logo-heading

ในภาวะที่เราต้องทำงานอยู่ที่บ้าน การแสว่งหาโอกาสไปดูหนังในโรงที่คุ้นเคยคงทำไม่ได้ ทางออกเดียวในเวลานี้ที่จะยังคงเสพติดการดูหนังเพื่อผ่อนคลายซะบ้าง ก็คงมีแค่ดูอยู่ที่บ้าน ผมก็หาอยู่นานว่า หนังที่ดูแล้วไม่ซีเรียสในรอบ 10 ปี นับตั้งใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย ที่เราพลาดไม่ได้ดูมีเรื่องไหนบ้างวะ สุดท้ายคลำๆรีโมตทีวีเชื่อมต่อกับ Netflix ไปเจอหนังคอเมดี้ในปี 2010 ก็คือ Life as we know it แม้คำวิจารณ์ที่ตำหนิจะออกมาเชิงลบ แต่การสละเวลามานั่งดูรู้สึกว่าเข้าใจหัวอกการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มันไม่ได้สนุกอย่างที่ใครคิดกัน 

พล็อตหนังของเรื่องอยู่ที่เจ้าหนูน้อยโซฟี่เพราะคือคนที่เชื่อมให้ ฮอลี่ และเอริค ตัวเอกของเรื่องที่เดิมทีไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกนัดไปออกเดตกัน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ทัศนคติของทั้งคู่มันคนละอย่างกัน จนเกลียดขี้หน้ากัน แต่กลับกลายเป็นว่าพระเอกและนางเอกของเรื่องได้กลายมาเป็นคุณเลี้ยงดูอุปการะ หลังเพื่อนสนิทของตนเอง ผู้เป็นพ่อแม่ของหนูน้อยโซฟี่จากไปอย่างกระทันหัน ใครมีครอบครัวมีลูกน้อยมีเด็กแรกเกิดจะรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ต้องมารับภาระดูแล ยิ่งกับคนโสดวัยกำลังทำงานเก็บเงินไร้ซึ่งภาระมันเหมือนกับการที่เราจะเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ ตัวละครชายหญิงที่ไม่ถูกชะตากัน กลับได้ลบคำว่าอคติที่มีต่อกัน จนทั้งคู่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของอีกฝ่าย และค่อยๆทะลายกำแพงในด้านลบของอีกฝ่ายไปทีละนิด จนเริ่มมีความผูกพันและมีมุมมองที่ดีแก่อีกฝ่ายจนเกิดเป็นความรักในที่สุด นอกจากนี้ตัวบทหนังยังถ่ายทอดถึงเรื่องราวของการเลี้ยงดูเด็กวัยแรกเกิด ในช่วงเวลาที่ยากมากสำหรับคนที่เป็นพ่อแม่มือใหม่ ที่ต้องรับมือกับสารพันปัญหา ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงว่าการมีลูกนี่ไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างที่ใครคิดกัน ในพาร์ทของนักแสดงหลัก 2 คนที่เป็นคนดูแลเลี้ยงดูหนูน้อยโซฟี่ ทั้ง แคทเธอรีน ไฮเกล และ จอช ดูแมล ทำให้เราเชื่อสนิทใจว่าทั้งคู่ไม่พร้อมเอาเสียเลย ฉากปะทะอารมณ์กันที่เกิดความเห็นไม่ตรงกันนี่แหละสะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยและมิตรภาพที่ดีเยี่ยม เรียกว่าการแสดงทั้งคู่ตีบทแตก มีความตลก ทะลึ่ง คอเมดี้ โดยเฉพาะคุณพี่ดูแมลที่เรื่องนี้แกโคตรเกรียนเลยละ สรุป : แม้คำวิจารณ์ในเว็ปไซต์ต่างๆจะตีค่าหนังเรื่องนี้ในแง่ลบมาก แต่สารภาพตามตรงว่ารายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำกำไรให้กับทางค่ายวอร์เนอร์ บราเธอร์สไปเกือบ 3 เท่าจากทุนสร้าง เมื่อบวกลบคูณหารกับบทหนัง กลับสร้างความประทับใจให้ผู้เขียน แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะออกฉายในปี 2010 หรือ 10 ปีที่แล้ว สิ่งดีๆที่ได้เห็นคือ การที่ใครสักคนอยากสร้างครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกที่น่ารัก ควรต้องดูหนังเรื่องนี้แล้วศึกษาว่าตัวเอง พร้อมมากแค่ไหน สำหรับการที่จะมอบชีวิตให้ใครสักคนเกิดมา การเลี้ยงดูเด็กว่ากันว่ายากที่สุด ขนาดตัวละครหลักในเรื่องนี้ยังปวดหัวกับการรับผิดชอบเจ้าหนูน้อยโซฟี่เลย แจกคะแนนรีวิว 7/10

logoline