"ถ้าเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะตาย คุณจะทำอะไร"
นิยายวัยรุ่นขายดีติดอันดับ Best Seller ในปี 2012 จากปลายปากกา จอห์น กรีน ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างสูงจากนักวิจารณ์หลายสำนัก เนื้อหาการสื่อสาร มีวิธีการดำเนินเรื่องตามความเป็นจริงทั้งเศร้า หวาน ขบขัน สอดแทรกแง่มุมดีเอาไว้ โดยมีตัวละครหลัก 2 คนที่ป่วยหนักเป็นมะเร็ง ที่พบกันจนเกิดเป็นความรู้สึกผูกพันและชอบกัน โดยที่พยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขเคียงข้างกัน เมื่อกลายเป็นหนังมันอวบอวนไปด้วยความเศร้า แต่ก็แฝงไปด้วยข้อคิดมากมายและมันทำให้คนเสียน้ำตามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ข้อดี
ว่ากันว่าโรคมะเร็งแค่สิ่งที่ร้ายแรงสำหรับมนุษย์ การต่อสู้กำลังใจชั้นดีที่จะทำให้คนที่ป่วยมีพลังที่จะสู้และดำเนินชีวิตต่อไป
ผู้หญิงคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งปวด ต้องพกพาถังอ็อกซิเจนติดตัวไปตลอด เลือกไม่เขาสังคม ไม่อยากผูกพันกับใครเพราะกลัวว่าหากสนิทกับใครจะต้องเสียใจกับอากาศป่วยของเธอ ผู้ชายอีกคนป่วยเป็นมะเร็งกระดูกทั้งที่ฝันอยากเป็นนักบาสเก็ตบอล แต่ต้องทิ้งฝันไปยอมตัดขาทิ้ง และได้มาเจอกันในศูนย์บำบัดมะเร็ง และเนื้อเรื่องก็ดำเนินตั้งแต่ตรงนั้น ต้องให้เครดิตจอช บูน ผู้กำกับตีความหนังได้น่าเหลื่อเชื่อนำความเลวร้ายของโรคมะเร็งมาถ่ายทอดผสมผสานกับความรักวัยรุ่นที่มอบแง่คิดเอาไว้มากมาย ให้กำลังกับทุกๆชีวิตที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมีสติ บ่งบอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่าชีวิตมันมีคุณค่าจะคนที่สมบูรณ์แบบ หรือไม่เพอร์เฟ็คก็มีหัวใจ แม้ตัวหนังจะดำเนินเรื่องง่ายๆ แต่บิ๊วอารมณ์ได้มากมาย นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความสำคัญของสถาบันครอบครัวเอาไว้ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความอบอุ่นของพ่อแม่ลูกที่พร้อมยื่นเคียงข้างในช่วงเวลาทุกข์ยากอีกด้วย
นักแสดง
เชลีน วูดลีย์ และ แอนเซล เอลกอร์ท สร้างความน่าเชื่อถือให้คนดูว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าจอคือคู่รักที่เป็นโรคมะเร็งแล้วอยากเติมเต็มให้กัน เคมีของทั้ง เชลีน และแอนเซล ประจวบเหมาะลงตัวมากๆ เมื่อแสดงร่วมกันในทุกๆซีน ดึงน้ำตาคนดูจนบ่อน้ำตาแตกมาแล้ว และทำให้ตัวหนังถูกพูดถึงปากต่อปากและยังครองใจคนเรื่อยมา
ข้อเสีย
เสียดายที่ตัวหนังใช้งานโลเคชั่นอัมสเตอร์ดัมได้ไม่คุ้มค่าเลยไปได้ไม่สุด อีกจุดหนึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ไม่มีฉากสุดท้ายในชีวิตของ ออกัส วอเตอร์ พระเอกของเรื่อง หลังนางเอกรับรู้ถึงการจากไปของของผู้ชายคนสนิท ก็ไปโผล่ที่งานศพ คือถ้ามีซีนอยู้ด้วยกันในวินาทีสุดท้ายในชีวิตมันน่าจะดูกว่านี้และคงเรียกน้ำตาจากคนดูได้มหาศาลแน่ๆ
สรุป : หนังตีความผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งได้น่าสนใจ นำความเลวร้ายของโรคนี้มาสร้างคุณค่าที่ดีงามให้คนดูในอีกมิติหนึ่ง ช่วยเปลี่ยนแปลงมุมมองความรักให้ดูสวยงามทั้งที่มีภัยร้ายมาย่างกายเข้ามา ความรู้สึกมันมีทั้ง สุขเศร้า มอบรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะออกมา ปนเปไปกับครามน้ำตาความเสียใจ ที่ออกมาจากบทบาทการแสดงของ เชลีน และ แอนเซล ที่เข้าถึงอารมณ์จนน่าทึ่ง
แจกคะแนนรีวิว 9/10
หนังมีฉายNetflix หากใครไม่เคยชมแนะนำให้ดูครับ เรื่องนี้มีแง่มุมดีเพียบ
