logo-heading

อาร์เบ ไลป์ซิก ทีมดังเมืองเบียร์ เพิ่งจะโชว์ฟอร์มเด็ดบุกตบรองแชมป์ยุโรปปีที่แล้วอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถึงถิ่น 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ไลป์ซิก เพิ่งจะก่อตั้งมาได้ไม่ถึง 11 ปีดีเลย แต่ทำไมพวกเขาถึงทะยานฟ้า โผล่ขึ้นมาพุ่งพรวดได้เร็วขนาดนี้ 

แถมอีกอย่างที่หลายคนอาจจะไม่ทราบ อาร์เบ ไลป์ซิก ทีมนี้นี่แหละที่ถูกโหวตให้เป็นทีมนอกคอกที่คนเยอรมันเกลียดเข้าไส้มากที่สุด! เหตุผลมันคืออะไร แล้วทำไมพวกเขาผลงานถึงดี ไทม์ไลน์ตั้งแต่ก่อตั้งทีมมันเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ  

1.จุดเริ่มต้น

สโมสร อาร์เบ ไลป์ซิก ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 โดยบริษัท เร้ด บูลส์ จีเอ็มบีเอช บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังยักษ์ใหญ่ของประเทศอออสเตรีย ซึ่งพวกเขาได้ซื้อสิทธิ์ทีมฟุตบอลมาจากสโมสร เอสเอสเฟา มาร์ครานสเตดท์ ทีมรองบ่อนในดิวิชั่น 5 พร้อมเทงบ 100 ล้านยูโรให้ปรับปรุงขุมกำลัง และตั้งเป้าหมายจะก้าวขึ้นสู่เวทีบุนเดสลีกา ให้ได้ภายใน 8 ปี  

2.กลายเป็นทีมนอกคอกที่คนเยอรมันเกลียดที่สุด

ลูกหนังเมืองเบียร์มีกฏกติกาที่ยึดถือกันนั่นคือ ไม่อนุญาตให้มีชื่อสปอนเซอร์หรือผู้สนับสนุน อยู่ในชื่อสโมสรเด็ดขาด ทว่า ดีทริช มาเตชิตส์ เจ้าของ เร้ดบลูส์ ซึ่งมีหัวธุรกิจอยู่แล้วก็อาศัยช่องโหว่ของกฏนี้ เปลี่ยนชื่อทีมเป็น อาร์เบ ไลป์ซิก (RB Leipzig) ซึ่งเขาอ้างว่า RB ที่ว่านี้ย่อมาจาก "RasenBallsport" ไม่ได้ย่อมาจาก "Red Bull" ชื่อผลิตภัณฑ์ของเขาสักหน่อย อย่ามามั่วนะจ๊ะ แบบไม่ไม่ผิดจ้า 55555 ไอสัสสสส แต่กูถามจริงใครบ้างไม่รู้ว่ามึงต้องการขายของ! นอกจากนี้ ไลป์ซิก ยังแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการหลีกเลี่ยงกฏ 50+1 กฎเก่าแก่ที่วงการฟุตบอลเมืองเบียร์ ตั้งขึ้นเพื่อต้องการให้กลุ่มแฟนบอลที่จ่ายค่าสมาชิกรายปีได้เป็นผู้ถือหุ้นของสโมสร และมีสิทธิ์ออกสิทธิ์ออกเสียงในการโหวตต่างๆ ด้วย แต่ ไลป์ซิก กลับตั้งราคาค่าสมาชิกแพงหูฉี่ถึง 1,000 ยูโรต่อปี มากกว่าทีมดังชั้นนำอย่าง ดอร์ทมุนด์ ถึง 10 กว่าเท่า!! และแน่นอนว่าชาวบ้านคนธรรมดาก็คงไม่บ้าควัก 1,000 ยูโร หรือราว 30,000 กว่าบาท ไปให้กับทีมที่มีเจ้าของหัวหมอขนาดนี้แน่นอน เท่านั้นไม่พอพวกเขายังส่งคนของตัวเองให้ไปสมัครสมาชิกรายปี เพื่อเข้ามาใช้สิทธิ์โหวตต่างๆ อีกต่างหาก.. ..งานนี้ ศักรินท์ ดาวร้าย ยังต้องเรียกพี่เลยหละครับ ด้วย 2 เหตุผลหลักๆ นี้เองทำให้ ไลป์ซิก ที่พยายามแหกคอก หาช่องโหว่หลีกหนีกฏกติกา แหวกม่านธรรมเนียมและประเพณีที่ยึดถือกันมาอย่างยาวนานในวงการลูกหนังเมืองเบียร์ โดนแฟนบอลชาวเยอรมันรังเกียจ ร้องยี้ และบอยคอต จนกลายเป็นทีมที่ถูกโหวตว่าโดนเกลียดมากที่สุดในประเทศเยอรมัน  

