logo-heading

เหลือเวลาอีกเพียงวันสองวัน ก็จะถึงวันพิพากษาของวงการฟุตบอลไทย ในปี 2020 กับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนที่ 18 ของประเทศไทย ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.พ.นี้

ช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายท่านคงได้ติดตามข่าวสารมาพอสมควรเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายก ส.บอล ครั้งนี้ แด่เดิมมีผู้สมัครลงท้าชิงเก้าอี้ประมุข ส.บอล ทั้งหมด 3 คน ที่ประกาศตัวคนแรกเลยคือ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฯ หลายสมัย ต่อมาคือเจ้าของตำแหน่งอย่าง พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และตัวละครลับที่มาลำดับสุดท้ายอย่าง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ สส.จากพรรคพลังประชารัฐ แต่ล่าสุดอย่างที่รู้กันดีว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหลือผู้ท้าชิงแค่สองคนเท่านั้น คือ "บิ๊กอ๊อด" และ "บิ๊กอู๊ด" ส่วน "บังยี" นั้นถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิ์ออกไป เนื่องจากคุณสมบัติไม่พร้อม เพราะเคยมีข่าวพัวพันโดนฟีฟ่าแบนไปก่อนหน้านี้ เอาละเมื่อเหลือ 2 คน ก็น่าจะทำให้การลงคะแนนเสียงของบรรดาสโมสรสมาชิกมันไม่วุ่นวายมากนัก เพราะมีตัวเลือกแค่สองคน อยู่ที่ว่าจะเลือก นาย A หรือนาย B ไปเป็นนายกก็เท่านั้น ที่ผ่านมาก็คงจะมีหลายเว็ปหลายสำนักได้ทำการแนะนำ และเผยประวัติของสองแคนดิเดตนายกสมาคมฯ ฟุตบอลฯ กันไปบ้างแล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนยังไม่รู้จักทั้งสองท่านเท่าไหร่ วันนี้เราจึงขอเอาประวัติคร่าวๆ ของทั้งสองคนมาให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักอีกครั้ง โดยไม่มีอะไรแอบแฝง และโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แค่ให้รู้ว่าใครเป็นใครเท่านั้นนะครับ อีก 2 วัน!! เปิดประวัติ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประมุขบอลไทย 2020 เริ่มที่เจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งมาครบวาระ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559-2562 ปัจจุบัน บิ๊กอ๊อดมีอายุ 65 ปี โดยท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2497 ที่อำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ประวัติการศึกษาคร่าวๆ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนท่าเรือนิตยานุกูล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ศ.4) เข้าเรียนที่โรงเรียนพรตพิทยพยัต เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 15 (ตท.15) ก่อนจะเข้าศึกษาต่อที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 31 (นรต.31) จบปริญญาตรีสาขา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบปริญญาโท รัฐศาสตร์การเมือง มหาวิทยาลัยปูนา จากอินเดีย จบปริญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต พล.ต.อ.สมยศ ทำงานราชการมาโดยตลอด และเป็นนายตำรวจที่มีชื่อเสียง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ อย่าง จเรตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2551, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในปีเดียวกัน, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในปี 2552, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในปี 2553 และก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดอย่าง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2557 โดยอยู่ในตำแหน่งจนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558 ถือได้ว่าเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรกที่จบการศึกษาระดับปริญญาปริญญาเอก จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลฯ ด้วยการลงสมัครชิงนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อปี 2559 โดยได้รับการสนับสนุนจากนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งสุดท้ายก็ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ด้วยคำแนนแบบล้นหลาม เรื่องของผลงานขอไม่พูดถึงละกัน เพราะทุกท่านก็คงได้เห็นและติดตามข่าวสารมาโดยตลอดอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง โดยการลงเลือกตั้งครั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ มาในสโลแกนที่ว่า MOVING FORWARD ก้าวให้ไกล ไปด้วยกัน” ชูเรื่องการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยจับมือกับกลุ่มคิง เพาเวอร์ ที่สนับสนุนเงินมา 500 ล้านบาท และย้ำว่าเอ็มโอยูที่เซ็นไว้กับคิงเพาเวอร์ อาจมีสิทธิ์จะยุติ หรือไม่สนับสนุน หากตน ไม่ได้เป็นนายกสมาคมฯ อีกสมัย สำหรับเป้าหมายในอีก 4 ปีข้างหน้า คือ 1.พาทีมชาติไทยขยับอันดับฟีฟ่าขึ้นไปอยู่ในเลขสองหลัก 2.พัฒนาการแข่งขันระดับเยาวชน ที่มีความซับซ้อนหลายองค์กรให้มีความชัดเจน มากขึ้น 3.