นอกจากนี้ ยังถือเป็นสุดยอดการแข่งขันของเอเชีย ที่รวมนักขับระดับโลกหลายคน มาดวลความเร็ว อาทิ เชน แวน กิสเบอร์เกน ยอดนักขับออสเตรเลียนจากศึก V8 ออสเตรเลียน ซูเปอร์คาร์ ที่ดังกระหึ่มทั่วโลก, เจมี วินสโลว ยอดนักขับอังกฤษอดีตแชมป์ ออสเตรเลียน ไดรเวอร์ แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัย และ เลียวนาด ฮูเกนบูม สุดยอดดาวรุ่งชาวดัตช์วัย 19 ปี ที่สร้างผลงานโดดเด่นในปีที่ผ่านมา สำหรับการแข่งแบบ เอ็นดูรานซ์ คือการขับมาราธอน ตลอด 4 ชั่วโมงเต็ม รถแข่งแต่ละคันห้ามดับเครื่องยนต์ นักขับ 3 คนต่อคัน สลับกันขับ
ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ถือเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่ สนามช้างฯ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรายการที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในประเทศไทย ด้วยความเร้าใจของเกมการแข่งขันแบบเอ็นดูรานซ์ จากนักขับระดับโลกที่มีลีลาการควบคุมรถอย่างเร้าใจ นอกจากนี้ยังถือเป็นรายการที่รวบรวมรถแข่งซูเปอร์คาร์ระดับโลกไว้อย่างตื่นตาตื่นใจ โดยจะมีนักขับ รวม 80 คน และรถซูเปอร์คาร์ 30 คัน ร่วมกันชิงชัย
“ในปีนี้ สนามช้าง อินเตอร์นั่นแนล เซอร์กิต ถูกวางเป็นสนามสุดท้ายของปี ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากแฟนความเร็วทั่วทั้งเอเชีย โดยก่อนหน้าเดินทางมาที่เมืองไทย จะไปแข่งขันกันที่มาเลเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์นั้นสูสีกันมากขึ้น และแน่นอนว่า เอเชีย เลอ มังส์ ซีรีส์ จะเป็นหนึ่งในรายการที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยไม่ควรพลาดในปีนี้” ตนัยศิริ กล่าว
ด้านผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพในคลาสสูงสุดอย่าง แอลเอ็มพีทู (LMP2) จี ไดรฟ์ เรซซิ่ง บาย อัลการ์ฟ หมายเลข 26 ที่ขับโดย โรมัน รูสินอฟ นักขับรันเซียน, เจมส์ เฟรนช์ นักขับอเมริกัน และ เลียวนาด ฮูเกนบูม นักขับดัตช์ ที่ช่วยกันคว้าแชมป์ให้กับทีม 2 สนามติดต่อกัน เก็บไปทั้งสิ้น 50 แต้ม เหนืออันดับ 2 อย่างรถแข่งหมายเลข 36 จาก ยูเรเชีย มอเตอร์สปอร์ต อยู่ 13 คะแนน
ส่วนผู้นำในคลาส แอลเอ็มพีทรี (LMP3) เป็นของรถแข่งหมายเลข 2 จาก นีลเซ่น เรซซิ่ง ที่ขับโดยคู่หูชาวอังกฤษอย่าง โทนี เวลล์ส และ คอลิน โนเบิล มีทั้งสิ้น 44 คะแนน เหนือรองจ่าฝูงอย่าง อินเตอร์ ยูโรโพล คอมเพติชั่น หมายเลข 13 ที่ขับโดย ไนเจล มัวร์ นักขับอังกฤษ และ มาร์ติน ฮิปเปอ นักขับเยอรมันเพียง 1 แต้ม
ขณะที่สถานการณ์ลุ้นแชมป์ในคลาส จีที เป็นของรถแข่งหมายเลข 7 จาก คาร์ กาย ที่ขับโดยสองนักขับญี่ปุ่นอย่าง ทาเคชิ คิมูระ และ เคอิ คอซโซลิโน รวมถึงนักขับอิตาเลียนอย่าง โคเม เลโดการ์ เก็บไป 35 คะแนน เหนืออันดับ 2 อย่าง รถแข่งหมายเลข 77 จาก ดิสเตชั่น เรซซิ่ง ที่ขับโดย ซาโตชิ โฮชิโนะ และ โทโมโนบุ ฟูจิอิ สองนักขับญี่ปุ่นและ รอสส์ กุนน์ นักขับอังกฤษอยู่ 2 คะแนน
นอกจากการแข่งขันรายการหลักอย่าง เอเชียน เลอ มองส์ ซีรีส์ นัดปิดฤดูกาลแล้ว ในสุดสัปดาห์นี้แล้ว ยังมีการแข่งขันซัพพอร์ทเรซรายการ ฟอร์มูล่า 3 เอียน แชมเปี้ยนชิพ 2020 ซึ่งเป็นศูนย์รวมนักขับดาวรุ่งฝีมือดีทั่วทั้งเอเชีย และรายการ ท็อปสปีด เรซการแข่งขันสุดเร้าใจ