logo-heading

เมื่อก่อนเป็นคนไม่ชอบดูหนังรักโรแมนติกของญี่ปุ่นเอาเสียเลย จนกระทั่ง Tomorrow I Will Date With Yesterday's You เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อหนังแดนซามูไรของผมเปลี่ยนไป และก็ไปเสพติดหนังพวกเขาเยอะขึ้น ซึ่งแต่ละเรื่องก็จะมีมุมจุดขายทิศทางคล้ายๆกัน ซึ้งเรียกน้ำตา แต่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครแฝงเอาไว้สอดแทรก

หนังญี่ปุ่น โทนความรัก ชอบสร้างประเด็นถวิลหาความทรงจำแบบเก่าๆ บ้างก็ย้อนเวลา บ้างก็เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกคนดู สุขเหงา เศร้าเคล้าน้ําตา แต่คงไม่มีใครออกแบบหรือเล่าเรื่องหนังโรแมนติกที่แฝงความเจ็บปวดได้ดีเทียบเท่ากับผู้กำกับจากเมืองเซนได อิวาอิ ชุนจิ ผู้สร้างงานหนังมาสเตอร์พีซคุณภาพเคยครองใจคนชอบหนังกระแสและไม่กระแสมาแล้ว จาก Love Letter (1995), All about Lily chou-chou (2001) ผลงานชิ้นใหม่ Last letter ที่ออกมาในปี 2020 เป็นการเล่าในแนวทางอาจจะไม่ได้ใหม่มาก แต่หยิบประเด็นที่มีจดหมายเป็นสื่อกลาง เพื่อให้หนังบอกเล่าเรื่องความทรงจำเก่าๆในสมัยมัธยมที่เป็นรักบริสุทธิ์ใสสะอาดของผู้ชายคนหนึ่งที่แอบรักสาวสวยรายหนึ่งในอดีต แม้จะไม่สมหวังแต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าโหยหากลับไปตามหาเพื่อทบทวนสิ่งต่างที่ค้างคาเอาไว้ ข้อดี  เวลาเราดูหนังรักดีๆ เราคงต้องหาประเด็นว่าหนังจะนำเสนอมุมมองความรักแบบไหนให้เรารู้สึกอิ่มเอม ชวนหลงไหลและอินไปกับหนังประเด็นเรื่องมีอยู่ประมาณ 3 จุด รักครั้งแรก, ความทรงจำและความหวัง โดยมีจดหมายเป็นสื่อกลางที่พาตัวละครมาพบกัน ตัวละครพระเอกในพาร์ทปัจจุบันได้กลับไปตามหาเศษเสี้ยวของชีวิตที่คิดถึงและได้หายไปจากความทรงจำ นั้นคือรักแรก การกลับไปตามหามันเป็นการหล่อเลี้ยงบางสิ่งบางอย่างที่เขาอยากทำมาก แม้รู้ดีว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม หนังจึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ลึกๆแล้วก็รู้คำตอบ แต่ก็ยังเลือกที่จะทำต่อไป เวลาเราจีบใครสักคนยุคสมัยก่อน การเขียนจดหมาย มันคือสิ่งที่โรแมนติกและต้องใช้ภาษาที่ทำให้คนที่เราชอบรู้สึกประทับใจเมื่อเปิดอ่านข้อความที่เราสื่อสาร และยิ่งมันเป็นรักแรก มันเป็นสิ่งที่ยากจะลืม หนังใช้ประเด็นการแอบรักได้น่าสนใจ การเล่าเรื่องพาร์ทอดีตปัจจุบันสลับไปมา สามารถปะติดปะต่อปมบางอย่างที่ค้างคาได้เคลียร์ในความรู้สึกของตัวเอง แม้ว่าตัวละครพระเอกจะรู้อยู่แล้วว่าคนที่รักจากเขาไปนานแล้ว แต่เขาเลือกที่จะทำสิ่งดีๆต่อลูกของคนที่เขารัก มันสื่อให้เห็นว่าบางครั้งคนตายก็มีอิทธิพลต่อเราเช่นกัน และมันยากที่จะลบออกไปจากความคิดพระเอกได้ง่าย นอกจากพาร์ทความรักการทบทวนความทรงจำด้วยจดหมาย อิวาอิ ชุนจิ ยังรังสรรค์วิธีการเล่าเรื่องที่งดงาม การเลือกเฟรมภาพวิธีการถ่ายทำสื่อสารออกมาได้เยี่ยมยอดเราได้เห็นโลเคชั่นงานๆในตัวหนังมากมายที่เกิดขึ้นในเมืองเซนได ผสมผสานกับการใช้เพลงประกอบที่มีเสียงเปียโนมาช่วยสะกิดต่อมน้ำตาผู้ชมแน่ๆ เพราะลึกๆแล้วหนังมันน่าจะช่วยให้ใครต่อใครอยากกลับไปคิดถึงความทรงจำเก่าๆที่เป็นรักแรกอีกครั้ง ข้อเสีย ไม่รู้จะไปหาแง่มุมเชิงลบตรงไหนมาตำหนิ เพราะหนังรักที่ถวิลหาความรัก ความทรงจำที่เป็นFirst kiss แบบนี้มันต้องเล่าเรื่องละเอียดและมีชั้นเชิง ซึ่งตัวอิวาอิ ชุนจิ ปรุงแต่งได้ดีเลยละ สรุป : รู้สึกอิ่มเอมไปกับความทรงจำเก่าๆของหนังที่ใช้จดหมายนำพาไปพบความหลังครั้งเก่าที่เป็นเสมือนรักแรก หนังมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะผสมผสานไปกับประเด็นรู้สึกเจ็บปวดผิดหวัง ชวนให้เสียน้ำตาจี้จนจุกอก ปฏิเสธไม่ได้หลอกว่าชีวิตคนเรารักสมัยเรียนคือรักบริสุทธิ์ที่ยากจะลืมเลือน ขอคาระวะชุนจิ ที่สร้างหนังรักที่ซาบซึ้งกินใจผู้ชมอีกแล้ว คนรักหนังญี่ปุ่นไม่ควรพลาด แจกคะแนนรีวิว 9/10 หนังมีกำหนดเข้าฉาย 12 มีนาคมนี้
logoline