ความทรงจำในการดูหนังประเภททริลเลอร์ดุเดือดที่แฝงไปด้วยการเล่าเรื่องชั้นยอด หนสุดท้ายมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผมเอ็งก็จำไม่ได้แล้ว จนกระทั่งมาเจอ Sicario เข้าอย่างจัง ในNetflix
ปกติแล้วหนังโดยทั่วไปแอ็คชั่นจะเต็มไปด้วยการขายฉากต่อสู้ สาดกระสุน ปล่อยพลังกันแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนให้มากมายอะไร
แต่ เดนิส วิลล์เนิฟ ผู้กำกับเลือกปมประเด็นปัญหายาเสพติดจากพรมแดนประเทศเม็กซิโกและอเมริกา มาใช้ได้ชาญฉลาด ซึ่งมันหายากมากที่จะนำเรื่องราวที่ไม่มีวันแก้ได้จริง เอามาร้อยเรียงอยู่ในตัวหนัง และเขาเองมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่คมคาย
บทหนังตัวนักแสดงนำพาคนดูไปพบเรื่องราวที่โคตรดาร์กรุนแรง ความความกดดันและลุ้นให้คนดูต้องติดตาม ตำรวจหญิงท้องถิ่นในอาริโซน่า เจอคดีจับยาเสพย์ติดแทบทุกวัน กระทั่งถูกทางการตามไปดูต้นตอของปัญหายาบ้า ไร้ซึ่งการปูพื้นตัวละคร ทุกอย่างมุ่งไปที่การสร้างความหดหู่และให้เห็นถึงความเลวร้ายของแก๊งค้ายา และประเด็นที่ผมค่อนข้างชื่นชมการลำดับภาพของหนังเรื่องนี้มากอารมณ์เหมือนเล่นเกม call of duty : ghost ยังไงยังนั้น
หนังเรื่องนี้ไม่มีใครดีสุด ไม่มีใครแย่สุด ทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง เอมิลี่ บลันท์ ที่เป็นตำรวจหญิงได้รู้ว่าชีวิตจริงโลกที่สกปรกเป็นอย่างไร สถานการณ์จริงต่างจากที่เธอได้ลาดตระเวณ, จอช โบรลิน ซีไอเอผู้พานางเอกของเรื่องไปเจอเหตุการณ์จริง ชายหนุ่มที่ฉลาดที่จะต่อรองใช้คนในการสาวไส้ตัวการค้ายา และ เบนิซิโอ เดล โตโร นักฆ่ารับจ้างที่เปรียบเสมือนคนทำงานตามใบสั่งทางการเพื่อแลกกับอิสรภาพและการได้แก้แค้น บทนี้พี่หมีชอบมากเพราะตรงๆแรงๆแต่มีที่มาที่ไป
สรุป: ถ้าหากคุณอยากดูหนังดีๆตรงๆแรงๆดุเดือดแบบมีชั้นเชิงไม่ต้องเลือดสาดหรือกระสุนเยอะเรื่องนี้เหมาะสมครับผม
แจกคะแนนรีวิว 8/10 หนังมีฉายแล้วใน Netflix