เพิ่มเงินรางวัลในการแข่งขันไทยลีกเพราะเงินเหล่านี้มาจากน้ำพักน้ำแรงสโมสร โดยรายนามสภากรรมการของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มีดังนี้ อีก 2 วัน!! เปิดประวัติ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประมุขบอลไทย 2020 อุปนายกทั้ง 5 คน ได้แก่ อรรณนพ สิงห์โตทอง, ศุภสิน ลีลาฤทธิ์, ลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์, ศิริมา พานิชชีวะ และอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ส่วนสภากรรมการทั้ง 13 คนได้แก่ ยุทธยา หยิมการุณ, พล.ร.ต.นิกูล อินทรสุวรรณ, ธวัช อุยสุย, มิตติ ติยะไพรัช, ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์, สมเกียรติ กิตติธรกุล, รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม, ธนวัชร์ นิติกาญจนา, นันทนี วงศ์อำนิษฐกุล, ณัฐ ชยุติมันต์, อนุสรณ์ วงศ์วรรณ, พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ และนายบริพัฒน์ สมมี อีก 2 วัน!! เปิดประวัติ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประมุขบอลไทย 2020 มาถึง "บิ๊กอู๊ด" ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อได้ยินชื่อของท่านอาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนักในวงการฟุตบอลฯ แต่ถ้าในแวดวงการเมือง ดร.ภิญโญ ก็ถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มากประสบการณ์คนนึงเลยทีเดียว ปัจจุบันอายุ 68 ปี ท่านเกิดเมื่อวันที 22 เมษายน พ.ศ. 2494 ที่อำเภอเมือง ที่ จ.นครสวรรค์ ประวัติการศึกษาปริญญาตรีด้าน บริหารธุรกิจ ที่อิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา, จบศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ยุทธศาสตร์การพัฒนา) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, จบปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ยุทธศาสตร์การพัฒนา) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, จบครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต (การบริหารการศึกษา) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์,จบศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต (การศึกษา(พลศึกษา)) สถาบันการพลศึกษา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ตำแหน่งเด่นๆ ในแวดวงการเมืองที่ผ่านมา เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2538 และเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 2542 ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย ด้านการศึกษาเคยเป็น นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ปี2555-2558 ส่วนด้านกีฬา เคยเป็นประธานกรรมมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ปี 2544-2548, เป็นนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครสวรรค์ ปี2536-ปัจจุบัน อีกทั้งยังเคยเป็นอุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ ลำดับที่หนึ่งในสมัยบังยีอีกด้วย ซึ่งก็เคยชิมลางเป็นนายกสมาคมฟุตบอลรักษาการ แทนนายวรวีร์ ช่วงที่โดนแบนมาแล้ว ก่อนจะมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยดร.ภิญโญ มาในนโยบายที่ว่า “CHANGE (เปลี่ยน)" พัฒนาฟุตบอลไทยสู่บอลโลก ถึงเวลาคนฟุตบอลตัวจริง พาฟุตบอลไทย ก้าวไกลสู่ระดับโลก โดยจะพัฒนาระบบลีกด้วยการเพิ่มทีมไทยลีก 1 จาก 16 ทีม เป็น 18 ทีม จัดสรรเพิ่มงบสนับสนุนทีมให้มากกว่าเดิม เพิ่มเงินทีมชนะเลิศให้มากกว่า 10 ล้านบาท ส่วนลีกรองลงไปต้องทำให้กลับมาคึกคักเหมือนเก่า ส่วนฟุตบอลทีมชาติต้องเป็นแชมป์ซีเกมส์ 2021, 2023 ส่วนเอเชียนเกมส์ต้องไปให้ถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ด้านฟุตบอลหญิงจะพัฒนาให้มีลีกการแข่งขันเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับทีมชาติ นอกจากนี้ จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขันฟุตบอลในระดับต่างๆ เพื่อโอกาสของทีมชาติและส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้จะร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนตั้งศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติทั่วทุกภูมิภาค เพราะแต่เดิมก็มีสถานที่เหล่านี้อยู่แล้ว ทั้งของ กกท. และกรมพลศึกษา เพียงนำมาบูรณาการร่วมกัน สำหรับรายชื่อทีมงานสภากรรมการของ ดร.ภิญโญ มีดังนี้ อีก 2 วัน!! เปิดประวัติ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประมุขบอลไทย 2020 อุปนายก 5 คน ประกอบไปด้วย ดร.ปัญญา หาญลำยวง, พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์, พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์, นายสามารถ มะลูลีม และ ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ ส่วนสภากรรมการที่เหลือ มี นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล, ดร.จุฑา ติงศภัทย์, นายสุนทร มีสุวรรณ, นายชัยโชค พุ่มพวง, นายธีรพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ, นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์, นายอติพล สุวรรณดี, นายคณบดี แย้มชุติ, นายภีมเดช อมรสุคนธ์, นายอนุชา ไชยเทศ, นายสุพจน์ งดงาม โดยการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีขึ้นในวันพุธที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 13.00-15.00 น. ณ ห้องวิภาวดี บอลรูล ชั้น Lโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ใครจะได้เป็นนายก ส.บอล คนใหม่ ก็มาลุ้นกันนะครับ
logoline