logo-heading

"ฉันยังอาวรณ์อยู่" วลีที่น่าจะบ่งบอกความรู้สึกของแฟนบอล บาร์เซโลน่า ได้เป็นอย่างดี แม้เข็มนาฬิกาจะค่อยๆ เริ่มเดินทางมานานกว่า 1 เดือนแล้วที่พวกเขาไม่มีชายที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ คอยเดินเคียงข้าง

แม้ความเสียใจจากจางหายไปบ้าง แต่เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ยังคิดถึงเฝ้าเพ้อหาชายที่เป็นดั่งหัวใจของสโมสรอยู่เสมอ แต่ทว่าจะอย่างไรก็ตามชีวิตจะต้องเดินต่อไป แม้จะผิดหวัง เศร้าใจมากขนาดไหน ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะชวนทุกท่านไปดู บาร์เซโลน่า ในช่วง 1 เดือนหลังชีวิตที่ไร้ เมสซี่ กันหน่อยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องนอกสนาม และในสนาม

ผลงานของสโมสร

แน่นอนว่าการขาดหายไปของ บาร์เซโลน่า ย่อมส่งผลกระทบแบบโดยตรงกับสโมสรโดยเฉพาะเรื่องของการทำประตู รวมไปถึงขวัญกำลังใจที่นักเตะอาจจะรู้สึกแปลกตาไปเมื่อไม่มีพี่ใหญ่คนนั้นคอยประคับประคองอยู่ข้างๆ ซึ่งจุดนี้มันเลยทำให้หลายๆ คนมองว่า บาร์ซ่า ยุคใหม่จะเริ่มต้นได้ไฉไลมากขนาดไหน  แต่ทว่าจะว่าไปถ้านับผลงานแบบในลาลีกา สเปน แบบเพรียวๆ พวกเขาถือว่าออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยมพอสมควร จาก 3 เกมแรกที่ทัพ "อาซูลกราน่า" ยังคงไม่พลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับใคร พร้อมเก็บไปได้ 7 คะแนน จากการชนะ 2 และเสมอ 1 กระซวกตาข่ายคู่แข่งไปมากถึง 7 ประตู ส่วนเกมไฮไลท์คงเป็นนัดเปิดสนามที่เอาชนะ เรอัล โซเชียลดัด ไปอย่างสวยงาม 4-2  ข้ามฟากมาที่เกมยุโรปที่ออกตัวนัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก ไปด้วยผลงานที่ไม่ค่อยโสภามากเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขาดันเปิดคัมป์ นู ให้คู่ปรับเก่าอย่าง บาเยิร์น มิวนิค มาล่อซ้ำแผลเดิมไปอีก 3 เม็ด ซึ่งส่วนใหญ่ทิศทางลมของแฟนบอลไม่ด่าพุ่งเป้าไปที่นักเตะสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเป็นตัวของกุนซืออย่าง โรนัลด์ คูมัน มากกว่าที่จัดวางแท็คติกแบบไม่เอาอ้าว  ซึ่งโดยรวมแล้วถามว่าคุณภาพของ บาร์เซโลน่า ต่ำลงไหมเมื่อไร้ เมสซี่ ? ก็คงต้องเรียนตามตรงว่าแลดูด้อยประสิทธิภาพลดลงไป แต่ทว่าด้วยขุมกำลังที่มีมันสามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ได้ ฉะนั้นแล้วมันคงอยู่ที่กึ๋นของผู้เป็นกุนซือแล้วแหละว่าจะเข็นทีมไปในทิศทางไหน  รีวิว บาร์เซโลน่า หลังครบ 1 เดือนที่ไร้เงา ลิโอเนล เมสซี่

แนวรุกการยิงประตู

อย่างที่เรารู้กันว่าก่อนหน้านี้ประตูส่วนใหญ่ของ บาร์เซโลน่า ย่อมมาจาก ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะตัวเลขสถิติมันเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก อย่างย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วในทุกรายการแข้งชาวอาร์เจนติน่ามีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 52 ประตู แบ่งเป็นยิง 38 ลูก พ่วงกับอีก 14 แอสซิสต์  ฉะนั้นแล้วการขาดหายไปของ เมสซี่ มันย่อมส่งกระทบแน่ๆ ต่อการผลิตสกอร์ของทีม เพราะนักเตะลูกหม้อของทีมรายนี้สามารถการันตีประตูอย่างน้อยๆ 30 ลูกเป็นอย่างต่ำตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ส่วนกับฤดูกาลปัจจุบันถามว่าตัวเลข 7 ประตู จาก 4 เกม มันน้อยไปหน่อยไหม คงตอบไม่ได้แบบเต็มปากมากนัก เพราะมันก็มีทั้งเกมที่ยิงคู่แข่งแบบขาดลอย หรือเฉือนเอาชนะ แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่สังเกตเห็นคือการกระจายยิงประตูจากนักเตะหลายคนมากยิ่งขึ้น โดย 7 ประตูที่กล่าวไปเกิดขึ้นจากนักเตะ 4 คน ประกอบไปด้วย เมมฟิส เดปาย (2 ประตู), มาร์ติน เบรธเวต (2 ประตู), เซร์จี้ โรแบร์โต้ (2 ประตู และ เคราร์ด ปิเก้ อีกหนึ่งตุง ซึ่งด้วยระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ผลกระทบมันอาจจะยังไม่ได้แสดงผลออกมาแบบชัดเจนมากนัก แต่ในระยะยาวมันก็คงยังต้องพิสูจน์ต่อไปว่าเกมรุกที่ดุเดือดของพวกเขาสมัยยังมี เมสซี่ จะยังคงความร้อนแรงได้ไหมเมื่อไร้ดาวยิงสูงสุดประจำสโมสร

