"น้าฉ่วย "สมชาย ฉวยบุญชุม อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน ศรีสะเกษ เอฟซี ทีมในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2019 ที่จบผลงานด้วยอันดับ 4 ในตาราง จากผลงาน 34 นัด ชนะ 20 เสมอ 11 แพ้ 3 มี 59 คะแนน ( ถูกตัด 12 คะแนน จากบทลงโทษการฟ้องร้อง ระหว่างนักฟุตบอลกับสโมสร ) เปิดเผยว่า การแยกทางกับศรีสะเกษ เอฟซี เมื่อจบฤดูกาล เพื่อหาต้นสังกัดใหมในการทำงาน ถือเป็นเรื่องที่ลำบากใจที่ต้องเลือกแนวทางดังกล่าว เพราะที่ผ่านมา ตลอด 2 ปีในการเข้ามารับงานกับศรีสะเกษ เอฟซี ได้รับการสนับสนุนด้วยดี ทั้งจาก ฝ่ายบริหารสโมสร นักฟุตบอล กระทั่งกองเชียร์ แต่การที่ทีมพลาดโอกาส ต่อการเลื่อนชั้น ทำให้เห็นว่า สถานการณ์ในทีมขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เล่นกลับมาทำผลงาน เพื่อไปจบภารกิจกับการเลื่อนชั้นในฤดูกาลต่อไป
ทั้งนี้หากยังรับงานให้กับศรีสะเกษ เอฟซี กับฤดูกาลต่อไป หรือเข้าสู่ปีที่ 3 ของการทำงาน สิ่งที่ท้าทายมากที่สุด คือ การที่จะรักษาระดับของผลงาน ให้ได้เท่ากับฤดูกาลที่ผ่านมา ( 2019 ) ซึ่งไม่ใช่ในรื่องง่ายเลย ดังนั้นในเส้นทางการทำงานแล้ว จึงอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ แยกทางกับสโมรร เพื่อให้สโมสรศรีสะเกษ เอฟซี ก้าวต่อไป แน่นอนว่า การบ้านจากนี้ไปของเฮดโค้ชคนใหม่ ที่เห็นว่าสำคัญที่สุดคือ รวบรวมแรงใจของผู้เล่นทุกคน เพื่อพาทีมก้าวไปข้างหน้า และในฐานะที่เคยร่วมงานกับสโมสรฯ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทีม
“ ผมก้าวออกมาจากทีม เพราะประเมินแล้ว หากจะเดินหน้าต่อกับฤดูกาล 2020 ความรู้สึกภายในทีม มันไม่ง่ายเลยในเชิงจิตวิทยา เพราะในทางวิทยาศาสตร์ หรือ ผลการแข่งขัน ทุกคนสามารถพาทีม จบผลงานด้วยการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่เกิดกรณีตัดแต้ม 12 คะแนน ในฐานะทีมอันดับ 2 ของตาราง ดังนั้นการถอยออก เพื่อให้ทีมขับเคลื่อนต่อ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด วันนี้ผมออกมา ก็ใช่ว่าความสัมพันธ์จะหายไป เพราะอนาคตข้างหน้า อาจจะได้ร่วมงานกันอีก ส่วนเส้นทางของผมจากนี้ ก็มีหารือกันบ้าง กับทีมฟุตบอลทั้งไทยลีก1 และไทยลีก 2 ที่ต้องการให้ผมไปร่วมงานด้วย ก็พยายามจะให้การเจรจา เรื่องนี้ได้ข้อสรุป ภายในเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้การเดินหน้าทำทีม สามารถลงมือได้ทันที เพราะฤดูกาลของฟุตบอลอาชีพ 2020 ที่เปิดฤดูกาลตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ ดังนั้นหากล่าช้าไปกว่านี้ กับการรับงานคุมทีม ก็จะกระทบไปถึงแผนงานในส่วนต่างๆ” สมชาย ฉวยบุญชุม แมวเก้าชีวิตแห่วงวงการฟุตบอล วัย 60 เศษ ระบุ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม 
