ส่งกำลังใจถึง ชบาแก้ว สู้ต่อไปกับบอลโลกสมัยที่ 2

ผลการแข่งขันเกมประเดิมสนามศึก ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ที่ทัพ ชบาแก้ว แพ้ สาวสหรัฐอเมริกา ไปขาดลอย 13-0 มันคือความจริงโคตรๆ ว่าเรากับเขามันคนละชั้นกัน

นอกจากนี้การแพ้ขาดของสาวไทยในค่ำคืนที่ผ่านมา ยังกลายเป็นผลการแข่งขันที่มีผลแพ้ชนะมากที่สุดเป็นสถิติใหม่ในศึกฟุตบอลโลก (รวมชายและหญิง) อีกด้วย โดยก่อนเกมทุกคนต่างรู้ดีในจุดนี้ว่าเราคงไปสู้กับสาวมะกันได้ยาก เพราะพวกเธอคือทีมดังระดับโลก, เพราะพวกเธอเคยเป็นแชมป์โลกมาแล้ว และ ตอนนี้พวกเธอก็คือทีมบอลหญิงเบอร์ 1 ของโลก !!! แค่ดูสถิติด้านบนก็บอกได้ดีแล้วว่าเราจะเจอกับอะไรในเกมเมื่อวานนี้ และสุดท้ายเราก็เจอ แต่มันดันหนักหนาและสาหัสกว่าที่คิดกันไว้จริงๆ อย่างไรก็ตามในวันนี้เราคงจะไม่ได้มาซ้ำเติมทีมฟุตบอลหญิง ทีมที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ได้ไปบอลโลก 2 สมัย เพราะมันคือความสำเร็จอย่างสูงที่สุดแล้วที่พวกเธอทำมันได้ แต่วันนี้เราจะมาให้กำลังพวกเธอ และมองทุกอย่างด้วยเหตุและผล ว่าทำไมพวกเธอถึงแพ้เยอะขนาดนี้ ...

ส่งกำลังใจถึง ชบาแก้ว สู้ต่อไปกับบอลโลกสมัยที่ 2

1. ลีกอาชีพหญิงที่อเมริกามีแต่บ้านเรายังไม่มี สำหรับข้อแรกนี่คือความแตกต่างอย่างที่สุดที่ สาวมะกัน เขาพัฒนาไปได้ไกลจนก้าวไปเป็นแชมป์โลก และเป็นเบอร์ต้นๆ ของโลกตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เพราะบ้านเขามีลีกอาชีพที่จริงจัง แต่พอมองกลับมาที่ประเทศไทยเพิ่งมีการจัดการแข่งขันบอลลีกหญิงอาชีพเต็มที่เพียงแค่ 2 ปี และเป็นแบบกึ่งอาชีพด้วยซ้ำ มันจะด้วยเหตุผลทางด้านความนิยม, ไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาหนุน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันทำให้ ฟุตบอลหญิ งบ้านเราทั้งที่ไปบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย แต่ไม่ได้พัฒนาไปไหนไกลเลย

2. เรา กับ เขา มันคนละชั้นกัน ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่ "เจ็บ" แต่มันคือ "ความจริง" ที่สุดที่เราต้องยอมรับให้ได้ เหมือนอย่างเช่นโค้ชหนึ่งเคยบอกไว้ตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า เราไม่มีทางจะไปเอาชนะ อเมริกา ได้เลย แต่ถึงยังไงเราก็จะสู้ ถึงมีแค่เปอร์เซ็นเดียวแต่เราก็ต้องสู้ เพียงแต่คราวนี้เราไม่สามารถสู้กับแข้งสาวเบอร์ 1 ของโลกได้เลยแม้แต่นิดเดียวเพราะความห่างเรื่องของฝีเท้าของเขากับเรามันเยอะจริงๆ

