logo-heading

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย แน่นอนว่าหนึ่งในทีมที่ถูกจับจ้องเป็นพิเศษ และยกให้เป็นเต็งแชมป์ในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นทีมชาติอังกฤษ

ซึ่งจะว่าไปทัพ "สิงโตคำราม" ก็มักที่จะถูกยกขึ้นมาพูดถึงแทบทุกทัวร์นาเมนต์ที่ได้โอกาสเข้าร่วม และกลายเป็นเต็งต้นๆ ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในทุกครั้ง ทั้งที่นับตั้งแต่แชมป์โลกเมื่อปี 1966 ที่พวกเขาคว้ามาเชยชม ก็ไม่เคยเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์อะไรอีกเลย เช่นเดียวกับศึกยูโรคราวนี้ที่ดูเหมือนทีมชาติอังกฤษจะถูกยกมาเป็นเบอร์ต้นๆ ในการลุ้นความสำเร็จ เพราะจากองค์ประกอบหลายๆ อย่างมันกำลังบ่งชี้ไปในแนวทางนั้น ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปไขสาเหตุกันหน่อยว่าทำไมถึงยูโรครั้งนี้พลพรรค  "สิงโตคำราม" จึงถูกยกให้เป็นเต็งเบอร์ๆ ในการซิวแชมป์ยุโรปสมัยแรกมาครอบครอง

แกเร็ธ เซาธ์เกต

นายใหญ่วัย 50 ปี ก้าวขึ้นมานั่งหลังบัญชาเกมอยู่บนสิงโตตัวนี้เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2016 พร้อมอยู่ในตำแหน่งนี้ลากยาวมาแล้วเกือบ 5 ปีเต็ม ผ่านทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างฟุตบอลโลกมาแล้วหนึ่งครั้งเมื่อปี 2018 ซึ่งจะว่าไปเขาก็สร้างเซอร์ไพรส์พาทีมกรุยทางเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะจบเข้าป้ายในอันดับ 4  รวมไปถึงศึกเนชั่นส์ ลีก ล่าสุดที่นำขุนพล "สิงโตคำราม" จบในอันดับที่ 3 แน่นอนว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เขาได้เก็บเกี่ยวมาตลอดเส้นทาง และเมื่อบวกกับวันเวลาที่ผ่านมามันทำให้เขาเรียนรู้ และค้นพบแนวทางของตัวเองแล้วว่าจะทำอย่างไรในการที่จะพาชาติบ้านเกิดของเขาพุ่งชนกับความสำเร็จเสียที ฉะนั้นแล้วเมื่อทุกอย่างมันถูกเพาะบ่มมาในห้วงเวลาหนึ่งไม่แปลกที่รสชาติมันจะออกมากลมกล่อมมากขึ้น บวกกับผลงานของเขากับทีมในช่วงหลังก็ดูไปในทิศทางที่สดใสมากยิ่งขึ้น มันเลยกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กึ๋นของเขาจะพาทีมเอื้อมมือไปสร้างประวัติศาสตร์ในศึกครั้งใหญ่นี้ได้ ถึงเวลาหรือยัง? ไขสาเหตุทำไม อังกฤษ ถึงถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ยูโร 2020

