logo-heading

และแล้วเวลาที่แฟนผีรอคอยก็มาถึง... นั้นก็คือการประกาศแยกทางกับอดีตกุนซือของทีมอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ภายหลังทำผลงานได้อย่างล้มเหลวในฤดูกาลนี้

กระแส #OleOut กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในหมู่เหล่าแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยผลงานของทีมที่นับวันยิ่งทนไม่ได้กับความพ่ายแพ้ที่เริ่มหนักข้อ และทวีความเลวร้ายมากขึ้นไปในทุกๆ สัปดาห์ แต่ทว่าบอร์ดบริหาร หรือแม้แต่ตัวของกุนซือเองก็ยังไม่ได้มีใครออกมายืดอกรับผิดชอบเสียที จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายในบุกไปพ่าย วัตฟอร์ด แบบไร้ทางสู้ 4-1 ก็ได้ขาดลงอย่างสมบูรณ์แบบ ราว 24 ชั่วโมงหลังจบเกมก็มีประกาศอย่างเป็นทางการในการแยกทางกับกุนซือชาวนอร์เวย์รายนั้น ภายหลังประสบความล้มเหลวอย่างจงหนัก แม้เขาจะเคยเป็นอดีตตำนานนักเตะที่แฟนบอลรักสุดขั้วหัวใจก็ตาม ในแง่มุมของการสวมหัวโขนเป็นผู้จัดการทีมก็ต้องยอมรับว่า โซลชา ไม่อาจครองใจแฟนบอล "ผีแดง" ได้อีกแล้ว ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี เขาไม่อาจเนรมิตรให้สถานที่แห่งนี้ประสบความสำเร็จได้เลย และยิ่งเวลาผ่านไปความชอบธรรมในการนั่งเก้าอี้กุนซือก็เหลือน้อยลงทุกที จนกระทั่งถึงวันที่ต้องเอ่ยปากอำลากันไป แต่ทว่าในวันที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งจริงๆ ยอมรับว่าในมุมของแฟนผีมันรู้สึกแปลกใจยังไงชอบกล แน่นอนเพราะเขาคือตำนานของสถานที่แห่งนี้ มันเลยทำให้ความโกรธแค้นที่สะสมมามันได้หายไปในพริบตา ภาพที่แฟนบอล ยูไนเต็ด ดักรอเพื่อสวมกอดเขา มันตอกย้ำได้ดีเหลือเกินถึงความผูกพัน ใช่ครับ... ความผูกพันนั้นมันไม่ใช่ในมุมของผู้จัดการทีม แต่มันคือในบทบาทฮีโร่ของสโมสรที่เคยขีดเขียนสร้างเรื่องราวมากมายผ่านสตั๊ดทั้ง 2 ข้าง ให้กับทีมแห่งนี้ ความยิ่งใหญ่ของ โซลชา สมัยเป็นนักเตะ ที่แฟนบอลยังคงรัก และเชิดชู ย้อนกลับไป โอเล่ กุนนาร์ โซชา ย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 1996 ซึ่งในห้วงเวลานั้นไม่มีใครรู้จักเด็กน้อยคนนี้ทั้งในแง่ของนักฟุตบอล หรือในแง่ของฝีเท้าว่าเก่งกาจมากขนาดไหน และสิ่งที่ต้องยอมรับในวันนั้นไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเด็กจากนอร์เวย์จะมาสร้างตำนานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะขนาดชื่อกว่าจะเรียกถูกก็ยังต้องถกเถียงกันเลยว่าจะต้องออกเสียงผ่านรูปากในรูปแบบไหน แน่นอน โซลชา ต้องใช้ความพยายามในการพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอในการลงเล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการช่วงไล่ล่าความสำเร็จ  ว่าแล้วเขาก็สามารถเอาชนะใจแฟนบอล "เร้ด เดวิลล์" ได้อย่างหมดจด ประตูต่างๆ ที่เขาผลิตได้ทำให้ชื่อของเด็กชายจากนอร์เวย์เข้าไปนั่งอยู่กลางใจแฟนบอลมากขึ้นเรื่อยๆ  จนกระทั่งค่ำคืนสุดแสนพิเศษที่คัมป์ นู