Once upon a time in Hollywood ผลงานเรื่องใหม่ของ ของเควนติน ทารันติโน่ ความยาวร่วมๆ 2 ชั่วโมง 40 นาที หนังที่เหมาะแก่การดูอยู่บ้านในห้วงเวลาที่สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ หนังอัดแน่นด้วยนักแสดงแม่เหล็กระดับคุณภาพ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และ แบรด พิตต์ 2 เทพบุตรวงการมายา แถมยังได้เห็นรูปแบบหนังที่เต็มไปด้วยบทดราม่า ผสมผสานกับโปรดัคชั่นที่ตระการตาอีก ใครพลาดไม่ได้ดูในโรงเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เราอยากเชิญชวนให้คุณได้ดีกันครับ
.
จุดเด่น
.
ศิลปะการเล่าเรื่องของเควนติน ทารันติโน่ คือจุดเด่นที่คมคายยากที่ใครจะมาเจริญรอยตาม เขาคือคนที่ทำหนังยากที่จะคาดเดา เรื่องนี้คือความดราม่า-คอเมดี้ อย่างแท้จริง การบอกเล่าเรื่องราวของวงการบันเทิงในช่วงยุค60 ถึงวิธีการทำงานของนักแสดง และวงการภาพยนตร์ ที่ผูกขาดอยู่กับค่ายหนัง ซึ่งในช่วงเวลานั้นหนังส่วนใหญ่ก็เป็นสไตล์คาวบอยแบบที่พี่แกชอบนั้นแหละ มันคือการตีแผ่เบื้องหลังให้เห็นชัดเจนว่า ภาพที่ปรากฏสู่สายตาคนดูในอดีตไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เมื่อมาผสมผสานกับบทพูดของนักแสดง ก็เท่ห์กวนตีนแต่ทรงเสน่ห์มากทำให้หนังไหลลื่นได้ตลอดเวลา ก็มันเป็นสไตล์ของพี่แกเขานี่ว้า
นอกจากนี้สิ่งที่แฟนหนังเควนตินมักจดจำได้ดีคือการที่พี่เขาชอบหยิบประเด็นดังในอดีตที่เป็นเรื่องราวจริงๆที่ชวนระทึกขวัญเข้ามาใส่ในหนัง แล้วขยี้ให้แตกต่างจากประวัติศาสตร์จริง เรื่องนี้แม่งสุดๆเป็นการสร้างความแตกต่างที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ เพราะผู้เขียนก็ลุ้นอยู่ตลอด มีความหรรษาให้ผู้ชม แม้น้ำหนักจริงๆจะไปอยู่ในช่วงท้ายของหนัง อีกประเด็นหนึ่งที่ขอชื่นชมเลยคือการเก็บงานของเควนติน ในการทำให้หนังย้อนยุคกลับไปราวๆ 50 ปีก่อนนั้น บอกได้คำเดียวว่าโคตรเยี่ยม คือภาพที่ปรากฏออกมาทำให้รู้เลยว่า เขาพิถีพิถันในทุกรายละเอียด คอสตูม แสงสี และโลเคชั่นถ่ายทำดูสมจริงได้อารมณ์บรรยากาศของโลกในยุค 60 จริงๆและคงยากที่จะมีงานสร้างดีๆที่ทำให้ดูใกล้เคียงกับในอดีตแบบที่เควนตินทำ
.
นักแสดง
.
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ พ่อริค ดาลตันในหนังที่มาเล่นเป็นพระเอก ภาครวมการแสดงของเขาในเรื่องนี้เทพบุตรจากลอสแอนเจลิสหายห่วงอยู่แล้ว ในเมื่อเล่นเป็นนักแสดงที่อยู่ในจุดสูงสุดและตกอับ เราจะได้เห็นการที่เขาเล่นหลายๆบุคลิก ที่มีทั้งความฮา, ดราม่าเศร้าบีบน้ำตา และฉากแอ็คชั่นเท่ห์ ซึ่งสาวๆคนไหนอยากดูใบหน้าที่หล่อเหลาคนเคลิ้มแน่นอนเพราะมีคนเลย
.
แบรด พิตต์ พ่อหนุ่มหน้าละอ่อนส่วนทางกับอายุ เรื่องนี้โดยส่วนตัวผมคิดว่า แกเป็น คลิฟฟ์ บูธ สตั๊นท์แมนส่วนตัวของเขาติดสอยห้อยตามที่ดูเท่ห์กว่าพระเอกอย่าง ดิคาปริโอ เพราะลีลาการแสดงของเขาในเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวตนของแกจริง ที่ร่าเริงดูสนุกสนาน สร้างความขบขันได้มากโข บทนี้ถือว่าความสำคัญในเรื่องมากในช่วงท้ายของหนัง
.
มาร์กอต ร็อบบี้ สาวออสซี่ที่มาเล่นเป็น ชารอน เทต บุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ ภรรยาของผู้กำกับดังในยุคนั้นอย่าง โรมัน โปลันสกี้ ภรรยาของผู้กำกับดังในยุคนั้น ตอนแรกเราคิดว่าเป็นนักแสดงหลัก เพราะเป็นคนที่เควนตินเอามาล้อในเหตุการณ์จริง แต่คุณเธอคือตัวสมทบที่บทไม่ได้อิงกับพระเอกสักเท่าไหร่ เพราะพาร์ทของเธอคือดาราที่ไม่ดังที่เช็คผลงานตัวเองตามโรงหนัง และดันมาอยู่บ้านติดกับพระเอกดัง
จุดอ่อน
.
ถ้าคิดว่าเควนติน จะทำหนังดิบๆเลือดสาด อยากเห็นความรุนแรง เรื่องนี้คงไม่ตอบโจทย์คุณหรอกนะ เพราะหนังเรื่องนี้แต่แผ่ในอีกแง่มุมหนึ่งของวงการหนังในอดีต ช่วงแรกในการปูหนังเรื่องตอนต้นก็น่าเบื่อนะ จนผมเองก็เผลอหลับไปเหมือนกัน คือปูทางตัวละครหลักเยอะเกินไปนั้นเองแหละ ส่วนประเด็นชาร์ล แมนสัน ฆาตกรตัวแสบก็มีน้อยเหลือเกิน นึกว่าจะขยี้ให้มันได้มากมายกว่านี้
สรุป
.
นี่คือหนังที่เควนตินพยายามสรุปด้านดีและลบของอุตสาหกรรมในอดีตที่สื่อสารให้คนดูได้เข้าใจผสมผสานกับความชอบส่วนตัวและล้อเลียนเหตุการณ์จริงได้เข้าที่เข้าทางมาก ๆ อาจจะมีการอุทานกับตัวเองอยู่ตลอดว่า อิหยังวะ นี่เรามาดูเรื่องอะไรกันแน่วะ ตลอดทั้งเรื่อง แต่ปฎิเสธไม่ได้เลย once upon a time in Hollywood คือหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ทรงคุณค่าที่คุณควรไปดูมัน หากคุณเป็นคนที่รักในโลกของภาพยนตร์
หนังมีฉายในNetflix Thailand
แจกคะแนนรีวิว 8.5/10