ขุมกำลังที่ลงตัว

สืบเนื่องจากเหตุผลข้อแรกของ เซาธ์เกต มาผนวกกับตัวนักเตะขุมกำลังที่เจ้าตัวเลือกใช้ตอนนี้ทุกอย่างมันค่อนข้างลงตัว และทีม 11 ตัวจริงของเจ้าตัวก็ค่อนข้างเข้าที่แล้วไล่มาตั้งแต่กองหลัง ยันแดนหน้า ส่วนหนึ่งต้องถือว่าเป็นความโชคดีของ เซาธ์เกต ด้วยที่ทีมชุดปัจจุบันมันคือการผสมผสานของนักเตะดาวรุ่งที่กำลังมีผลงานร้อนแรง บวกกับแข้งวัยเก๋าที่ประสบการณ์ระดับทีมชาติ และสโมสรล้นเหลือ มันเลยกลายเป็นวัตถุดิบที่เชฟอย่างเขาสามารถนำมาปรุงกลิ่น แต่งเติมทุกอย่างให้มันลงตัวมากที่สุด ว่าแล้วลองนึกภาพดูเล่นๆ ขุมกำลังตัวจริงของทัพ "สิงโตคำราม" ในตอนนี้มันช่างลงตัวเอามากๆ เต็มที่ก็ปรับเปลี่ยนไม่เกิน 2-3 ตำแหน่ง แต่ประสิทธิภาพมันแทบไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย แต่มันเป็นการเพิ่มมิติที่หลากหลาย มีออฟชั่นหลายทางให้นายใหญ่ของเขาเลือกหยิบจับใครคนใดคนหนึ่งลงสนามมาโชว์ผลงาน

นักเตะหลายคนเข้าช่วงพีค

ห้วงเวลาของนักฟุตบอลย่อมมีช่วงที่ฝีเท้าถูกแต่งเติมจากประสบการณ์ บวกด้วยช่วงอายุที่เข้าขั้นพีคกันทั้งนั้น ซึ่งนั้นมันเหมือนกับขุนพลทีมชาติอังกฤษในตอนนี้ที่นักเตะหลายคนกำลังอยู่ในช่วงกลัดมัน มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับสโมสร และมีความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม ไล่มาตั้งแต่แนวรับที่ทีมได้ นิค โป๊ป เข้ามายืนจังก้าอยู่หน้าประตูแม้จะไม่ได้ลงเล่นกับสโมสรใหญ่ แต่ผลงานของเขาก็พิสูจน์แล้วว่าสอบผ่าน และไว้ใจได้อยู่เสมอ หรือหลังบ้านที่การเข้าคู่กันระหว่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ จอห์น สโตนส์ ก็ดูเหมือนจะลงตัวมากเหลือเกิน เพราะต่างก็กำลังมีผลงานกับต้นสังกัดที่น่าปรบมือให้ หรือแม้แต่ ลุค ชอว์ ที่พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอยู่ในห้วงที่แข็งแกร่งอีกครั้ง ไล่ขึ้นมาถึงแนวรุกการมี แฮร์รี่ เคน ยืนห้อยอยู่ด้านหน้ามันเลยทำให้ทีมมีโอกาสผลิตสกอร์ได้มากยิ่งขึ้น บวกกับหน่วยสนับสนุนที่พร้อมประเคนจังหวะงามๆ ให้หัวหอกวัย 27 คอยยิง ประตู สังหารคู่แข่ง หรือสาดสายตามองไปที่ม้านั่งสำรองหลายๆ ออฟชั่นถือว่าน่าสนใจ และกำลังมีช่วงเวลาที่สวยงามอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด, โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน หรือ เจมส์ วอร์ด-พราวส์  ฉะนั้นไม่ว่าจะตัวจริง หรือสำรอง เมื่อมองตามหน้ากระดาษนักเตะหลายคนกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ และพีคในชีวิตค้าแข้ง ไม่แปลกที่มันจะยิ่งส่งเสริมให้ทีมก้าวเดินไปข้างหน้าได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ถึงเวลาหรือยัง? ไขสาเหตุทำไม อังกฤษ ถึงถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ยูโร 2020

