logo-heading

วินาทีที่ ฟีฟ่า เดอะ เบสต์ ประกาศชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่ ลิเวอร์พูล คว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 นับเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์แบบสุดๆ ชนิดที่ตัว คล็อปป์ เอง ก็ตกใจไม่หายเช่นกัน

เพราะรางวัลนี้ ฮันซี่ ฟลิค เฮดโค้ช บาเยิร์น มิวนิค แทบจะตีตราจอง หลังจากพาสโมสรคว้าโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประกาศศักดาซิวทริปเปิ้ลแชมป์ เมื่อซีซั่นก่อน และ ได้ 5 แชมป์ด้วยซ้ำ หากนับปฏิทินปี 2020 ซึ่งตัวเขาเองถึงกับผิดหวัง ทำหน้าแบบ “อิหยังวะ ไม่ใช่กูเหรอ ?”  หลังจากประกาศชื่อออกมาเป็น คล็อปป์

แต่เมื่อไปนั่งดูคะแนน คล็อปป์ กับ ฟลิค ได้รับโหวตเท่ากันที่ 24 แต้ม ทำให้ต้องไปพิจารณาการโหวตจากกุนซือทีมชาติ ปรากฏว่าเทรนเนอร์กลุ่มนี้ ลงเสียงให้กับเฮดโค้ช หงส์แดง มากกว่า เพราะอะไรทำไม คล็อปป์ ถึงคว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี มากกว่าที่จะเป็นตัวเต็งอย่าง ฮันซี่ ฟลิค ลองไปหาคำตอบกันครับ

- แชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่ตามหา

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขึ้นชื่อว่าเป็นลีกที่หฤโหดที่สุด นักเตะระดับโลก กุนซือตัวท็อป หลั่งไหลมารวมตัวอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ฉะนั้นไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จู่ๆจะเข้ามาประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างง่ายๆให้ดู ลิเวอร์พูล พวกเขาพยายามตามหาโทรฟี่นี้ มานานถึง 30 ปี เหล่ายอดเฮดโค้ชอย่าง เชราร์ อุลลิเย่ร์, ราฟาเอล เบนิเตซ, เคนนี่ ดัลกลิช หรือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ถูกดึงตัวมา เพื่อหวังซ่อมแซมช่วยให้ เครื่องจักรสีแดง กลับมาผงาดบนลีกลูกหนังแดน "ผู้ดี" อีกครั้ง แต่ทุกคนที่ว่ามานั้น ทำได้แค่เพียง "เฉียด" เท่านั้น บ้างก็ไปคว้าความสำเร็จกับฟุตบอลถ้วย จนกระทั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาจุดประกายความหวัง เขาประกาศวลีเด็ด ฝากความเชื่อมั่นต่อ เดอะ ค็อป ว่า "ขอเวลา 4 ปี เขาจะนำโทรฟี่กลับมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ อีกครั้ง" และ "เปลี่ยนจากคนที่สงสัยในทีม ให้กลับมามีความเชื่ออีกครั้ง" คล็อปป์ เริ่มจากการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ความฝันที่ หงส์แดง ตามหามานานถึง 30 ปี ก็สิ้นสุดลง เมื่อกุนซือชาวเยอรมัน พา ลิเวอร์พูล ซิวโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบแบเบอร์ ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล ชนิดที่ทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบ 20 แต้ม และ เกือบเป็นแชมป์แบบไร้พ่าย แถมมีสถิติชนะรัวๆ 18 นัด หากมองตัวหนังสือมันช่างดูง่ายดาย แต่ในทฤษฎีปฏิบัติมันยากมาก เขาเก็ยชัยชนะติดต่อกัน ซึ่งจากการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะเป็นคะแนน ที่ทำให้เหล่านักเตะกัปตัน และ โค้ชทีมชาติ เทคะแนนให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์

- ชื่อเสียงดีกว่า

ไม่ได้เป็นการบุลลี่ ฮันซี่ ฟลิค แต่อย่างใด เพราะผลงานที่เข้ามารับงานกลางคัน ก่อนจะนำ เสือใต้ กลับมาผงาด ประกาศศักดาเป็นเจ้ายุโรป มันสุดยอดเกินจะบรรยายของแท้ แต่ว่ากันตามตรงด้วยเรื่องของชื่อเสียงความโด่งดัง เจอร์เก้น คล็อปป์ ทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะเมื่อไหร่ที่ บาเยิร์น มิวนิค ฟอร์มดี แฟนบอลจะโฟกัสไปที่ตัวนักเตะเป็นส่วนใหญ่ แต่กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้รับเครดิตไปเต็มๆ จากนั้นค่อยมาลงรายละเอียดกับนักเตะ ทำให้ คล็อปป์ จะถูกเป็นที่จดจำมากกว่า ยิ่งในช่วงที่ เดอะ นอร์มอล วัน พา ลิเวอร์พูล ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนที่โลกนี้จะรู้จักกับ โควิด-19 ชื่อเสียงของ คล็อปป์ กระฉ่อนมากกว่าเดิม และ ถูกกล่าวบนพาดหัวกีฬาแบบไม่เว้นวัน ด้วยเพราะ ผลงานของ ลิเวอร์พูล มันไม่ได้เกิดแบบนั้นทุกปี เป็นปรากฏการณ์ในรอบ 30 ซีซั่น ผิดกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่เป็นเจ้าพ่อครองบัลลังค์ฟุตบอลเมืองเบียร์ แบบไร้คู่แข่ง ต่อให้จะตบยักษ์ใหญ่แดดิ้น ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่กระนั้นเหมือนภาพของ คล็อปป์ ถูกจดจำไปแล้ว และ นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้ คล็อปป์ ปาดหน้าคว้ารางวัลไปครอง

เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยความรู้สึก ! จู่ๆ ก็ได้รางวัล กุนซือยอดเยี่ยม ของ FIFA (คลิกอ่าน)

- สไตล์การเล่นถูกใจกุนซือด้วยกันเอง

ฟุตบอลสมัยใหม่ ฝีเท้าคุณจะเก่งอย่างเดียวไม่ได้หรอก คุณต้องฟิต ต้องขยัน ต้องแข็งแรง ต้องเข้าใจปรัชญา และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตลอด 90 นาที ที่ลงแข่งขัน ซึ่งแนวทางการเล่นแบบนี้ มันตรงกับ "เกเก้น เพรสซิ่ง" ปรัชญาฟุตบอลอันโด่งดังในสไตล์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่แสดงให้เห็นแบบเด่นชัดและหนักแน่น แนวทางการการทำทีม และ แอคชั่นอันบ้าคลั่งของ คล็อปป์ ตรงข้างสนาม มันถูกถ่ายทอดและปลูกฝังสู่นักเตะ ลิเวอร์พูล ไปหมดแล้ว เพราะ ตลอด 90 นาที เครื่องจักรสีแดง เดินหน้าไล่บี้คู่แข่งตลอด วิ่งกันไม่มีหมด เล่นบอลต่อช่องตามภาคพื้นดิน แต่แฝงไปด้วยการเข้าทำอันหลากหลาย โดยเฉพาะการกำเนิด "ฟูลแบ็กเพลย์เมกเกอร์" ที่ใช้ประโยชน์จากลูกครอส เปิดเข้าไปทำประตูเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเฮดโค้ชหลายๆคน ก็มักยึดแนวทางการทำทีมของ คล็อปป์ หรือไม่ก็ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาปรับใช้กับทีมตัวเองอยู่เสมอ ทั้งเรื่องการทำทีม จิตวิทยาต่อนักเตะ และ การปลูกฝังความคิดให้ทีมเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นยิ่ง คล็อปป์ มีผลงานเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำให้เหล่าเทรนเนอร์ทีมชาติกดไลค์ และ เทคะแนนให้กับ คล็อปป์ ได้รางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี

-  ลีกมหาชน !

ด้วยความเคารพต่อ บาเยิร์น มิวนิค / ฮันซี่ ฟลิค และ บุนเดสลีกา เยอรมัน ไม่ได้จะบอกว่าพวกเขาเป็นสองรองใคร เพราะทั้งสโมสร, ตัวกุนซือ และ ลีกเมืองเบียร์ เป็นตัวท็อปชั้นนำระดับโลก คว้าแชมป์ลีก, แชมป์ยุโรป และ แชมป์โลกมาแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับการตามตรงอีกว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือลีกการแข่งขันอันดับ 1 ที่มีคนดูมากที่สุดในขณะนี้  ถึงขนาดที่ มาร์เซลโล่ บิเอลซ่า กุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งพา ยูงทอง เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นครั้งแรก ในรอบ 16 ปี ยังมีชื่อติดโผเป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี 3 คนสุดท้าย นั่นแสดงให้เห็นว่าผลงานบนลีกลูกหนังแดน “ผู้ดี” มีอิทธิพลอย่างยิ่ง เพราะว่ากันตามตรงการที่ บิเอลซ่า พาทีมเลื่อนชั้น ก็ยังไม่ได้เด่นชัดในระดับโลกอะไรขนาดนั้น ถ้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มีชื่อติดโผกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี คงไม่แปลกที่ คล็อปป์ จะเป็นตัวเต็งคว้ารางวัลเหมือนกัน ต่อให้โทรฟี่ฤดูกาลที่ผ่านมา จะมี 1 แชมป์ จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นรอง ฮันซี่ ฟลิค ที่คว้ามา 5 แชมป์ แต่กระนั้นด้วยความที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นลีกขวัญใจมหาชน มีถ่ายทอดสดแทบทั่วโลก และ มันคงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ คล็อปป์ ชนะใจกลายเป็นกุนซือยอดเยี่ยม

ฮาย ฮาวดี้

logoline