ว่ากันตามตรงอิทธิพลของงานชินไค มาโตโกะ จากเรื่อง Your name ในปี 2016 ที่เกิดกระแสฟีเวอร์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน มันเลยทำให้ผลงานเก่าของชินไคได้อานิสงส์ไปเต็มๆ ทั้ง 5 Centimeters Per Second (ยามซากุระร่วงโรย), Children Who Chase Lost Voices (เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา), The place promised in our early days (เหนือเมฆา… ที่แห่งสัญญาของเรา)
รวมถึง The Garden of Wordsยามสายฝนโปรยปราย ที่มีคนติดใจไปหาดูย้อนหลังกันมากมาย ซึ่งผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในวันนั้น เนื้อหาความรักที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดแต่งดงาม ผสมผสานกับลายเส้นภาพวาดที่สวยสดงดงาม และวิธีการสื่อสารเล่าเรื่องให้เข้าถึงหัวอกคนดู นี่แหละเราเลยไม่อยากให้คนที่รักอะนิเมะไม่ควรพลาด
.
จุดเด่น
พูดกันตามรู้สึกของผู้เขียนที่ใช้เวลาดูเพื่อทำความเข้าใจ 2 รอบ ในแง่ของเนื้อหาความรักที่ปนเปไปด้วยความปวดร้าวที่งดงามอยู่ไม่น้อย ชินไค สร้างงานที่มีคุณภาพไม่เบา ใครติดอกติดใจกับการรอใครสักคนพร่ําเพ้อพรรณนา แบบใน 5 Centimeters Per Second เรื่องนี้จะเป็นนิยามที่ต่างออกไป พล็อตเรื่องที่จับชายหญิงบุคลิกอายุที่ต่างกันให้มาเจอกันและพบรักในสถานที่ทำธรรมดาในสวนสาธารณะ โดยมีสายฝนปกคลุมและช่วยให้มันเป็นการดำเนินเรื่องได้ชุ่มช่ำ คือมันโรแมนติกสำหรับความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งพูดในแง่ของความสนุกผมมั่นใจว่า The Garden of Words ยามสายฝนโปรยปราย น่าจะตอบโจทย์คนดูพอสมควร เพราะความละมุนละไมในการเล่าเรื่องนี้มันดูสมจริง จินตนาการการนำเสนอของตัวละครมีกิมมิคอยู่หมด และภาษาพูดของตัวละครพระนางก็ดูสละสลวยเอามากๆ คือจำไม่ได้ว่าพูดอะไรแต่มันคมคายดีแหะ
จุดอ่อน
ความยาวของหนังที่เล่าได้กระชั้บฉับไวเข้าใจง่าย 46 นาทีคือสิ่งที่ผมเองก็งงนะ เพราะตอนแรกเราเข้าใจว่าเมื่อเป็นหนังเข้าฉายในโรงทำไม ชินไค ถึงวางรายละเอียดหนังมาแค่นี้ แต่ก็เอาเถอะ ภาพและบทมันทำให้ผมมองข้ามจุดนี้ไปแล้วละ
.
สรุป : บทหนัง,การลำดับภาพและวิธีการดำเนินเรื่อง เสียงเพลงในหนัง มีการเก็บรายละเอียดถูกจุดค่อนข้างครบถ้วน ไม่มีช่องโหว่ให้เห็น คือดูแล้วเพลินตา มีความโรแมนติกอยู่ในตัว ซึ่งมันไม่ได้ทำร้ายอารมณ์หรือความรู้สึกคนดูเลยละ
แจกรีวิว 8.5 /10
