ดังอยู่คนเดียว! 6 ดาวเตะผูกขาดซิวแข้งเจ๋งสุดในบ้านเกิด

รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำชาติ ถือเป็นอีกรางวัลที่ทรงเกียรติสำหรับนักฟุตบอล แต่บางทีคนที่ได้ก็หน้าเก่าซ้ำเดิม เพราะไร้คู่แข่ง ทั้งประเทศข้าดังสุดอยู่คนเดียว เรียกว่าจะประกาศวันไหน ตัดชุดรอกับเตรียมคำที่จะกล่าวขอบคุณได้เลย

ฉะนั้นวันนี้ขอรวบรวม 6 ดาวเตะที่ผูกขาดรางวัลนี้หน่อยดีกว่า ว่ามีใครบ้าง ขอละ โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ไว้ในฐานที่เข้าใจละกันเน๊อะ 2 คนนี้ยังไงก็ได้อยู่ละ!

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ตั้งแต่หมดยุค เฮนริค ลาร์สสัน กับ เฟรดริก ลุงเบิร์ก ก็ไม่มีนักเตะคนไหนในสวีเดนที่โด่งดังเกินหน้าเกินตา หรือทาบรัศมีของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้เลย นั่นจึงไม่แปลกที่พี่แกจะครองความยิ่งใหญ่กวาดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของแดนไวกิ้ง มาประดับตู้โชว์ได้ถึง 11 สมัย โดย "พระเจ้า" ได้รางวัลนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2005 แต่ในปี 2006 ต้องอกหักเพราะเป็น ลุงเบิร์ก ที่ได้ไป ทว่าจากนั้นเรื่อยมาอีก 10 ปี ซลาตัน ก็เหมารางวัลนี้อยู่เพียงคนเดียว จนกระทั่งปี 2017 ที่ผ่านมาเรื่องช็อกก็เกิดขึ้นเมื่อคนที่ได้รางวัลกลับมีชื่อว่า อันเดรียส กรานควิสต์ กองหลังจากสโมสร คราสโนดาร์ ในรัสเซีย และเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติสวีเดน ต่อจาก อิบราฮิโมวิช อีกด้วย     เส้นทางการได้รางวัลนี้ของ เช็ก คล้ายๆ กับ อิบราฮิโมวิช เลย นั่นคือหลังจากหมดยุค พาเวลา เนดเวด และ โธมัส โรซิคกี้ 2 ดาวดังของ สาธารณรัฐเช็ก ก็ถึงเวลาโด่งดังแต่เพียงผู้เดียวของ ปีเตอร์ เช็ก ที่ ณ ตอนนั้นกำลังโชว์ฟอร์มเทพเซฟเยี่ยมกับ เชลซี เจ้าตัวได้รางวัลนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2005 จากนั้นพลาดไป 2 ปี ก่อนจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่สอยยาวต่ออีก 6 ปี แต่ในปี 2014 เช็ก ต้องตกเป็นตัวสำรองของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ในทัพ "สิงห์บลูส์" ทำให้ชวดได้รางวัลไป ทว่าหลังย้ายทีมไปอยู่กับ อาร์เซน่อล สโมสรปัจจุบันเมื่อได้ลงเล่นต่อเนื่องก็ไม่พลาดที่จะกลับมาซิวรางวัลต่อปี 2 ปี จนกระทั่งปีล่าสุด 2017 ด้วยอายุที่มากขึ้นความเหนียวที่น้อยลง ทำให้รางวัลตกเป็นของ วลาดิเมียร์ ดาริด้า มิดฟิลด์ฟอร์มแรงจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ต้องรอดูว่าปีนี้ เช็ก วัย 35 ปี จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบ้านเกิดเป็นสมัยที่ 10 ได้มั้ย หรือจะหยุดไว้แค่ 9 ครั้ง        ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ มคิทาร์ยาน แทบจะเป็นนักเตะอาร์เมเนียคนเดียวด้วยซ้ำ ที่แฟนบอลบ้านเรารู้จัก ฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พี่แกจะฟาดไป 8 สมัย "มิคกี้" รับรางวัลนี้ครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะอายุแค่ 