logo-heading

ก่อนที่ บง จุนโฮ จะผงาดได้รางวัลออสการ์ 4 สาขาจาก Parasite ชายผู้หลงรักงานหนังในแบบฉบับมาร์ติน สกอร์เซซี่ จากเมืองแดกู ผู้นี้เคยมีผลงานโกอินเตอร์ เรื่องแรกเมื่อปี 2013 โดยมาจาก Le Transperceneige คอมมิคจากฝรั่งเศส

แน่นอนว่าหนังของบงหยิบการนำเสนอเรื่องความไม่เท่าเทียมความเหลื่อมล้ำทางสังคมเอามาเป็นจุดขาย แม้ว่าหน้าปกจะดูธรรมดา แต่บทหนังและนักแสดงในเรื่องทำให้รู้สึกว่านี่คือหนังที่เชิญชวนให้เราลุ้นระทึกไปกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในแต่ละซีน และมันทำให้ความรู้สึกว่า เสียดายเวลาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่พลาดชมในโรง ข้อดี วันโลกแตกกับกลุ่มมนุษย์ผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายบนโลกต้องมาร่วมอาศัยชายคารถไฟคันเดียวกัน แต่ถูกแบ่งออกเป็นชนชั้น พวกเศษเดนจะได้อยู่ท้ายขบวน ส่วนหัวขบวนนั้นก็เป็นพวกที่มีระดับชีวิตในสังคม มันเลยทำให้การต่อสู้เพื่อปลดแอกเลยเริ่มต้นขึ้น จากผู้คนที่อยู่ท้ายขบวน แค่นี้ผมก็รู้สึกว่าปกครองไม่ต่างจากอินเดียแล้วละที่มาแบ่งชนชั้นแบบนี้ ตลกร้ายที่คุณภาพชีวิตกลับถูกตีเส้นแบ่งเขตในการใช้ชีวิตอยู่อาศัยบนรถไฟความเร็วสูง เมื่อวิถีชีวิตคนถูกแบ่งออกอย่างชัดเจน คนชนชั้นรองก็เผชิญหน้าพบกับความยากลำบาก โดนกดขี่ รังแกอย่างไม่เป็นธรรม ผิดกับคนหัวขบวนที่ไม่ได้เดือดร้อนรู้สึกอะไรทั้งสิ้นอยู่สุขสบาย ผมหลงรักการนำเสนอ การเสียดสีสังคมการแบ่งชนชั้น ถือว่าทำออกมาได้เห็นภาพชัดเจน และเข้าถึงอารมณ์ตัวตนการเป็นมนุษย์ได้ดีเยี่ยม ตัวละครที่ ชื่อเคอร์ติส แสดงโดยคริส อีแวนส์ ก็คือแกนนำที่พร้อมจะปลดแอก เขาต้องการความยุติธรรม เมื่อเป็นคนมีชีวิตมีลมหายใจมันก็ต้องได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน จะเป็นการเริ่มวางแผนแหกขบวนรถไฟ เพื่อมุ่งหน้าไปยังหัวขบวนและเปลี่ยนแปลงชีวิตคนท้ายขบวนให้ดีกว่า การต่อสู้ที่ต้องแลกมาหลายๆอย่างของชนชั้นล่าง ที่มีรายละเอียดระหว่างทางเยอะมากสร้างจุดน่าสนใจไว้เพียบดูสนุกเชิญชวนให้ติดตามลุ้นระทึกตลอดเวลา แถมบง จุนโฮ สร้างประเด็นให้คนดูได้ขบคิดตามไว้เพียบ นักแสดง กัปตันอเมริกา คริส อีแวนส์ เขาคือตัวแบกเรื่องก็ว่าได้ บทบาทเคอร์ติส คนที่ต้องการความเท่าเทียม จึงออกมาสู้ปลดแอกเพื่อให้ได้เสรีภาพ เขานำพาให้หนังไปในทิศทางบวก โดยที่มีตัวละครอื่นเข้ามาร่วมทั้ง เจมี่ เบล, จอห์น เฮิร์ท, เอ็ด แฮร์ริส, ออคตาเวีย สเปนเซอร์ ทิลด้า สวินตัน, คัง โฮ ซอง ที่แม้จะมีเวลาไม่นานในการปรากฏตัวเมื่อเทียบกับคริส อีแวนส์ แต่ทุกคนมีคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำตีบทแตกกระจาย ข้อเสีย หนังมีความmake sense ค่อนข้างน้อย เหตุผลก็เพราะการนำเสนอฉากที่ดูเว่อเกินความเป็นจริงไปบ้างมุม ผมเลยต้องหัก 1 คะแนนออกไป สรุป : รู้สึกหลงรักหนังเรื่องนี้ เพราะมันทั้ง หนังโหด ดิบเถื่อน หักมุมไปมา ก่อนจะค่อยๆเสียดสีกัดจิกปมปัญหาการปกครองที่มันไม่มีความไม่เท่าเทียมเลย บริบทหนังสอดคล้องกับบางจุดในสังคมบ้านเรา ใครหลงรัก Parasite แนะนำให้มาดูครับ แจกคะแนนรีวิว 9/10

logoline