ตัวความหวังในการผลิตประตู

เชื่อเหลือเกินว่าการขาดหายไปของ "เดอะ แบก" คนเก่าอย่าง เมสซี่ มันยากมากเหลือเกินที่จะหาใครก้าวขึ้นมาทดแทนเขาได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ทว่าสิ่งที่ บาร์เซโลน่า ในยุคใหม่ควรต้องทำคือการหาใครสักคนที่สามารถฝากความหวังในการผลิตสกอร์ไว้ได้  ซึ่งเมื่อไล่ดูจากลิสต์รายชื่อแล้วจริงๆ มันก็มีหลายคนที่พอจะฝากผีฝากไข้ไว้ได้อย่าง มาร์ติน เบรธเวต ที่ฟอร์มแจ่มกับทีมชาติเดนมาร์กในศึกยูโร 2020 ก็ถือว่าออกสตาร์ทซีซั่นนี้ได้อย่างร้อนแรงจัดการเหมา 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ในเกมนัดเปิดสนาม แต่ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าทำให้เขาอาจต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งอาจกินเวลาในการรักษาไปนานกว่า 4 เดือน รายต่อมากที่ดูทรงแล้วแฟนบอลอาจจะพอไว้ใจได้นั้นก็คือ เมมฟิส เดปาย ซึ่งเมื่อเริ่มปรับตัวได้ ตอนนี้เขาก็เลยกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และสามารถตอบแทนความไว้ใจด้วยการทำไปแล้ว 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งจะว่าไปดูจากมวลรวมแล้ว และผลงานต้องบอกว่า เดปาย ดูทรงดีที่สุดเหล่าในแผนกเกมรุก ณ เวลานี้ ส่วนในรายอื่นๆ อย่าง ลุค เด ยอง แข้งใหม่ป้ายแดงยังคงไม่ได้ฉายแววอะไรมากนัก หลังเพิ่งได้โอกาสลงเล่นไปเพียงเกมเดียวที่พบกับ บาเยิร์น มิวนิค หรือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ก็ยังคงอยู่ในโรงหมอรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งการกลับมาของเขาก็ยังไม่อาจการันตีว่าจะผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำได้หรือไม่ เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ได้สดใหม่เหมือนเดิมอีกแล้ว นอกจากนั้นยังมี อัตซู ฟาติ ที่ซีซั่นนี้โยกย้ายมาสวมเสื้อหมายเลข 10 ของ เมสซี่ เองก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะก่อนหน้าที่จะเจ็บไปผลงานของเจ้าหนูรายนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักต่อไปว่าพร้อมหรือยังกับการเติบโตขึ้นมาเป็น "เดอะ แบก" คนใหม่ของสโมสร รีวิว บาร์เซโลน่า หลังครบ 1 เดือนที่ไร้เงา ลิโอเนล เมสซี่

ชีวิตนอกสนาม

การขาดหายไปของ เมสซี่ นอกจากผลกระทบที่ส่งผลไปยังเรื่องของในสนามแล้ว นอกสนามเองด้วยความที่เขาเป็นคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในห้องแต่งตัว การที่ไม่มีเขาเป็นพี่ใหญ่แล้วบรรยากาศต่างๆ มันก็ต้องแปรเปลี่ยนไป แต่อย่างน้อยๆ บาร์เซโลน่า ก็ยังมีพวกเหล่าซีเนียร์ในการคอยประคองน้องๆ ในทีม เคาร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, จอร์ดี้ อัลบา และ เซร์จี้ โรแบร์โต้ คือเหล่านักเตะรุ่นใหญ่ที่เหมือนหัวหน้าห้องในการคอยเป็นเกราะกำบังให้กับน้องๆ แนะแนวนำทางต่างๆ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตนอกสนาม และเป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมยามที่ไม่ได้รับผลการแข่งขันที่เป็นใจ หรือห้วงเวลาในสถานการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้บรรยากาศในทีมยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิมถึงแม้จะไม่มี เมสซี่ อยู่ในห้องแต่งตัวแล้วก็ตาม  แต่อย่างที่เรียนไปว่าสโมสรยังคงต้องเดินหน้าต่อไป และพวกเขาเองก็กำลังเรียนรู้การใช้ชีวิตที่ไม่มี เมสซี่ ค่อยๆ ปรับสภาพของตัวเอง และพาทีมเดินหน้าเพื่อพุ่งชนกับความสำเร็จให้ได้อีกครั้งหนึ่งก็เท่านั้นเอง

- Paolinho -

logoline