logo-heading

เรื่องราวอัตชีวประวัติของ เซอร์เอลตัน จอห์น นักดนตรีร็อคชื่อก้องโลกช่วงยุค 70-90 ในที่สุดก็ได้ฤกษ์สู่จอภาพยนตร์เสียทีหลังมีความเพียรพยายามอยู่ในหลายๆครั้งก่อนหน้านี้ ยอมรับว่าตอนแรกคัดออกจากโปรแกรมที่อยากดูในปี 2019 แต่พอถูกเชิญให้ไปดูตัวอย่างสั้นๆ 30 นาที หนังสร้างความหรรษาจนต้องมาดูและสัมผัสด้วยตาตัวเอง

. *จุดเด่น ผมชอบการที่เด็กเตอร์ เพล็ชเชอร์ ผู้กำกับชาญฉลาดในการสร้างหนังให้มากกว่าแค่เรื่องราวที่ถ่ายทอดชีวิตความเป็นมาของเซอร์เอลตัน จอห์น นักดนตรีที่ว่ากันว่าชื่อดังของเมืองผู้ดี ไม่ได้เล่าเรื่องทื่อๆ แต่พิถีพิถันในทุกฉาก รายละเอียดแต่ละอย่างค่อนข้างลงตัวไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลงที่แต่ละฉาก แม่งโคตรได้อารมณ์ครบเครื่อง ทั้งสุขสุดขีด, ผิดหวังท้อแท้ อาจเป็นเพราะความเป็นหนังเพลงทำให้สามารถเล่นกับเป็นมิวสิคคัลได้ไหลลื่น และเพลงชื่อดังของกิตติมศักดิ์สโมสรวัตฟอร์ด จึงถูกนำมาประกอบอยู่ตัวหนังเพื่อให้เขากับบริบท เช่น Crocodile Rock ที่ฟังแล้วรู้สึกสนุกปลุกเร้าอารมณ์ร่วมไปในตัว ผมจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อเวลาได้ยินเพลงนี้ที่ไหน มักจะมีคนลุกขึ้นมาสนุกและเต้นอยู่ตลอดเวลา ขณะเพลงช้าบาดลึกอย่าง Your Song ฟังแล้วก็เข้าใจความรู้สึกของเอลตัน จริงมันหดหู่และเศร้าอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ทุกเพลงก็ถูกเรียบเรียงขึ้นมาใหม่ มันจึงทำให้เพลงที่นักแสดงร้องในเรื่องมันมีพลังและสามารถถ่ายทอดส่งถึงคนดูได้ไม่ยาก ส่วนประเด็นเรื่องไม่ดีไม่งามของเซอร์เอลตัน เพล็ชเชอร์ ก็พยายามนำเสนอได้ค่อนข้างตรงไปตรงมา การรักร่วมเพศ ไปจนถึงจุดตกต่ำของการเป็นนักดนตรี และบานปลายไปจนถึงการติดแอลกอฮอล์อย่างรุนแรงก็ไม่พลาดที่จะขยี้ออกมาได้ทุกเม็ดจริงๆ . **นักแสดง ผมชอบการที่ผู้กำกับพยายามแคสติ้งนักแสดงให้ใกล้เคียงกับบุคคลที่มีอยู่จริงมากที่สุด ทารอน เอ็ดเกอร์ตัน บอกตรงๆตอนแรกที่ได้ยินชื่อว่าจะมารับบทเป็นท่านเซอร์เอลตัน จะไหวไหมวะเนี่ย เพราะพี่แกเพิ่งบู๊เป็นสายลับในคิงส์แมนและเป็นอัศวินอย่างโรบิน ฮูด แต่เมื่อมาสวมบทบาทยอดนักดนตรี โอ้แม่เจ้า พี่แกแม่งเข้าถึงบทบาทได้ถึงพริกถึงขิง ทุ่มเทสุดตัวจริงๆในการแสดงเหมือนวิญญาณเอลตันเข้าสิงอย่างไงอย่างนั้น เล่นได้เหมือนโคลนนิ่งมาทุกระเบียบนิ้ว แถมคอสตูมที่พี่แกใส่ก็ถอดแบบคล้ายคลึงกับเหตุการณ์จริง ขณะที่นักแสดงสมทบรายอื่นๆ เช่น ริชาร์ด มาสเดน ที่รับจอห์น รีด ผู้จัดการเกย์คู่ขาที่หวังกอบโกยไอ้นี่แม่งเล่นได้สมจริงมาก เล่นเป็นคนบ้ากล้ามได้สุด แต่ที่เราชอบและชื่นชมคงหนีไม่พ้นเจมี่ เบลล์ ที่มาเป็นเบอร์นี่ เทาปิน นักแต่งเพลงคู่บุญที่เปรียบเสมือนมิตรแท้ที่ดีของเอลตัน ตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทางในชีวิตสายดนตรี ลุคและสไตล์การแต่งตัวบุคลิกท่าทางหมอนี่แม่งเหมือนกับตัวจริงมาก เล่นได้สมกับคนที่เป็นเพื่อนตายยืนหยัดร่วมกับท่านเซอร์เอลตัน *จุดบอด . สารภาพตามตรงว่านั่งหาอยู่ตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที เลยไม่รู้จะเอาอะไรไปติติง อาจเป็นเพราะความไพเราะของเสียงเพลงและเรื่องราวที่ถูกไว้ในหนังเลยทำให้พูดเขียนไม่รู้สึกถึงข้อเสียของหนังเรื่องนี้ สรุป : หนังมีครบทุกแง่มุมของท่านเซอร์เอลตัน จอห์น เป็น 2 ชั่วโมงที่เพลิดเพลิน บทเพลงที่เรียบเรียงใหม่ได้ไพเราะเข้ากับทุกซีนของหนัง งานโปรดัคชั่นและตัวนักแสดงลงตัวมาก 8.5/10
logoline