logo-heading
ทันทีที่รู้ว่าผู้กำกับจอร์จ มิลเลอร์จะหยิบเอาหนังในอดีตสุดฮิตชุดนี้กลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นที่อลังการงานสร้างและบ้าระห่ำมากกว่าเดิม ก็ตั้งตารอคอยว่ามันจะออกมาเป็นยังไง และจะมีความสุดโต่งในแบบที่แฟรนไชส์ชุดแรกเคยทำเอาไว้สักแค่ไหน ถือเป็นโปรเจ็กต์ที่ทำให้แฟนๆที่เติบโตมากับหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับตื่นเต้นมากทีเดียว เพราะจะได้เห็นเสน่ห์เดิมๆที่คุ้นเคยกับโลกของ Mad Max กลับมาขึ้นจอใหญ่อีกครั้งในยุคที่เทคโนโลยีการทำหนังได้รุดหน้าก้าวไปไกลมากแล้ว ข้อดี Mad Max : Fury Road ไม่เพียงแต่จะหยิบเอาแฟรนไชส์ชุดแรกมาคารวะ แต่หนังก็ยังเพิ่มเติมในส่วนที่พร้อมจะขับเคลื่อนให้แฟรนไชส์ชุดนี้ทรงพลังและสร้างโลกหลังล่มสลายตามเส้นเรื่องเดิมได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการใส่ลูกเล่น ลูกบ้าเพิ่มเข้ามาในปริมาณที่ชวนพีค ฉากแอ็คชั่นต่างๆนานาที่ถั่งโถมเข้ามาในระดับที่เกินขีดจำกัดของคนดู ซึ่งนั่นแหละทำให้เรื่องราวที่สุดโต่งไปได้สุดทางและพีคจริงๆจังๆ อย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นหนังแอ็คชั่นสักเรื่องนึงจะทำได้ขนาดนี้ จอร์จ มิลเลอร์เก่งกาจในด้านการสร้างหนังที่เน้นใช้สถานที่ถ่ายทำจริงๆ ลดปริมาณซีจีให้น้อยที่สุดเพื่อความสมจริงในทุกๆภาคส่วน เราจึงได้เห็น Fury Road มาพร้อมฉากโชว์สตันท์ชวนหวาดเสียวหลายๆฉากที่ยกระดับความสมจริงของหนังมากขึ้นไปอีกเท่าตัว ฉากระเบิดและการเกณฑ์ทัพยานพาหนะต่างๆเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในหนังภาคนี้ เหมือนพี่แกพร้อมที่จะปล่อยของให้หมดแม็กซ์ แบบไม่ต้องเกรงใจคนดูอีกต่อไป ซึ่งก็น่าตกใจที่หนังใช้ทุนสร้างไปเพียงแค่ 150 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น อาจจะเพราะเนื่องด้วยไม่ได้เน้นใช้ CG เข้ามาเป็นเมนหลักทางด้านเทคนิค เลยทำให้ประหยัดลงไปได้เยอะ ซึ่งภาพที่ออกมาก็ชวนตื่นตา อลังการงานสร้างสมการรอคอยเป็นอย่างยิ่ง (จนอยากให้พี่แกหันไปจับงานหนังเรื่องอื่นๆนอกโลก Mad Max บ้าง อยากรู้ว่าจะออกมาแตกต่างจากงานในตลาดทั่วไปที่มีอยู่มากแค่ไหน) ด้วยความที่ได้มิลเลอร์ มากำกับต่อจากแฟรนไชส์เดิมที่ตัวเองเคยกำกับไว้ ทำให้เรื่องราวในโลกของ Mad Max ก็ยังคงเป็นอะไรที่ผู้ชมคุ้นเคย ทอม ฮาร์ดี้คือนักแสดงหลักของหนังที่เข้ามาแทนที่เมล กิ๊บสันในเวอร์ชั่นก่อน พร้อมสานต่อแคแรกเตอร์การเป็นแม็กซ์ที่บ้าคลั่งได้อย่างน่าเกรงขาม มีลักษณะสไตล์เฉพาะที่สอดคล้องกับโทนหนัง และทำให้ออกมาดุดัน ทรงพลังได้อย่างเหลือเชื่อ ถือเป็นการคารวะบทของกิ๊บสันไปในตัวด้วยในหลายๆฉาก เพราะเขาดึงเอาศักยภาพทางตัวละครออกมาใช้ได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ถึงแก่น เป็นตัวละครที่แม้จะไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตของเขาเลยก็ตาม (ในกรณีที่เพิ่งดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรกและไม่เคยผานเวอร์ชั่นก่อนมาก่อน) ก็จะทำให้เราค่อยๆซึมซับถึงปมตัวละครในอดีตที่ผ่านมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว นักแสดง ชาร์ลิซ เธรอน ถือเป็นฟิวริโอซ่าในอุดมคติ ที่ดูปุ๊บก็มั่นใจเลยว่า ต้องเป็นนางเท่านั้นสำหรับบทนี้ นางเท่ห์ นางเก่ง นางมีสไตล์ นางมีความดุดัน มีด้านอ่อนไหว มีอะไรหลายๆอย่างที่สามารถผลักดันเรื่องราวส่วนตัวของเธอไปให้สุดทางและน่าค้นหาอย่างถึงที่สุด ด้วยการแสดงที่เข้าถึงเนื้อในตัวละคร เธรอนได้มอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับคนดูในการติดตามชีวิตของเธอ ควบคู่ไปกับการผจญภัยของแม็กซ์ ตลอดเส้นทางที่เต็มไปด้วยการไล่ล่าสุดมันส์สนั่นทะเลทราย นักแสดงรายอื่นๆก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งนิโคลัส ฮูลท์ ที่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีบทน้อยกว่าเพื่อนร่วมจอ แต่เอาเข้าจริง แคแรกเตอร์นี้ถือเป็นตัวจี๊ดของหนังเลยก็ว่าได้ ฮูลท์มาพร้อมบทที่ไม่ได้ขายความหล่อ(อีกครั้ง) แต่ดันกลายเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากที่สุดในเรื่อง และทำให้เราตกหลุมรักเขาได้ในไม่ช้า อีโมชั่นตอนท้ายที่เกี่ยวข้องกับแคแรกเตอร์ของเขาก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี และถือเป็นอีกบทบาทที่น่าจดจำในฐานะนักแสดงหนังวัยรุ่นที่ฝีมือเกินตัว ... ด้านโปรดักชั่นงานสร้างไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆให้มากความไปกว่า MASTERPIECE เพราะนี่คืองานที่กลายเป็นต้นแบบ กลายเป็นกรณีศึกษาให้กับนักทำหนังรุ่นหลังได้ชมกันว่า ถ้าเราจะไม่เน้นซีจีให้มันมากเรื่อง เราจะสามารถสร้างหนังแอ็คชั่นที่มันส์ระห่ำสุดพลังออกมาได้อย่างไร ความดีงามมันอยู่ตรงการวางมุมกล้อง การนำเสนอภาพ การถ่ายภาพ การดีไซน์ฉาก การใช้ลูกเล่นของการตัดต่อ เข้ามาเป็นตัวบิ๊วให้หนังไปได้สุดทาง นอกจากจะมีฉากแอ็คชั่นที่ชวนหวือหวา อ้าปากค้างแล้ว ภาพที่ได้เห็นในหนังต่างๆนานาทั้งหลาย ก็ยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้อารมณ์ของคนดูพลุ่งพล่านตามขึ้นไปด้วย เรียกได้ว่าไม่ทำให้ผิดหวังถ้าใครอยากจะมาดูหนังภาพสวยรวยโปรดักชั่นที่งดงามที่สุดเท่าที่หนังแอ็คชั่นสักเรื่องเคยสร้างมา สรุป Mad Max : Fury Road คือหนังแอ็คชั่นที่ทรงพลังมากๆ ในแง่ของการขายทั้งความสนุกสนานในตัวเนื้อเรื่อง การยัดฉากระห่ำต่างๆเข้ามาไม่ให้คนดูหายใจหายคอ (และได้ผลทางด้านอารมณ์) การใส่เรื่องราวเชิงตื้น เชิงลึกเข้าไปในทุกๆตัวละครให้มีมิติที่กว้างขวางมากไปกว่าจะบู๊กันไปวันๆ การเล่าเรื่องราวได้อย่างออกรสออกชาติ การดีไซน์งานสร้างที่ดีงามและกลายเป็นที่จดจำในระยะยาว การแสดงที่มาพร้อมความเก่งฉกาจทางด้านรับส่งอารมณ์และเข้าถึงแคแรกเตอร์ การนำเสนอลูกบ้าในเนื้อหนังที่ยังคงทำให้ Mad Max ยังเป็น Mad Max ที่ดีงาม ...สรุปก็คือ มันคือหนังแอ็คชั่นในอุดมคติที่ตามหามานาน และอยากให้วงการหนังหันมาให้ความสำคัญกับหนังแนวนี้ที่ไม่ต้องพึ่งพาซีจีให้มากมาย แต่เน้นความเรียลสะใจ เข้าถึงอารมณ์คนดูได้อย่างที่ควรจะเป็น ดูแล้วต้องกลับไปดูอีก เพื่อเก็บทุกบรรยากาศที่มีในหนังให้หมด มันคือความเป็นโปรแกรมซัมเมอร์บล็อกบัสเตอร์ที่คู่ควรกับโลกของภาพยนตร์มากๆ หนังมีให้ชมแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Netflix
logoline