logo-heading

หลังจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปฏิบัติภารกิจ พาทัพ เรือใบสีฟ้า ปูพรมบุกไล่ต้อน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 กรุยทางสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ไปพบกับ อาร์เซน่อล ทำให้เส้นทางคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ยังดำเนินต่อไป

อย่างไรก็ตาม 3 แชมป์ ที่ว่านั้น นอกจาก เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ ที่คว้าโทรฟี่ไปครองแล้ว ยังมี ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาใฝ่ฝันมานานแสนนาน แต่กระนั้น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับหลุดลอยไม่อาจป้องกันแชมป์ได้แล้ว เพราะต้องยอมให้กับ ลิเวอร์พูล ทำไม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่อาจต้านทานความมุ่งมั่นของ ลิเวอร์พูล ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปได้ นอกจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมจาก หงส์แดง แล้วนั้น ยังมีองค์ประกอบอีกหลายๆอย่างที่ เรือใบสีฟ้า ต้องซดแห้วแชมป์ลีก และ ประสบพบเจอในซีซั่นนี้ 

  1. ขาดแคลนนักเตะเซ็นเตอร์แบ็ก
เมื่อมองถึงภาพรวมแล้วของ แมนฯ ซิตี้ แล้ว ทุกตำแหน่งสามารถทดแทนกันได้หมด และ ด้วยเม็ดเงินมหาศาล "เรือใบสีฟ้า" สามารถใช้งบประมาณซื้อใครมาร่วมทีมก็ได้ ตามที่ใจต้องการ แต่มันเซอร์ไพรส์เหลือเกินที่ แมนฯ ซิตี้ กลับไม่ได้ซื้อนักเตะตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กมาเพิ่มเลย เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 5 เหตุผลสำคัญ ทำให้ เรือใบ ไม่อาจขัดขวาง หงส์แดง ซิวแชมป์ลีก ฉะนั้นเมื่อไม่มีใครเข้ามาเพิ่ม เรื่องร้ายแรงก็เกิดขึ้น หลังจาก อายเมริค ลาปอร์ต เซ็นเตอร์แบ็กเบอร์ 1 ของทีม ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบริเวณหัวเข่า ตั้งแต่ช่วงปลายสิงหาคม ยาวไปจนถึงช่วงปีใหม่ ซ้ำซ้อนกว่านั้น จอห์น สโตนส์ ก็มาเจ็บออดๆแอดๆ เหลือใช้แค่ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ซึ่งเปรียบเสมือนบ่อน้ำมันของทีม กลับกลายเป็นว่าต้องถอย แฟร์นานดินโญ่ มายืนเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น ซึ่งโอเคนับว่าทำได้ดี แต่เหมือนคนถนัดขวา ดันไปเขียนหนังสือมือซ้าย ย่อมมีความไม่สวยงามให้เห็นกันบ่อยๆ ส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า ทำแต้มหล่นทั้งเกมที่เจอกับ เชลซี, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ที่สำคัญคือ ลิเวอร์พูล นับเป็นจุดอ่อนแรกของ แมนฯ ซิตี้ ในการพลาดป้องกันแชมป์
  1. ขาดผู้นำในสนาม
การขาดหายไปของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี อดีตปราการหลังกัปตันทีม ไปเมื่อซัมเมอร์ก่อน ไม่เพียงแค่สุญเสียเรื่องของการป้องกันเท่านั้น แต่มันส่งผลไปถึงการขาดผู้นำทั้งในและนอกสนาม เพราะต้องยอมรับกันตามตรงว่าในช่วงที่ "เรือใบสีฟ้า" ประสบความสำเร็จ ช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ก็องปานี คือตัวชูโรงยืนหนึ่งของทีม การมี ก็องปานี มันเหมือนมีตัวกระตุ้น แรงขับเคลื่อนให้กับทีม และ มีความหมายอย่างยิ่งในห้องแต่งตัว หากใครยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลก่อน ช่วงที่ แมนฯ ซิตี้ ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล และ เจอศึกหนักกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็น กัปตันก็องปานี คนนี้แหละ ที่ซัดลูกยิงผีจับยัดให้กับ "เรือใบสีฟ้า" เอาชนะไป 1-0 และ กรุยเส้นทางสู่โทรฟี่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 5 เหตุผลสำคัญ ทำให้ เรือใบ ไม่อาจขัดขวาง หงส์แดง ซิวแชมป์ลีก ต่อให้ แมนฯ ซิตี้ จะมีบรรดาสตาร์อัดแน่นกันอยู่เต็มที่ แต่กระนั้นดูจะไม่มีใครโดดเด่นเรื่องของการเป็นผู้นำ เพราะด้วยแคแรคเตอร์ในสนาม ไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา หรือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ไม่ได้สวมบทน่าเกรงขามมากนัก ฉะนั้นการขาด ก็องปานี ย่อมส่งผลถึงการเป็นผู้นำ