3.ทำสำเร็จ 7 ปี พุ่งสู่ บุนเดสลีกา สมใจ

ด้วยเม็ดเงินที่เหนือกว่าชาวบ้านเขาในลีกระดับรองๆ บวกกับความมุ่งมั่นทำสโมสรแบบจริงจังของบอร์ดบริหาร ก็ทำให้ ไลป์ซิก ก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฤดูกาล 2009/10 คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 5 เลื่อนชั้นสู่ ดิวิชั่น 4 ฤดูกาล 2012/13 เตะเพลย์ออฟชนะ สปอร์ตฟรอยน์เดอ ลอตเต้ ได้เลื่อนชั้นสู่ ลีกา 3 ฤดูกาล 2013/14 จบรองแชมป์ คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นสู่ ลีกา 2 และกลายเป็นทีมแรกที่เริ่มเปิดตัวใน ลีกา 3 และสามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปได้ภายในปีเดียว ฤดูกาล 2015/16 จบรองแชมป์ ลีกา 2 ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นสู่เวที บุนเดสลีกา ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยใช้เวลาเพียง 7 ปีเท่านั้น  

4.สร้างเซอร์ไพร้ส์ในลีกสูงสุด

แน่นอนว่าการได้ขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุด ทีมที่มีเงินถุงเงินถังอย่าง ไลป์ซิก ก็ต้องเสริมทัพกระจาย พวกเขาจัดการคว้าตัว เบนโน่ ชมิตซ์, นาบี เกอิต้า และ ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ จากทีมพันธมิตรอย่าง เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก, ติโม แวร์เนอร์ จาก สตุ๊ตการ์ท, มาริอุส มุลเลอร์ จาก ไกเซอร์สเลาเทิร์น และ โอลิเวอร์ เบิร์ก จาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เป็นต้น  อย่างไรก็ตามเรื่องทุ่มเงินเสริมทัพ ก็ไม่เซอร์ไพร้ส์เท่าการเปิดซิงใน บุนเดสลีกา 13 เกมแรกด้วยการไร้พ่าย แถมเก็บชัยได้ถึง 10 นัด ผงาดขึ้นมาท้าลุ้นแชมป์กับ บาเยิร์น มิวนิค และ ดอร์ทมุนด์ ซะอย่างงั้น แม้สุดท้าย ไลป์ซิก จะพ่ายให้กับความเก๋าและความแกร่งของ "เสือใต้" เป็นได้แค่รองแชมป์ แต่แค่นี้ก็ถือว่าโคตรจะสุดยอดและเซอร์ไพร้ส์เชี่ยๆ แล้ว และยังทำให้พวกเขากลายเป็นทีมแรกนับตั้งแต่การรวมประเทศที่ได้เปิดตัวใน บุนเดสลีกา และสามารถคว้าโควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตั้งแต่ปีแรกเลย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างชื่อให้นักเตะโนเนมหลายรายเช่น ติโม แวร์เนอร์ ที่กระหน่ำไปถึง 21 เม็ดในซีซั่นนั้น รวมถึง นาบี เกอิต้า และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ก็มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลด้วย  

5.ความสำเร็จ

แม้ปัจจุบัน อาร์เบ ไลป์ซิก ยังไม่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์รายการหลักๆ เลย แต่ก็เฉียดไปเฉียดมา เคยได้ทั้งรองแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล มาแล้ว ส่วนในถ้วยยุโรปที่ผ่านมาก็เคยบินไกลไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรปา ลีก มาแล้ว แต่ปีนี้ฤดูกาลนี้นี่แหละครับพี่น้อง ที่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มลงตัวมากขึ้น ล่าสุดเพิ่งบุกเชือด สเปอร์ส ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ถึงถิ่น 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก ทั้งที่เป็นการเข้าถึงรอบน็อกเอ้าท์ถ้วยบิ๊กเอียร์ได้เป็นครั้งแรกของพวกเขา แถมในลีกตอนนี้ก็เป็นรองจ่าฝูงตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค อยู่แค่แต้มเดียว เรียกได้ว่างานนี้ดูกันไปยาวๆ ไม่แน่ปีนี้อาจจะเป็นปีของ "กระทิงแดง" ก็เป็นได้.. . 

ชิน ชินพัฒน์

logoline