logo-heading

ย้อนกลับไปในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านโขยกใส่ เบิร์นลี่ย์ พร้อมเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ นอกจากเหนือจากผลการแข่งขัน และชัยชนะ อีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับการพูดถึงไม่ใช่น้อยคือเจ้าหนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เด็กดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี

ซึ่งในเกมดังกล่าวถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของนาย เอลเลียตต์ เลยก็ว่าได้ เพราะนี่คือเกมแรกในชีวิตลูกหนังที่ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้ก่อนหน้านี้จะได้สัมผัสเวทีลีกสูงสุดนี้มาบ้างแล้วกับทั้งทีมเก่าอย่าง ฟูแล่ม หรือปีก่อนกับทัพ "หงส์แดง" แต่ทว่านั้นคือการลุกจากม้านั่งสำรอง และลงสนามในช่วงท้ายเกมทั้งสิ้น อย่างที่เรารู้กันว่า ลิเวอร์พูล จัดการดึงตัว เอลเลียตต์ มาร่วมทัพตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ 2019 ซึ่งตอนนั้นเด็กหนุ่มคนนี้เพิ่งมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งด้วยกฎของฟีฟ่าที่ระบุว่าทีมไม่อาจเซ็นสัญญาระยะยาวกับนักเตะที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี ได้ ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องมอบสัญญาระยะสั้นๆ ให้กับเขา จนกระทั่งวันที่เขาอายุครบ 18 ปี "หงส์แดง" จัดการมอบสัญญายาวจนถึงปี 2026 ให้กับเขา ซึ่งนั้นคือหลักฐานชิ้นสำคัญว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้มองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเด็กคนนี้ ที่อยากจะเก็บไว้ใช้งาน พร้อมดูแลฟูมฟักไว้อย่างดี เพื่ออย่างน้อยนี่คือแข้งความหวังในอนาคตอันใกล้ที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนใครบางคนที่อาจโบกมือลาทีมไป แน่นอนด้วยอายุ และฝีเท้ามันยากมากที่เขาจะเบียดแย่งตำแหน่งกับเหล่าแข้งระดับซีเนียส์ของสโมสร ฉะนั้นแล้วการปล่อยออกไปแบบยืมตัวให้นักเตะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และเพิ่มโอกาสลงสนามเพื่อพัฒนาฝีเท้าจึงเป็นเรื่องที่เห็นสมควรมากที่สุด ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขวบปีที่แจ้งเกิด พร้อมโอกาสได้เฉิดฉาย และการลงไปเก็บเวลในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดูดีไม่ใช่น้อย ก่อนที่บทสรุปจะเป็น แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่ได้ตัวเจ้าหนู เอลเลียตต์ ไปใช้งาน 1 ฤดูกาลเต็มๆ ซึ่งการปล่อยออกไปให้ทัพ "กุหลาบไฟ" ยืมตัวไปใช้งานครั้งนี้ถือว่าได้ผลมากพอสมควร นอกจากตัวนักเตะจะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นการบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเด็กคนนี้มีฝีเท้าที่ดีเกินกว่าจะเล่นในลีกรองแบบนี้ เนื่องด้วยสถิติตัวเลข หรือผลงานส่วนตัว มันกำลังบ่งบอกเราไปในทิศทางนั้น 41 นัดในเกมลีก เขาซัดไป 7 ประตู พ่วงด้วย 11 แอสซิสต์ เป็นจอมแอสซิสต์ลำดับที่ 3 ของลีก รวมไปถึงเป็นดาวซัลโวอันดับ 3 ของสโมสร อีกด้วย แม้ผลงานของสโมสรจะจบที่อันดับ 15 แต่ทว่าผลงานส่วนตัวถือว่า เอลเลียตต์ เฉิดฉายมากเหลือเกิน จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์นี้คำถามหลากหลายถาโถมเข้าไปหา เจอร์เก้น คล็อปป์ เกี่ยวกับประเด็นอนาคตของเจ้าหนูคนนี้ว่าจะเก็บไว้ใช้งานไหม หรือจะปล่อยออกหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีก 1 ฤดูกาล