logo-heading

ถือว่าเป็นอีกเกมที่ผลการแข่งขันออกมาค่อนข้างพลิกล็อคพอสมควรเมื่อ ปอร์โต้ สามารถหักปากกาเซียนเขี่ย ยูเวนตุส ตกรอบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งก็ต้องชื่นชมในความยอดเยี่ยมของพวกเขาด้วยเช่นกัน

ย้อนกลับไปในเกมนัดแรกเป็น ปอร์โต้ ที่เป็นฝ่ายเปิดบ้ายเฉือนเอาชนะไปก่อน 2-1 ซึ่งตอนนั้นเชื่อว่าแฟนบอลหลายท่านคงคิดไปในทิศทางเดียวกันว่าเดี๋ยวเกมนัดที่สองทัพ "ม้าลาย" น่าจะกลับมาเช็คบิลได้สำเร็จ แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนมันจะตรงกันข้าม เมื่อ ปอร์โต้ บุกมาเอาอเวย์โกลตั้งแต่ช่วง 19 นาทีแรกจากจุดโทษของ แซร์โจ้ โอลิเวร่า จากนั้นเกมก็พลิกไปพลิกมา จนจบ 90 นาที เป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่นำอยู่ 2-1 แน่นอนว่าเมื่อผลออกมาแบบนั้นก็ต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไป และแล้วก็เกิดเรื่องช็อคขึ้นเมื่อ แซร์โจ้ โอลิเวร่า มาบวกอีกหนึ่งประตูให้ ปอร์โต้ ในช่วงนาทีที่ 115 นั้นเท่ากับว่า ยูเวนตุส ต้องยิงเพิ่ม 2 ประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายเพื่อที่จะกรุยทางเข้ารอบ สุดท้ายได้คืนมาประตูเดียว พร้อมจบเกมในฐานะทีมที่ตกรอบอกหักอีกครั้งกับถ้วยใบใหญ่ของยุโรป ซึ่งจะว่าไปในเกมที่ทัพ "เดอะ ดราก้อน" สามารถโค่น ยูเวนตุส ได้นั้น ชื่อของ เปเป้ ปราการหลังวัยเก๋าของทีม ก็ได้รับการพูดถึงอีกครั้งว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของทีมที่ปัดกวาด และทำลายเกมรุกของคู่แข่งจนอยู่หมัด แม้ทีมจะต้องเล่น 10 คนตั้งแต่ช่วงนาทีที่ 54 เพราะเมห์ดี้ ทาเรมี่ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป เปเป้ : กำแพงเหล็กที่ (โคตร) น่ารำคาญแห่งวงการฟุตบอล ผู้ดับฝัน พี่โด้ และผองแฟนม้าลาย ปัจจุบัน เปเป้ ในวัย 38 ปี ที่ได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม อีกทั้งต้องรับหน้าที่ครั้งยิ่งใหญ่คือการตามประกอบอดีตเกลอเก่าสมัยร่วมงานกันที่ เรอัล มาดริด อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เขาเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตื่นเต้นกับการดวลกับเพื่อนคนนี้ และอยากจะเอาชนะทั้ง โรนัลโด้ และ ยูเวนตุส ให้ได้  แน่นอนผลลัพธ์เราได้เห็นกันแล้วว่าเขาสามารถจัดการกับเพื่อนร่วมชาติรายนี้ได้แบบอยู่หมัด ชนิดที่ไม่สามารถยิงประตุได้เลยทั้งเหย้า และเยือน แถมเจ้าตัวยังใช้ประสบการณ์ความเป็นรุ่นพี่ และความเก๋าคอยสั่งการแนวรับให้ตั้งโซนป้องกันของคู่แข่งได้อย่างดีเยี่ยม โดยรูปเกมอย่างที่เห็นบนหน้าจอคือ ปอร์โต้ เป็นฝ่ายถอยไปเล่นเกมรับเสียส่วนใหญ่ เพราะด้วยปัจจัยเรื่องสกอร์ที่ค่อนข้างกุมความได้เปรียบ ฉะนั้นแล้วการที่ทีมมี เปเป้ อยู่ในทีมมันช่วยให้รูปทรงของเกมรับทีมไม่เสีย แถมเกมในกรอบเขตโทษของ ยูเวนตุส ก็เล่นกันได้ยากมากขึ้น กว่าจะได้จบสกอร์แต่ละครั้งที่มีประสิทธิภาพมันเลยค่อนข้างเกิดขึ้นยาก ตัวเลขการเคลียร์บอล 18 ครั้ง ในเกมนัดนี้ มากที่สุดเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในสนาม รวมไปถึงการจัดการกับลูกกลางอากาศที่ต่อให้ ยูเวนตุส จะเปิดมามากครั้งขนาดไหน โดยเฉพาะ ฮวน กวาดาโด้ ที่สถิติบอกว่าได้โอกาสครอสบอลมากถึง 32 ครั้ง แต่สุดท้าย เปเป้ ก็สามารถเก็บกินได้เป็นส่วนใหญ่ ไหนจะจังหวะบล็อกการยิงของคู่แข่งอีก 2 ครั้ง และที่สำคัญจังหวะไล่กวดมากับ เฟเดริโก้ เคียซ่า ในช่วงนาทีที่ 57 ก็ชวนให้นึกถึงเด็กวัย 18 ปีที่ทั้งยังสด และสปีดฝีเท้าที่รวดเร็วพอจัดการกับแนวรุกที่สปีดรอบจัดของคู่แข่ง เปเป้ : กำแพงเหล็กที่ (โคตร) น่ารำคาญแห่งวงการฟุตบอล ผู้ดับฝัน พี่โด้ และผองแฟนม้าลาย จากผลงานที่กล่าวมาไม่แปลกที่ เปเป้ จะได้รับคำชมเป็นอย่างมากว่านี่คือกองหลังที่คอยทำลายเกมรุกคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งหนึ่งในคำชมนั้นเกิดจาก 2 อดีตแข้งชื่อดังอย่าง โจ โคล และ ริโอ เฟอร์ดินาน ที่ต่างออกมาโค้งหัวคารวะให้กับผลงานของเซ็นเตอร์ฮาร์ฟรายนี้แบบพร้อมเพียงกัน โดย โจ โคล ได้หล่นความคิดเห็นเอาไว้ว่า "แน่นอนมันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมีข้อสงสัยเลยว่าเขาเป็นผู้เล่นที่โคตรจะน่ารำคาญที่สุดในโลกของฟุตบอลมาตลอดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา" ส่วน เฟอร์ดินานด์ ก็พูดถึงแนวรับรายนี้ว่า "ถ้าผมได้โอกาสเป็นโค้ชที่สโมสรฟุตบอลสักแห่ง ถึงตอนนั้นผมจะเปิดคลิปวิดีโอเหล่านี้ของ เปเป้ แล้วเปิดให้เซ็นเตอร์ฮาร์ฟทีมของผมศึกษาวิธีการเล่นนี้เลย" สุดท้ายการเข้ารอบ 8 ทีมสุดในบอลบอลถ้วยใหญ่ของ ปอร์โต้ ไม่ใช่เรื่องฟลุคแต่อย่างใด แต่มันคือฝีมือที่พวกเขาแสดงออกมาให้เห็นแล้วว่าแม้ในหน้ากระดาษจะเป็นรอง แต่พอลงไปสู้ในสนามพวกเขาสามารถจัดการกับทีมที่มีสตาร์ล้นทีมอย่าง ยูเวนตุส ได้  และที่สำคัญการมีแข้งอย่าง เปเป้ มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถจัดการ และบริหารทีมยามลงสนามได้ดีขนาดไหน และด้วยผลงานในเกมล่าสุดมันก็อดทำให้นึกย้อนกลับไปตอนที่สมัยเขารุ่งๆ วัยกำลังหาม แม้ช่วงอายุจะต่างกันมากพอควร แต่ความร้ายกาจของเขาไม่เคยจางหายไปเลยจริงๆ

- เปา ขอบสนาม -

logoline