logo-heading

เชื่อเถอะว่าใครก็ตามที่ชอบการดูหนังคงมีความทรงจำดีๆกับหนังเรื่องโปรดของคุณ อาจมีมากมีน้อยแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าคุณจะจดจำเรื่องราวที่คุณเสพมันได้มากน้อยแค่ไหน

ผมเองก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง มันถูกเก็บไว้ในกล้องความทรงจำผมนานมากแล้ว เรื่องที่เราเอ่ยถึงคือ BEFORE SUNRISE หนังรักที่โคตรจะคลาสสิกในยุค 90 เรื่องราวชายหญิงวัยรุ่นแปลกหน้าจากคนละซีกโลก 2 คน เจอกันบนรถไฟเพราะรู้สึกรำคาญผัวเมียคู่หนึ่งที่ทะเลากันเสียงดัง ก่อนที่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวและก็ถูกคอกันอย่างรวดเร็ว จนแผนการเดินทางทั้งคู่เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อผู้หญิงตัดสินใจรับคำชวนไปเที่ยวกับผู้ชายที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย 1 วัน 1 คืน บทหนังการเล่าเรื่องที่เรียบง่ายผสมผสานกับความโรแมนติกของสถานที่ถ่ายทำ และปิดท้ายด้วยการจากลาที่สวยงาม มันเลยกลายเป็นหนังที่อยู่ในความทรงจำของผู้ชม แม้ว่าอายุหนังเรื่องนี้จะเข้าสู่ขวบปีที่ 25 มาแล้ว สิ่งที่ผมคิดคือเรื่องหนังรักเรื่องนี้ แตกต่างจากตลาดหนังรักทั่วไปที่หาไม่ได้ง่ายๆในท้องตลาด ไม่มีกุ๊กกิ๊ก ไม่มีคอเมดี้ ไม่ดัดจริต บทหนังไม่ได้พูดถึงความรักใคร่แบบโจ่งแจ้ง ดำเนินเรื่องแบบเรียลๆ เหตุผลก็เพราะความรักในยุคก่อน มันใช้ความจริงใจต่อกัน ถ้าโอเคพูดคุยกันถูกคอก็ไปสานต่อ แม้ตัวละครจะใช้เวลารู้จักกันไม่นาน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือมุมมองทัศนคติของ 2 ฝ่ายที่มีมุมมองใกล้เคียงกัน ซึ่งภาษาที่พูดคุยตลอดทั้งเรื่องมันคมคายไหลลื่น คุยได้ไม่มีหยุดมันมีเสน่ห์มากๆ คนดูอย่างผมคล้อยตาม นอกจากนี้สถานที่การถ่ายทำในออสเตรียค่อนข้างสวยงาม ตัวละครเซลีน เจสซี่ ผ่านทัวร์หลากหลายโลเคชั่น มันช่วยส่งให้หนังเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปอีก ต้องยกเครดิตความดีความชอบให้ ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ ผู้กำกับที่เขียนบทที่นำประสบการณ์ชีวิตตัวเองมาถ่ายทอดลงในบทหนัง และสร้างเรื่องราวที่ทำให้คนดูจดจำแง่มุมดีๆในตัวหนังไปตลอดกาล แถมเขายังฉลาดพอจะจัดการงบประมานที่มีน้อยได้คุ้มค่า เพราะในทีแรกตัวหนังวางแพลนถ่ายไว้ที่นิวยอร์ก แต่ด้วยอุปสรรคมากมายทำให้มาลงเอยที่เมืองสุดแสนโรแมนติกในออสเตรียแทน 100 นาทีเศษที่ได้สัมผัสหนังเรื่องนี้ ผมไม่รู้สึกว่านี่คือหนังรักที่น่าเบื่อแม้แต่ซีนเดียว แม้ว่าผมจะไม่เคยสมหวังกับการมีความรักเลย เคมีนักแสดงนำ 2 คน อีธาน ฮอว์ค และ จูลี่ เดลฟี ลงตัวมาก สิ่งที่เห็นจากหนังคือทั้งคู่เหมือนกำลังสวมบทบาทเป็นตัวเอง เพียงแค่เปลี่ยนชื่อเป็นตัวละครในหนังเท่านั้น การแสดงออกและบทพูดเรารู้สึกได้ว่าทั้งคู่เข้าถึงคาแรกเตอร์ที่ตัวเองได้รับมาก และทั้งคู่ก็มอบรอยยิ้มผสมผสานกับความโรแมนติกที่งดงามให้ผู้ชมตั้งแต่ต้นเรื่องจนหนังจบ สรุป : ความโรแมนติกของหนังนำพาคนดูท่องเที่ยวไปทั่วเวียนนาและอบอุ่นไปกับความรักแบบตรงๆแฝงไปด้วยธรรมชาติของชายหญิงคู่หนึ่ง ไม่ต้องพยายามไม่ต้องไขว่คว้าเพื่อให้ได้อีกฝ่ายมาครอบครอง 1 วันที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็มีความสุขมากพอแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาทำให้ผมรู้สึกว่าความรักยุคก่อนมันสวยงามและมีความจริงใจต่อกันมากยุคนี้ มอบคะแนนรีวิว 9/10 หนังมีให้ชมแล้วผ่านทางNetflix Thailand ทั้งนี้ Before Sunrise เป็นหนึ่งในหนังไตรภาคที่ผู้กำกับ ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ วางเอาไว้ โดยหนังมี 2 ภาค เว้นระยะห่าง 9 ปี ซึ่งประกอบไปด้วย Before Sunset 2004 และ Before Midnight 2013
logoline