กระทั่งเขาได้โอกาสลงสนามในช่วงเกมปรีซีซั่นผลงานของเขาต้องบอกว่ายอดเยี่ยมชวนยกนิ้วชื่นชม ฉะนั้นนี่คือปัจจัยเอกที่ช่วยให้ คล็อปป์ ตัดสินใจเก็บเด็กคนนี้ไว้กับทีม เพราะนอกจากผลงานส่วนตัว, การเล่นเป็นทีม, ทัศนคติ และที่สำคัญคือการลงไปเล่นกับเหล่ารุ่นพี่ได้อย่างแนบเนียน แม้จะถูกส่งลงไปในตำแหน่งมิดฟิลด์ก็ตาม ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขวบปีที่แจ้งเกิด พร้อมโอกาสได้เฉิดฉาย แน่นอนว่าภาพที่ คล็อปป์ เห็นมันชวนให้เขาพร้อมให้โอกาสสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ในฤดูกาลที่ทีมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนขุมกำลังซื้อนักเตะคนไหนเข้ามาเพิ่ม ฉะนั้นการได้ เอลเลียตต์ เข้ามามันก็ไม่ต่างอะไรกับการได้แข้งใหม่แต่หน้าเดิมเข้ามาเสริมแกร่ง แถมเป็นการได้เด็กดาวรุ่งที่พร้อมเติบโต และรู้แก่นแท้ของทีมอย่างลึกซึ้งว่าควรจะลงไปเล่นในแบบแผนไหน จนกระทั่งในเกมล่าสุดสายตาที่มากกว่า 5 หมื่นคู่ บวกกับที่เฝ้ารออยู่หน้าจอทีวีต่างจับจ้องไปที่เจ้าหนู เอลเลียตต์ ที่ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริง แน่นอนเหล่า "เดอะ ค็อป" คงคาดหวังลึกๆ ว่าทีมจะได้เห็นอะไรดีๆ จากชายผู้นี้แม้จะเป็นเกมแรกที่ได้เป็นตัวจริงในเกมลีกก็ตาม ว่าแล้วสิ่งที่ทุกคนเห็นต่างลุกขึ้นปรบมือให้กับผลงานตลอด 90 นาทีของเขาผู้นี้ เพราะเขามีส่วนร่วมกับทีมแทบตลอด จังหวะจ่ายบอลที่แนบเนียนราวแข้งระดับสูง หรือ การสร้างสรรค์เกมที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเกือบจะมีแอสซิสต์แบบงามๆ ให้อวดแฟนบอลถ้าจังหวะนั้นไม่เป็นลูกล้ำหน้าของ โม ซาลาห์ ไปเสียก่อน "ผมไม่เซอร์ไพรส์เลยที่เขาเล่นได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ นั่นคือสิ่งที่เขาซ้อมให้เห็นมาตลอดในช่วง 6-7 สัปดาห์ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เขากลับมาจากการปล่อยยืมตัว เขาเล่นได้นิ่งมาก และเป็นเกมที่ดีมากๆ" คำชื่นชมจากปาก คล็อปป์ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเด็กคนนี้ขึ้นทะเบียนแจ้งเกิด พร้อมเฉิดฉายแล้ว ต่อจากนี้เชื่อเหลือเกินว่าโอกาสจะมาเคาะประตูถามหา เอลเลียตต์ บ่อยครั้งมากกว่าเดิม เพราะด้วยตำแหน่งที่เขาเล่นล่าสุดคือมิดฟิลด์ที่คอยสร้างสรรค์เกม รวมไปถึงกลายเป็นตัวเลือกต้นๆ ที่ คล็อปป์ มีไว้ในมือแล้วอุ่นใจ และยิ่งการปล่อยลงไปสัมผัสเกมบ่อยๆ มีแต่ประโยชน์ที่นักเตะ และทีมจะได้รับ แต่ทว่าสิ่งที่กล่าวมาหาใช่ว่าจะมีข้อผิดพลาด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกหรอกกับเด็กวัย 18 ได้ลงเล่นแบบเต็มๆ เกมครั้งแรก อาการตื่นสนาม, ลนลาน หรือ เสียบอลแบบง่ายๆ จะเกิดขึ้น แต่มองในอีกมุมหนึ่งมันคือคุณครูชั้นยอดให้เขาได้นำไปปรับใช้ และแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อยอดตัวเองขึ้นไป  ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขวบปีที่แจ้งเกิด พร้อมโอกาสได้เฉิดฉาย   ส่วนเรื่องดีๆ ทั้งความขยันวิ่งไม่มีหมดพล่านไปทั่วสนามแบบนี้ชอบใจ คล็อปป์ ยิ่งนัก ทำให้นี่คือโจทย์ที่น่าปวดหัวของกุนซือว่าจะสลับปรับเปลี่ยน และส่งใครลงเล่นในช่วงเวลาไหนบ้าง สุดท้ายเมื่อทุกอย่างมันคงตัวนักเตะโชว์ศักยภาพ กุนซือเชื่อมั่นในตัวนักเตะ และบทสรุปผลงานมันออกมายอดเยี่ยม ต่อจากก็รอชมได้เลยว่าเจ้าหนู ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จะไปสุดทางที่ตรงไหน และจะสามารถมองข้ามช็อตไกลถึงโอกาสยึดเป็น 11 ตัวจริงเลยได้หรือไม่

- Paolinho -

logoline