ผลงานสวยหรู! วินิซิอุส กับฤดูกาลที่ฟอร์มแจ่มเกิดต้านทาน

ชื่อของ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้รับการจับตามองมากยิ่งขึ้นในฤดูกาลนี้ จากผลงานที่ร้อนแรงสุดสะเด่าเป็นอย่างมากกับ เรอัล มาดริด ขึ้นตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นรองดาวซัลโวของลีกในขณะนี้

ซึ่งจะว่าไปนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" และเล่นอย่างเป็นทางการช่วงปี 2018 นี่น่าจะเป็นห้วงเวลาที่ดาวรุ่งจากบราซิลสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปส่องผลงานของ วินิซิอุส จูเนียร์ ในซีซั่นนี้กันหน่อยว่าเป็นยังไง และอะไรที่เกื้อหนุนทำให้เขากลายเป็นยอดแข้งเบอร์ต้นๆ ของวงการฟุตบอลลีกสเปนในตอนนี้

ผลงานสวยหรู! วินิซิอุส กับฤดูกาลที่ฟอร์มแจ่มเกิดต้านทาน

ย้อนรอยผลงาน

อย่างที่เรียนไปว่า วินิซิอุส จูเนียร์ ได้โอกาสลงสนามครั้งแรกกับ เรอัล มาดริด ในช่วงฤดูกาล 2018-19 แม้จะมีการเซ็นสัญญากันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นไปแล้วราว 1 ปี แต่ทว่าก็ต้องรอให้เจ้าตัวอายุ 18 ปี เสียก่อนเพื่อที่จะลงเล่นกับทีมได้ ซึ่งผลงานของ วินิซิอุส สมัยยังคงโลดแล่นอยู่ในลีกบ้านเกิดก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างจี๊ดจ๊าดกับสโมสร ฟลาเมงโก 2 ฤดูกาลกับทีมชุดใหญ่เจ้าตัวลงสนามไปมากถึง 69 นัด ซัด 14 ประตู ด้วยผลงานแบบนี้ทำให้ทัพ "ราชันชุดขาว" ได้ทำการจับจองคว้าตัวมาร่วมทีมพร้อมจ่ายค่าตัวที่มูลค่าสูงถึง 45 ล้านยูโร กับแข้งโนเนมที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนัก โดยผลงานในช่วงฤดูกาลแรกกับ เรอัล มาดริด เจ้าตัวถือว่าได้โอกาสลงสนามค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แม้จะเจองานยาก เพราะทีมต้องเปลี่ยนกุนซือมากถึง 3 คน ไล่มาตั้งแต่ ฆูเลน โลเปเตกี, ซานติอาโก้ โซลารี่ ก่อนปิดท้ายด้วย ซีเนดีน ซีดาน จะว่าไปฝีเท้าของ วินิซิอุส ถือว่าเป็นที่นิยมชมชอบของกุนซือไม่ใช่น้อยที่มักจะเปิดโอกาสให้กับเขา แต่ทว่าสิ่งที่ยังต้องปรับคือเรื่องของการทำประตูที่ไม่ยังเป็นกอบเป็นกำมาก และเฉียบขาดมากนัก เพราะถ้าวัดจากตำแหน่งการเล่นที่เป็นตัวรุกริมเส้น สถิติดีที่สุดของเขาคือซีซั่น 2020-21 ที่ซัดในทุกรายการไปได้ 6 ประตู จากการลงสนาม 49 นัด แต่ใครจะไปรู้ว่า 3 ซีซั่นก่อนจะถึงปัจจุบันมันเหมือน วินิซิอุส ค่อยๆ ใช้เวลาในการเก็บเกี่ยว เพิ่มประสบการณ์ให้กับตัวเอง อีกทั้งเมื่อทุกอย่างมันเริ่มลงตัวฝีเท้าที่ได้ศาสตร์ลูกหนังจากกุนซือที่ถ่ายทอดมาให้มันจะค่อยๆ มาเฉิดฉายเอาในฤดูกาลปัจจุบันนี้

