Lady Bird คือ เรื่องราวชีวิตวัยว้าวุ่นของ คริสติน ‘เลดี้ เบิร์ด’ แมคเฟอร์สัน เด็กสาวมัธยมในโรงเรียนแคทอลิกแห่งหนึ่งในซาคราเมนโต
เลดี้ เบิร์ด อาศัยอยู่ที่บ้านกับ พ่อ แม่ และ พี่ชายบุญธรรม ซึ่งเธอก็ไม่คอยจะลงรอยกับแม่เท่าไหร่ด้วยความรู้สึกว่า แม่ชอบเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตเธอมากเกินไป และสถานการณ์ในบ้านก็ยิ่งแย่ลง เมื่อพ่อของเธอต้องมาตกงานอย่างกะทันหัน
ที่โรงเรียน เลดี้ เบิร์ด ก็เป็นเด็กที่ไม่ค่อยเคารพกฏเกณฑ์ในโรงเรียนเท่าไหร่นัก เธอมีเพื่อนสนิทเป็นเด็กสาวร่างท้วมที่มีชื่อว่า จูลี่ และวันหนึ่งที่ทั้งคู่ได้ไปร่วมเล่นละครของโรงเรียน เลดี้ เบิร์ด ก็ได้พบรักกับ แดนนี่ เด็กหนุ่มที่เล่นละครด้วยกัน
ต่อมา เลดี้ เบิร์ด ก็เริ่มสนิทสนมกับแก๊งเด็กป็อปปูลาร์ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอเริ่มเปลี่ยนไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเธอได้พบกับเด็กหนุ่มนักดนตรีสุดเท่อย่าง ไคลีย์
Lady Bird คือ หนัง coming-of-age ที่ว่าด้วยการเติบโตของเด็กสาวคนหนึ่งที่เกลียดชีวิตของตัวเองและ ‘เลดี้ เบิร์ด’ ก็คือชื่อที่เธอตั้งให้กับตัวเองเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ว่า สักวัน เธอจะต้องบินจากบ้านไปให้ไกลที่สุด
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในปี 2002 หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เพียงไม่นาน และมันก็คือช่วงเวลาที่อเมริกานั้นเต็มไปด้วยความสับสนไม่ต่างอะไรกับตัว เลดี้ เบิร์ด เองที่ไม่ค่อยแน่ใจว่า อะไรคือสิ่งที่ตัวเองควรจะให้คุณค่ากันแน่
สิ่งที่เป็นเหมือนหัวใจของหนังเรื่องนี้ก็คือ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดของ เลดี้ เบิร์ด และแม่ที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชกับชีวิตของเธอตลอดเวลา แต่ทั้งหมดที่ทำไปก็เป็นเพราะความรักความห่วงใยที่เธอมีให้กับลูกสาว
ชีวิตวัยรุ่น คือ ช่วงเวลาของการลองผิดลองถูกเพื่อค้นหาตัวเอง และสิ่งสำคัญที่ เลดี้ เบิร์ด ได้เรียนรู้จากช่วงเวลานี้ก็คือการค้นหาจุดสมดุลระหว่าง ‘อิสรภาพ’ ที่เธอต้องการและ ‘ครอบครัว’ ที่เธอรัก
แม้ว่านกจะบินได้ไกลแค่ไหน แต่มันก็ต้องการ ‘รัง’ เอาไว้เป็นที่พักพิงในยามที่เหนื่อยล้าและนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับ ‘ครอบครัว’ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์ทุกคน
เพราะสุดท้ายแล้ว อิสรภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่เราเจ็บปวด มันยังคงมีสถานที่บางแห่งที่พร้อมจะต้อนรับให้เรากลับไปพักพิงได้อยู่เสมอ
สรุป : ชอบหนังเรื่องนี้มากเพราะมันมีความเจ็บปวดความรักที่ซุกซ่อนเอาไว้ในตัวหนัง เป็นหนังนอกกระแสที่หลงรักมาก
แจกคะแนนรีวิว 9/10
ทั้งนี้ Lady Bird จะมีให้ชมแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Netflix ในวันที่ 24 เมษายนนี้