เหล่าดาวรุ่งมากประสบการณ์

สืบเนื่องจากเหตุผลข้อด้านบนที่บอกว่าทีมมีขุมกำลังที่ลงตัว มีนักเตะที่กำลังเข้าขั้นพีคในอาชีพลูกหนัง ทั้งนี้ทีมที่ดีก็ควรจะมีเหล่าดาวรุ่งฝีเท้าจี๊ดจ๊าด มากประสบการณ์อยู่ในทีมกันบ้าง ซึ่งนั้นมันก็ตรงกับทีมชาติอังกฤษในช่วงนี้ดีเหลือเกิน เพราะเมื่อเรามองไปที่ขุมกำลังจะพบกับว่าดาวรุ่งหลายคนสถาปนาตัวเองจนกลายเป็นตัวหลักของทีมไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เดแครน ไรซ์ มิดฟิดล์ตัวตัดเกมจาก เวสต์แฮม ที่ยึดเป็นกองกลางของทีมตัวจริงของทีมมาตลอดในช่วงหลัง และกลายเป็นนักเตะที่เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์สำคัญในระบบการเล่นของ เซาธ์เกต ไปแล้ว หรือ ฟิล โฟเด้น เด็กเทพวัย 20 ปี จาก แมนฯ ซิตี้ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าแม้อายุจะเพิ่งแตะหลักเลขสอง แต่ประสิทธิ์ภาพของเขานั้นมันสร้างอิมแพ็คต่อเกมรุกของทีมได้เป็นอย่างดี จนในช่วง 5 เกมหลังสุดเจ้าตัวได้โอกาสลงสนามไปโชว์ผลงานทุกนัด เหมือนเป็นตัวเก๋าคนหนึ่ง  สาดส่องไปที่คนอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในวัยห้าวหาญก็มีอยู่อีกไม่ใช่น้อยไม่ว่าจะ จาดอน ซานโช่, จู๊ด เบลลิงแฮม, รีซ เจมส์ หรือ เมสัน เมาท์ นี่แหละครับอีกหนึ่งส่วนผสมที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษชุดนี้อุดมไปด้วยความเก๋า และความสด จนทุกอย่างมันดูลงตัวมากเสียจริงๆ

เพราะขึ้นชื่อว่าอังกฤษ

เหตุผลข้อนี้ขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้อยากจะกวน หรือว่าอะไร แต่ถ้าเราติดตามฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับทีมชาติไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก หรือศึกยูโร ชื่อของทีมชาติอังกฤษ จะถูกยกขึ้นมาเป็นชาติที่ถูกพูดถึงระดับต้นๆ และเป็นเต็งแชมป์ที่มีโอกาสซิวแชมป์อยู่แทบทุกครั้งไป ซึ่งสาเหตุคงมาจากความเป็นทีมมหาชนที่ใครก็ต่างจ้องมองเป็นพิเศษ บวกกับชื่อชั้นของนักเตะที่เป็นที่คุ้นหูแฟนบอล เนื่องด้วยฟุตบอลลีกของพวกเขามีผู้คนติดตามเป็นจำนวนมาก และมีซุปเปอร์สตาร์หลายรายในแต่ละเจเนอเรชั่น ถ้าให้ไล่ใกล้สุดก็ตั้งแต่ยุค ไมเคิ่ล โอเว่น, เดวิด เบ็คแฮม, สตีเว่น เจอร์ราร์ด จนผลัดใบมาในยุคของ เวย์น รูนี่ย์ และปัจจุบันอย่าง แฮร์รี่ เคน ฉะนั้นแล้วอย่างที่กล่าวไป ความเป็น "สิงโตคำราม" มันเลยทำให้แสงสปอร์ตไลท์สาดส่องมาถึงพวกเขาแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่บางครั้งสถานะของพวกเขาก็ไม่ได้เหมาะสมกับการถูกพูดถึงมากนัก แต่ก็จะทำเป็นม้านอกสายตาไม่พูดถึงก็ไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายแฟน ขอบสนาม คิดว่าศึกยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้ทีมชาติอังกฤษมีโอกาสคว้าแชมป์สมัยแรกมาครองมากขนาดไหน และมองพวกเขาในฐานะเต็งที่เท่าไหร่ในการเอื้อมมือขึ้นไปสอยโทรฟี่แชมป์ในครั้งนี้

- เปา ขอบสนาม -

logoline