วินาทีที่ไม่อาจมีแฟนผีคนไหนลืมค่ำคืนแห่งความมหัศจรรย์นั้นไปได้ และถ้าเกมในวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์ฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงสโมสรแห่งนี้ไปมากขนาดไหน แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ถูกบรรจงมอบให้กับพวกเขา จากประตูชัยของ โซลชา ในช่วงนาทีที่ 90+3 วินาทีนั้น โซลชา ไม่ต่างอะไรกับเทพบุตรของแฟนบอลลุกมาจากม้านั่งสำรองช่วง 10 นาทีสุดท้าย ก่อนยื่นเท้าขวาแบบถูกจังหวะพาบอลเลี้ยวเข้าไปตุงตาข่าย ประตูนั้นเปลี่ยนชีวิตของ โซลชา ไปมากเลยทีเดียว จากนั้นชีวิตของเขาก็วนเวียนอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด ไม่ได้คิดที่จะมีการย้าย หรือเปลี่ยนแปลงต้นสังกัดแต่อย่างใด ทั้งที่บางซีซั่นเขาเองก็ไม่ใช่กองหน้าตัวเลือกแรกของสโมสร บทบาทส่วนใหญ่คือตัวสำรองที่ถูกส่งลงมาเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ของทีมมากกว่า และนั้นกลายเป็นภาพจำที่แฟนบอลสามารถคาดหวังได้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาถูกส่งลงสนามจะคาดหวังกับประตูจากเขาได้อย่างแน่นอน ความยิ่งใหญ่ของ โซลชา สมัยเป็นนักเตะ ที่แฟนบอลยังคงรัก และเชิดชู และด้วยเหตุนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกเลยว่าทำไมแฟนบอล ยูไนเต็ด จึงรัก และเทิดทูนผู้ชายคนนี้แบบสุดหัวใจ แม้เขาไม่ได้มี DNA ของความเป็น "ปีศาจแดง" เลยสักนิดเดียวในวันที่ก้าวเดินมายังสโมสร แต่ทว่าด้วยเวลา และความผูกพันมันค่อยๆ หล่อหลอมให้ โซลชา มีเลือดของความเป็น ยูไนเต็ด มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อตราสโมสร ไม่เคยแม้แต่จะปริปากบ่นในวันที่ควรจะได้รับโอกาส ไม่เคยออกมาโวยวายผ่านสื่อทุกโอกาสอันน้อยนิด แต่เขาทำงานของตัวเองแบบเงียบๆ รอคอยวันที่เขาจะได้โชว์ฝีเท้า และสร้างความสุขให้กับแฟนบอล ทั้งที่ฝีเท้าระดับเขาสามารถย้ายออกไปเป็นตัวหลัก ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับอื่นแบบสบายๆ  แต่กับ โซลชา มันไม่ใช่แบบนั้น ในเมื่อหัวใจยอมมอบให้กับสโมสรแห่งนี้แล้ว ก็ขอจงรักให้กับสถานที่แห่งนี้ตลอดไป ช่วงเวลา 11 ปี กับสถานที่แห่งหนึ่งมันมากเกินกว่าคำว่าผูกพัน และยิ่งเป็นบุคคลที่สร้างเรื่องราวต่างๆ ให้ผู้คนได้พูดถึง คำว่า "ตำนาน" จึงถูกบรรจงมอบให้กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แบบที่เขาไม่ต้องเรียกร้อง แต่เป็นความสมัครใจที่แฟนบอลอยากจะให้ในฐานะนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร ตัวเลข 126 ประตู จากการลงสนาม 365 นัด มันอาจจะไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่นั่นมันคือการตอบแทนแฟนบอลจากหัวใจของผู้ภักดีคนหนึ่ง รวมไปถึงโทรฟี่แชมป์ต่างๆ ที่เขาเสกมาประดับที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มันคู่ควรแล้วกับความรักที่แฟนบอลมอบให้กับเขา แต่ทว่าในพาสของความเป็นกุนซือก็ต้องเข้าใจว่ามันไม่สามารถใช้ชื่อเสียงในอดีตเพื่อมาหักล้างให้แฟนบอลต้องยกมือสนับสนุนคุณไปจนตลอดรอดฝั่งได้ ความสำเร็จคือเครื่องการันตีฝีมือ และเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคุณเหมาะสมกับสโมสรแห่งนี้ในฐานะผู้นำของเด็กๆ ในทีมมากขนาดไหน ด้วยผลงานที่ผ่านมาความดีความชอบของ โซลชา บนเก้าอี้กุนซือมันก็พอมีให้ได้เห็นอยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดเมื่อผลงานมันไม่เป็นดั่งที่คาดหวังไว้ แฟนบอลก็พร้อมใจจะโห่ไล่ตัวเขาเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ซัพพอร์ตเตอร์เหล่านั้นแสดงออกมันกำลังโจมตีไปที่หัวโขนที่เขาสวมใส่อยู่  ไม่มีใครลากผลงานในอดีตมาหักล้าง แย่ก็ต้องบอกว่าแย่ ห่วยก็ต้องยอมรับ เพราะภาพที่ออกมาคือหลักฐานชั้นยอดที่ประจักษ์สู่สายตาของทุกคน บอลไร้ทรง, ไร้จินตนาการ, ไร้ความรู้สึก คล้ายคนนอนอยู่ในไอซียู รอเพียงถอดเครื่องช่วยหายใจเพียงเท่านั้น จนกระทั่งถึงวันแยกทางมันก็มีมุมเล็กๆ เหมือนกันที่ใจหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องพยายามแยกแยะให้ได้ว่าประตูที่เขาเคยทำ กับความเป็นจริงในวันนี้มันมีเส้นแบ่งกั้นอยู่ คลิปวิดีโอที่เขานั่งสัมภาษณ์กับสื่อของสโมสร เสื้อที่เขาสวมใส่ไม่ได้มีโลโก้ "ปีศาจแดง" แป๊ะอยู่ที่อกข้างซ้ายอีกแล้ว และมันเป็นคลิปที่เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนนั่งดูคงรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน ภาพที่ โซลชา ตาแดงก่ำ มีน้ำตาออกมาคลอเบ้าให้เห็น มันสะท้อนเลยว่าเขารักสโมสรแห่งนี้มากขนาดไหน เขาอยากจะเป็นผู้ที่ดึงสโมสรแห่งนี้กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้งมากขนาดไหน แต่ทุกอย่างควรต้องยืนอยู่กับความจริง ... ความยิ่งใหญ่ของ โซลชา สมัยเป็นนักเตะ ที่แฟนบอลยังคงรัก และเชิดชู ชื่อของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังคงเป็นที่รักของแฟนผีอยู่ไหมน่ะหรอ? ต่อคำถามนี้ผมไม่อาจบังคับใจให้ใครให้คิดเห็นเหมือนกันได้ แต่เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ ยังคงรัก และเชิดชูผู้ชายคนนี้อยู่เหมือนเดิม  ความรักที่เคยให้ไปนั้นมันไม่ได้ถูกลดทอนด้วยผลงานในฐานะกุนซือลงไปแม้แต่นิดเดียว อย่าเสียเวลาเชื่อมโยงเวลาจากทั้ง 2 ยุค เลยครับ แม้จะเป็นสถานที่เดียวกัน แต่นั่นเป็นคนละห้วงเวลา และบทบาทก็แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กหนุ่มไร้ชื่อเสียง ข้ามน้ำทะเลมาเติบโตกับสโมสร พร้อมวีรกรรมที่น่ายกย่องมากมาย จนถูกสถาปนาเป็น "ตำนาน" ที่อยู่บนหิ้ง  ก่อนจะพลิกโฉมกลายมาอยู่ในบทบาทของกุนซือที่อาจจะล้มเหลวแบบไม่เป็นท่า ... แต่ทว่ามันก็คือบทพิสูจน์ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คือบุคคลที่แฟนบอลเกลียดไม่ลง  ความรักที่มีให้กับเขายังคงอบอวล และมันคงจะเป็นภาพที่อบอุ่นไม่ใช่น้อย ในวันที่ตัวเขากลับมายังโรงละครแห่งนี้อีกครั้ง พร้อมการต้อนรับจากแฟนบอลที่รักเขาแบบหมดหัวใจ

- Paolinho -

logoline