  1. ลำดับความสำคัญ
ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้ ว่าฤดูกาลนี้ลำดับความสำคัญของ "เรือใบสีฟ้า" อาจไม่ใช่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกแล้ว เพราะเอาแค่ตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียน ก็กวาดไปแล้ว 2 สมัย  แต่โทรฟี่ชิ้นหนึ่ง ที่พวกเขาตามหามาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา และ ยังไม่ประสบความสำเร็จเสียที ต่อให้เปลี่ยนกุนซือมากหน้าหลายตา ตั้งแต่ โรแบร์โต้ มันชินี่, มานูเอล เปเยกรินี่ หรือจะมาเป็นยุค แมนฯ ซิตี้ ครองเมือง อย่าง เป๊ป ก็ไม่สามารถนำแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองให้กับสโมสรได้เสียที 5 เหตุผลสำคัญ ทำให้ เรือใบ ไม่อาจขัดขวาง หงส์แดง ซิวแชมป์ลีก ถึงขั้นที่ เป๊ป เคยพูดติดตลกกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ไว้เมื่อปลายปีก่อนว่า อยากแลกถ้วย ยูซีแอล จาก หงส์แดง และ ส่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปให้กับพวกเขา ฉะนั้นในเมื่อ "เรือใบสีฟ้า" ได้แชมป์ลีกมา 2 สมัยซ้อน ความสำคัญจึงต้องการทุ่มเทให้กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่าหน่อยๆ ซึ่งฤดูกาลนี้ก็ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์
  1. แข้งสตาร์อายุมากขึ้น
ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนในโลก แต่ทุกอย่างย่อมมีอายุขัย ซึ่ง ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และ แฟร์นานดินโญ่ ยืนหนึ่งเป็นตัวหลักให้กับ เรือใบสีฟ้า มาตลอดหลายปี ตั้งแต่อยู่ในช่วงที่สโมสรเริ่มสร้างรากฐานความยิ่งใหญ่ มาจนถึงปัจจุบันพวกเขาเหล่านี้ก็ยังคงเป็นแกนหลัก เพียงแต่แปรเปลี่ยนสภาพเป็นชายวัยชราในอาชีพค้าแข้งไปแล้ว  5 เหตุผลสำคัญ ทำให้ เรือใบ ไม่อาจขัดขวาง หงส์แดง ซิวแชมป์ลีก ไม่มีใครเถียงเรื่องคลาสบอลของ ดาบิด ซิลบา การจบสกอร์อันเฉียบคมด้วยฝีเท้า อเกวโร่ และ เกมรับอันยอดเยี่ยมจาก แฟร์นานดินโญ่ แต่จะให้ลงสนาม 2-3 เกม ต่อสัปดาห์ คงไม่ไหวอีกแล้ว รวมถึงการรีดฟอร์มเก่งพริ้วๆ เหมือนสมัยหนุ่มก็ทำได้ยาก ซึ่งก็มีต้องการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามระบบแบบแผนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกทั้งเมื่อจบฤดูกาลนี้ ซิลบา ก็ประกาศแล้วว่าจะขออำลาทีม ไปตามเส้นทางความฝันช่วงสุดท้ายของอาชีพ และ ยังไม่รู้ว่าจะมีใครเก็บกระเป๋าออกจาก แมนฯ ซิตี้ ตามไปหรือไม่ ฉะนั้นมันก็สำคัญที่ เป๊ป จะต้องหาตัวแทนเข้ามา
  1. สิ่งรบกวนจากนอกสนาม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เรื่องที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกแบนห้ามเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 2 ปี หรือ อาจรุนแรงถึงขั้นปรับตกชั้น จากการทำผิดกฎควบคุมการเงินแบบซ้ำซ้อน ส่งผลไปถึงสมาธิและความมุ่งมั่นของนักเตะอย่างรุนแรง เพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทิาศทางอนาคตจะเป็นอย่างไร ถึงแม้ เป๊ป หรือ นักเตะบางคน จะบอกว่าต่อให้โดนปรับตกชั้น ก็พร้อมจะลงไปอยู่กับทีมไม่จากไหน แต่อย่าลืมว่านักเตะตัวหลักบางคนอายุก็มากขึ้นทุกๆวัน เป้าหมายสำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถ้าหากถูกแบนไป ก็อาจไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่รอถึง 2-3 กว่าจะได้กลับไปเล่นอีกครั้ง ซึ่งประเด็นนี้นี้แหละครับ ที่มันอาจทำให้ แมนฯ ซิตี้ เสียสมาธิในการต่อสู้ลุ้นแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ ลิเวอร์พูล ไม่มากก็น้อย สุดท้ายผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร บทลงโทษสำหรับ เรือใบสีฟ้า จะรุนแรงขนาดไหน เดี๋ยวได้รู้กันเร็วๆนี้

ติดตามคอนเทนต์ดีๆจากเพจ ขอบสนาม ได้ที่ไลน์แอด

logoline