20 ขวบ จากนั้นว่างเว้นไป 1 ปี ก่อนจะกวาดรวดอีก 7 ปีซ้อน ทำให้สิริรวมแล้ว 8 สมัย อายุก็เพิ่ง 29 ปี คู่แข่งแย่งรางวัลจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครใกล้เคียง ดูแล้วหากเป็นงี้กว่าจะยุติอาชีพค้าแข้ง คงซิวไปถึงสิบกว่าสมัยแน่ๆ     จะว่าไป โปแลนด์ ก็ถือเป็นชาติที่มีนักเตะดีๆ ดังๆ หลายคนนะครับ ไม่ว่าจะเป็น อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, คามิล กลิก, วอยเชียค เชสนี่ และ ลูคัส พิสเชค เป็นต้น แต่ประเด็นคือ "เลวานดี้" มันดันเก่งแซงหน้าเพื่อนเกินไปเยอะ เลยโดดเด่นสุดอยู่แต่เพียงผู้เดียว กวาดรางวัลนี้มาครองได้ 7 ปีซ้อน ไม่มีใครแทรกกลางได้เลย เอาจริงๆ ก็เหมาะสมแหละ เล่นได้ตามมาตราฐานและโดดเด่นซะขนาดนี้ ฟอร์มดีไม่มีตก แถมในทีมชาติก็ซัดกระจายไม่ใช่แค่ยิงให้ต้นสังกัดอย่างเดียว     หลังจากถึงช่วงขาลงของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น ที่ซัดรางวัลแข้งยอดเยี่ยมไอซ์แลนด์ ไป 7 สมัย ก็ถึงเวลาที่ ซิกูร์ดสัน จะแจ้งเกิดบ้างแล้ว เจ้าตัวเปิดซิงรางวัลนี้ครั้งแรกในปี 2010 ซึ่งตอนนั้นยังอายุแค่ 20 ขวบ เล่นให้กับ เรดดิ้ง วัยวุฒิ คุณวุฒิ และทีมที่เล่นให้ ก็ดูไม่ได้เหมาะสมกับรางวัล แต่ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นเกินวัย ทำให้เขาสามารถเอาชนะใจกรรมการได้สำเร็จ ปีถัดมาแม้จะพลาดไป แต่ก็กลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ซัดไปอีก 6 สมัยซ้อน รวมตอนนี้เป็น 7 สมัย เทียบเท่าตำนานอย่าง กุ๊ดยอห์นเซ่น ไปแล้ว ทว่าเขาเพิ่งอายุแค่ 28 ปีเท่านั้น แม้ปัจจุบัน ไอซ์แลนด์ ที่มีประชากรทั้งประเทศแค่ 3 แสนกว่าคน แต่กลับสามารถผลิตนักเตะส่งออกมากมาย ผลงานทีมชาติก็ยอดเยี่ยม ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า คนที่ดัง และเล่นดีสุดคือ ซิกูร์ดสัน สมัยที่ 8 รอเขาอยู่เร็วๆ นี้แหละ     ชื่อนักเตะ สโลวาเกีย คงเริ่มคุ้นหูคนไทยบ้างแล้วหละ เพราะทันทีที่รู้ข่าวว่า ฮัมซิค ถอนตัวไม่มาเตะ คิงส์ คัพ ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก็แบโผกางรายชื่อนักเตะ สโลวาเกีย ขึ้นมาดูกันเจ้าละหวั่นว่ามีใครที่กูพอรู้จักอีกบ้างว้าา. ...555 นั่นหละครับ แม้ว่ามันจะพอมีแข้งดังบ้างอย่าง มาร์ติน สเคอร์เทล กัปตันทีม, มาร์ติน ดูบราฟกา นายด่าน นิวคาสเซิ่ล, ออนเดรจ ดูดา เพลเมกเกอร์จาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน, มิลาน สคริเนียร์ แนวรับของ อินเตอร์ มิลาน แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับความเก่งกาจและชื่อเสียงของ มาเร็ค ฮัมซิค กัปตันทีมนาโปลี รองจ่าฝูงกัลโช่ เซเรีย อา ณ ขณะนี้ โดยเจ้าตัวได้รางวัลนี้ครั้งแรกในปี 2009 ต่อด้วย 2010 ก่อนจะโดน สเคอร์เทล ปาดหน้าไป 2 ปีซ้อน แต่ก็ทวงบัลลังก์กลับมาได้ในปี 2013 เรื่อยยาวมาจน 2017 น่าเสียดายเน๊อะที่ไม่ได้มา ไทย อดโดนนายกสมาคมฟุตบอลเราประกาศ "เบิกตัว" ขึ้นไปรับเหรียญกับชูถ้วยเลย แย่จุง

ชิน ชินพัฒน์