3. ความแตกต่างสรีระเรื่องรูปร่างที่ชัดเจน หลายคนอาจจะบอกว่า ทีมชาติญี่ปุ่น ก็ตัวไม่ต่างจากเรามากนัก แต่เขายังสามารถไปคว้าแชมป์โลกมาครองได้ แต่นั่นมันคือ ญี่ปุ่น ที่เขามีรากฐานเรื่องฟุตบอลที่แข็งแรงมากๆ หรือหลายคนอาจจะเอา ทีมบอลหญิง ไปเปรียบเทียบกับทีมชาติจีนนู้นเลย ผมก็จะบอกว่านั่นมันจีนที่มีทรัพยากรให้เลือกเป็นพ้นๆ ล้านชีวิต และถึงแม้ว่าข้อนี้จะไม่ใช่ข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะตัวเท่าไหนก็ต้องสู้กับทุกๆ ชาติที่ตัวใหญ่กว่าอยู่ดี แต่มันคือ "ความเสียเปรียบ" ที่เราต้องมาเจอกับแข้งต่างชาติที่สูงเป็นยักษ์ปักหลั่นขนาดนี้ หรือถ้าเรียกตามภาษาของฟุตบอลคือ "เราเสียเปรียบตั้งแต่ยังไม่ได้ลงแข่ง"

4. เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ที่ผ่านมา ทีมชาติหญิง ของเราเคยโดนสอนบอลจากทีมชาติชั้นนำระดับโลกมาแล้วนักต่อนัก เคยโดนยิง 5 ลูก, 6 ลูก มาหมดแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ที่แพ้สาวมะกันมันต่างออกไปเพราะมันคือการโดนยิง 13 - 0 ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนไม่ว่าจะลงแข่งขันในรายการไหนๆ ก็ตาม ถ้าใครได้ดูจะรู้ว่า "ครึ่งแรก" เราสู้ได้ดีและโดนไป 3 ประตูเท่านั้น แต่พอมาครึ่งหลังจุดเปลี่ยนของการโดนถล่มมันอยู่หลังจากนาทีที่โดนลูกที่ 5 ไปแล้ว ทุกอย่างในทีมบอลหญิงมันดาวน์ลงไปอย่างน่าใจหาย และพอเราดาวน์ไม่มีทางที่ สาวมะกัน จะหยุดยิงอยู่แล้ว เพราะเขาก็ต้องการสร้างความมั่นใจสำหรับเกมในนัดต่อไปเช่นกัน ทำให้ลูกที่ 6 ลูกที่ 7 เรื่อยไปจนถึงลูกที่ 13 ตามมาในที่สุด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราควรมีสถิติและอยู่กับเกมในปัจจุบันตลอดเวลาที่ลงแข่งขัน

5. นี่คือที่สุดของพวกเธอแล้ว การแข่งขันกีฬาไม่ว่าจะชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือจะเป็นประเภทหญิงหรือชาย ไม่มีใครอยากเจอกับความพ่ายแพ้แน่นอน รวมไปถึง ทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ของเราด้วยเช่นกันที่ถ้าเลือกได้พวกเธอคงเลือกอยู่ข้างทีมผู้ชนะและจบแมตช์แบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงพวกเธอเลือกไม่ได้ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน แต่พวกเธอเลือกที่จะสู้เพื่อผลการแข่งขันที่ดีที่สุดสำหรับพวกเธอได้ และแม้ว่าเกมกับอเมริกาผลมันจะจบลงไม่สวยอย่างที่พวกเธอคิด แต่ทุกๆ คนเชื่อว่าพวกเธอคงทำเต็มที่ทุกๆ นาทีที่อยู่ในสนามแล้วแน่นอน สุดท้ายนี้มันคงไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งบ่น นั่งว่ากันแล้วว่า ทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ไปเล่นบอลโลกให้อายเขาทำไม, แพ้เละขนาดนี้อย่าไปดีกว่า, หรือไปแล้วเปลืองงบขนาดนั้นอยู่บ้านเถอะ ... เพราะถ้าคุณพูดขนาดนี้ผมว่าคุณคงดูกีฬาไม่เป็นแน่นอน เพราะที่บอลหญิงของเราได้ไปฟุตบอลโลกได้อีกสมัยมันมาจากความสามารถของพวกเธอ และความถูกต้องในการส่งทีมเข้าแข่งขันตามกฏระเบียบต่างๆ ...