ฟอร์มกระฉูดในซีซั่นนี้

ก่อนซีซั่น 2021-22 จะรูดม่านเปิดฉากขึ้น ถ้าจะสอดสายตาไปที่ขุมกำลังของ เรอัล มาดริด แน่นอนอยู่แล้วว่าหลายคนคงต้องพึ่งพา คาริม เบนเซม่า ในการผลิตประตู แต่ส่วนในรายอื่นๆ ก็คงเป็นหน่วยสนับสนุนที่หมุนเวียนมาช่วยหัวหอกชาวฝรั่งเศสไม่ว่าจะเป็น เอเด็น อาซาร์, มาร์โก อเซนซิโอ้, แกเร็ธ เบล หรือ ลูคัส บาสเกซ รวมไปถึงดาวรุ่ง 2 หน่ออย่าง โรดรีโก้ และ วินิซิอุส แต่ใครจะไปคาดคิดว่าผลงานของ วินิซิอุส จะร้อนแรงเกินห้ามใจขนาดนี้ เพราะเขาออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยความมั่นใจ ซัดไป 5 ประตู จากเกมลีก 5 นัดแรก แม้จะมีช่วงเว้นว่างห่างหายจากการเอาบอลเข้าไปซุกที่ก้นตาข่ายไปบ้าง แต่ก็เป็นเพียงห้วงเวลาหนึ่งเท่านั้น สิริรวมจนถึงตอนนี้ดาวรุ่งวัย 21 ปี ลงสนามในทุกรายการไปทั้งหมด 19 นัด มีส่วนร่วมกับประตูของทีมไปมากถึง 18 ตุง แบ่งเป็นยิง 11 ประตู พ่วงด้วย 7 แอสซิสต์ พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกที่ทีมไม่อาจขาดไปได้แล้วในตอนนี้ จุดเด่นของเขาอย่างที่เรารู้กันคือเรื่องของความเร็วที่มีสปีดว่องไว ไปกับบอลได้ดี และมีสกิลฟุตบอลตามแบบฉบับแซมบ้าในการคอยปั่นหัวคู่แข่งเมื่อได้มีโอกาสดวลแบบ 1 ต่อ 1 อีกทั้งเรื่องการจบสกอร์ที่เขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวอย่างชั้นยอดคือประตูล่าสุดที่ตะบันจากนอกกรอบเขตโทษใส่ เซบีย่า การกระซวกลูกนี้ทุกอย่างลงตัวเป็นอย่างมาก ทั้งการรับบอล พาบอลตัดเข้าใน และตะบันด้วยเท้าขวาอย่างเฉียบคม แน่นอนว่าการที่ วินิซิอุส ได้โอกาสลงสนามแบบสม่ำเสมอ พร้อมทำประตูได้ และทีมเก็บชัยชนะ สิ่งเหล่านี้เมื่อมาผสมรวมกันมันเลยกลายเป็นความมั่นใจที่กล้าตะลุย กล้ายิง มากยิ่งขึ้นนั้นเอง

