต่จะเรียกแล้วกันครับ แต่ผมยึดตามที่สมาคมฯ ประกาศแล้วกันว่า "กือราเซา" ซึ่งผมเคยเขียนเรื่องทีมชาติกือราเซา ไปแล้ว ดังนั้นคงไม่อยากเขียนซ้ำ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็คลิ๊กไปได้ที่ลิ้งนี้  https://k8s.khobsanam.com/column/76335 แม้ชื่อเสียงของ กืออราเซา จะไม่คุ้นหู แต่นี่คือทีมที่มีอันดับแรงกิ้งฟีฟ่า ดีที่สุดในบรรดา 4 ชาติที่ลงแข่งขัน และนักฟุตบอลส่วนใหญ่ก็ค้าแข้งอยู่ในยุโรปด้วย ดังนั้นประมาทไม่ได้ และจะว่าไปก็คือทีมเต็งแชมป์ด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องความพร้อมของทีมช้างศึก ล่าสุดก็มีการประกาศรายชื่อ 35 นักเตะออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งใครจำไม่ได้ ก็เข้าไปดูที่ลิ้งนี้นะครับ https://k8s.khobsanam.com/news-football/80646 โดยตอนนี้มีนักเตะถอนไป 1 คน ก็คือ สรรวัชญ์ เดชมิตร นอกนั้นก็ยังมีชื่ออยู่ และรอที่จะมาเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมกันในวันที่ 1-2 มิ.ย.นี้ ก่อนที่จะมีการตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้ายต่อไป ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีใครติด หรือหลุดอย่างไรบ้าง อีก 1 สัปดาห์!! นับถอยหลังสู่ "คิงส์ คัพ 2019" ที่บุรีรัมย์ อีกเรื่องที่น่าสนใจของคิงส์ คัพ ครั้งนี้ คือชุดแข่งขันของทีมชาติไทย เราจะใช้ชุดสีเหลือง ที่จัดทำขึ้นมาพิเศษในปีมหามงคล เพื่อใช้ในการแข่งขันฟุตบอลคิงส์ คัพ ครั้งนี้ ซึ่งเราไม่ได้ใช้เสื้อสีเหลืองมานานแล้ว นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในฟุตบอลคิงส์ คัพ อย่าลืมแล้วกันนะครับ วันที่ 5 มิ.ย.นี้ เกมนัดเปิดสนาม ประเดิมด้วยคู่ของ กือราเซา พบกับ อินเดีย เวลา 15.30 น. ก่อนที่ทีมชาติไทย จะลงสนามพบเวียดนาม ในเวลา 19.45 น. ที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถ้าใครไม่สะดวกไปชมที่สนาม ก็เปิดช่องไทยรัฐทีวี เลข 32 เชียร์ทีมชาติไทยกันได้ ครับผม  

มูซาชิ

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline