logo-heading

15 ปีก่อนผมไปดูเรื่องนี้ในโรง หลังจากโดดเรียนพิเศษจำได้เลยว่า นี่คือผลงานของ Wes Craven ที่ทำให้ผมกล้าดูหนังของพี่แก เนื่องจากเราไม่ชอบกับหนังสยองขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้แตกต่างออกไป กลายเป็นงานระทึกขวัญที่แม่งต้องลุ้นว่าบทสรุปของหนังจะออกหน้าไหน เพราะว่าเริ่มเรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไร หลอกสับขาคนดู พอหนังใส่ดีเทลเท่่านั้นละ แม่งโคตรสนุกชิบหาย

.
ข้อดี
หากใครอยากดูหนังลุ้นระทึก เนื้อหากระชับ เราอยากให้คุณมาดูRed Eye และพยายามไม่ต้องอ่านเรื่องย่อด้วยนะ ครึ่งแรกของเรื่องเหมือนจะเป็นหนังรักชายหญิง 2 คนที่มาพบปะในสนามบิน ผู้ชายพยายามชวนคุยทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงแม่งสร้างเรื่องให้กลายเป็นโรแมนติก กลายเป็นเพื่อนร่วมทางในเที่ยวบินเดียวกัน หลังจากนั้นกลางเรื่อง ฐานะแท้ของผู้ชายเผยโฉมออกมา กลายเป็นโทนหนังทริลเลอร์ ที่นางเอกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากหนุ่มโรคจิตที่พยายามใช้เธอเป็นเครื่องมือข่มขู่ หากไม่ร่วมมือทำพ่อเธอต้องตาย
.
จากนั้นเมื่อผ่านพ้นซีนบนเครื่องบินโทนหนังก็ถูกปรับให้กลายเป็นแนวระทึกขวัญหนีการตามล่าจากฆาตกรโรคจิตที่ตามราวีแบบไม่มีหยุดจากแอร์พอร์ตมาจนถึงบ้านนางเอก แม่งลุ้นจนแทบเหนื่อย ทั้งที่ตัวละครจริงมีแค่ ราเชล แม็คอดัมส์ และ คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่
.
นักแสดง
ราเชล แม็คอดัมส์ จากนักแสดงบทดราม่า-คอเมดี้ กลายเป็นสาวหวาน สวยเหมือนพบรักแท้บนเครื่องบิน แต่ที่ไหนต้องมาต่อสู่เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง รวมถึงพ่อบังเกิดเกล้า ชอบความเซ็กซี่ในตัวเธอ ที่แสดงออกมายามที่ต้องเผชิญหน้ากับโจรโรคจิต
 
คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ ตัวร้ายจากหนังของคริสโตเฟอร์ โนแลน ลุคมาดผู้ดีหนุ่มดูสุภาพบุรุษ เสียงแหบๆ ดูเหมือนโรแมนติกที่ไหนได้ หลอกลวงคนดูชัด กลายเป็นหนุ่มโรคจิต ยิ่งท่าทางพี่แกตั้งแต่กลางเรื่องจนจบ คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้แน่นอน เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ
.
ข้อเสีย
หนังดำเนินเรื่องรวดเร็วมาก แต่กรอบเวลาสั้นเกินไป ทั้งที่ความจริงถ้าจะเล่าให้ยาวก็สามารถทำได้
.
สรุป
ใครอยากหาหนังดูเอามัน เนื้อหาสนุกลุ้นระทึกตื่นเต้นตลอดเวลา Red Eye ตอบโจทย์แน่นอน ปล.ไม่แนะนำให้มาอ่านเนื้อย่อไปดูยาวๆ 85 นาที
 
หนังรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Google Play
logoline