คู่หู เบนเซม่า

ในอดีตเราคงจำโค้ดลับของทัพ "ราชันชุดขาว" อย่าง บีบีซี (BBC) ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการรวมตัวการกระซวกตาข่ายคู่แข่งของ คาริม เบนเซม่า, แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แน่นอนพอเวลาผ่านไปสิ่งเหล่านี้ก็เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา แม้ตัว C จะแยกย้ายไปแล้ว เหลือตัวเพียง 2 ตัว แต่ทว่า กับ B เบล นั้นคงต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าไม่อาจลงเล่นได้แบบต่อเนื่องอีกแล้ว จากอาการบาดเจ็บที่รบกวนอย่างต่อเนื่อง ทำให้อีกหนึ่ง B อย่าง เบนเซม่า ต้องมองหาคู่ขาที่รู้ใจกันใหม่ ก่อนที่จะมาสปาร์คกับเด็กรุ่นน้องอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ นั่นเอง เพราะในซีซั่นนี้ต้องยอมรับว่าทั้งคู่คือ "เดอะ แบก" ในเกมรุกจริงๆ จำนวนประตูเกินครึ่งมาจากการรังสรรค์ของ 2 ดาวยิงผู้นี้ อีกทั้งการประสานของรุ่นพี่-รุ่นน้อง คู่นี้ ดูเหมือนมันจะค่อยๆ ลงตัว และกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ผลัดกันยิง ผลัดกันจ่ายกันอยู่เรื่อย ซึ่งจากสถิติฤดูกาลนี้ วินิซิอุส การแอสซิสต์ 4 จาก 7 ครั้งของเขา คือการถวายพานให้ เบนเซม่า ซัดเข้าไปตุงตาข่าย เช่นเดียวกัน 11 ประตูของดาวรุ่งชาวบราซิล มาจากการแอสซิสต์ของ เบนเซม่า ถึง 4 ครั้งด้วยกัน แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ช่วงหลังเรามักจะเห็นทั้งคู่ประสานงานแบบรู้ใจกันมากยิ่งขึ้น แม้วัยจะแตกต่างกันมาก แต่ทว่าการที่ เบนเซม่า มีเด็กที่จี๊ดจ๊าด และพร้อมวิ่งปั่นป่วนแนวรับคูาแข่งพาบอลมาให้เขาแบบนี้ ย่อมส่งผลดีต่อตัวเขา และทีมเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งที่ต้องยกเครดิตให้ก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่สามารถทำให้ทั้งคู่เล่นร่วมกันได้อย่างเฟี้ยวฟ้าวขนาดนี้ ฉะนั้นมันคงจะไม่แปลกเลยถ้าจะบอกว่านี่คือคู่หูที่ลงตัว และน่ากลัวมากที่สุดของเวทีลาลีกา สเปน ณ ตอนนี้ เพราะในชาร์ตดาวซัลโว เบนเซม่า นำโด่งอยู่ที่ 11 ประตู ตามมาด้วย วินิซิอุส ที่จำนวน 9 ประตู นี่แหละความต่างของอายุที่สร้างความลงตัวให้กับ เรอัล มาดริด

อนาคตของ เรอัล มาดริด

"ตอนนี้ผมเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางอาชีพเท่านั้น ผมอยากอยู่ที่นี่ตลอดไป" ส่วนหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่พ่นออกมาจากปากของ วินิซิอุส ที่เปรยถึงอนาคตไว้ว่าอยากจะฝากชีวิตค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด จนไปถึงวันที่นำสตั๊ดขึ้นไปแขวน แน่นอนว่าด้วยอายุของเขา และเส้นทางที่อีกยาวไกลของเขาไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า วินิซิอุส จูเนียร์ จะมีเส้นทางลูกหนังหักเหไปในทิศทางไหนบ้าง หรืออาจจะเป็นตำนานของทีมค้าแข้งกับสโมสรตามความปรารถนาของเขาก็เป็นได้ แต่ทว่าถ้ามองจากจุดนี้ปัจจุบันเขากำลังแสดงฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมออกมา เหมือนเป็นคำเชื่อเชิญให้ทีมขยายสัญญากับเขาออกไป และมอบหมายหน้าที่เป็นกำลังหลักของทีมต่อไปในอนาคต เพราะด้วยฝีเท้าที่พัฒนามากขึ้น และสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆ ว่านี่คือดาวอีกดวงที่เริ่มจรัสแสงมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นมันคงจะไม่มากเกินไปถ้าจะบอกว่านี่คือของดีที่ทัพ "ราชันชุดขาว" สามารถฝากอนาคตไว้ได้อีกนานหลายปี เผลอๆ บางทีอาจจะได้ร่วมงานกันยาวๆ จนถึงวันที่เลิกเล่นก็เป็นได้