รายงานพิเศษ : “บางปะอิน” จับมือ “กิเลนจูเนียร์” สู้ศึกที 3-“โค้ชเจษ” กุมบังเหียนตั้งเป้าติดท็อปไฟว์

“บางปะอิน” จับมือ “กิเลนจูเนียร์” สู้ศึกที 3-“โค้ชเจษ” กุมบังเหียนตั้งเป้าติดท็อปไฟว์  โดย  :  อภิชาติ ระวีวัฒน์ บรรลุข้อตกลงจนได้ทำงานร่วมกันในที่สุด หลังผู้บริหารจาก “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ผนึกกำลังร่วมมือกับ “บิ๊กอ้วน” ยุทธนา ก้อนทอง ผู้คลั่งไคล้และหลงไหลเกมลูกหนังยิ่งนักจากจ.อยุธยา จนได้มาก่อร่างสร้างตัวเป็นสโมสรแห่งใหม่สมญานามว่า  "เดอะบูลวอริเออร์" หรือ บางปะอิน อยุธยา เอฟซี ที่กำลังโม่แข้งศึกฟุตบอลไทยลีก 3 ฤดูกาล2563 หรือ ออมสินลีกโปร   กลุ่มบน อยู่ในขณะนี้ แน่นอนว่า การทำงานด้วยภาษา "ฟุตบอล" กว่าจะลงตัวกันได้นั้น มันต้องใช้เวลาและความเข้าใจที่ไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นและความมั่นใจในการสร้างผลงานที่จะออกมาเพื่อแฟนคลับ รวมไปถึงเรื่องของงบประมาณต่างๆต้องลงทุน "มหาศาล" นี่ยังไม่รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพอีกต่างหาก ล่าสุดทางผู้บริหาร "เดอะบูลวอริเออร์" ได้เปิดตัวสโมสรพร้อมด้วยชุดแข่งขันทั้งเหย้า-เยือน ขึ้นมาอย่างเป็นทางการแล้ว ประกอบด้วย ยุทธนา ก้อนทอง ประธานสโมสร, โสฬส อุดมสมปอง ผู้จัดการทีม, พร้อมด้วยผู้ให้การสนับสนุน คือ สุวิทย์ จงประสานเกียรติผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน),สุเทพ จารุมณีโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีโก้สปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, ประสิทธิ์ ดีศิลปกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท อยุธยา อีซูซุ เซลล์ จำกัด, "ดร.ปู๋" ดร.ศราวุธ ดิษยวรรธนะ ผู้จัดการสายงานกิจกรรมพิเศษและกีฬา บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ กชกร ยิ้มแฉล้ม ผู้อำนวยการ ร.ร.บางปะอิน ณ ห้องประชุม ร.ร.บางปะอิน ที่จะใช้เป็นรังเหย้าต้อนรับทีมต่างๆในซีซั่นนี้     ยุทธนา ก้อนทอง ประธานสโมสรฯ เปิดเผยถึงการย้ายสนามเหย้าของทีมมาเล่นที่ ร.ร. บางปะอินว่า ต้องการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ชาวบางปะอินที่อยู่ในพื้นที่ของอยุธยาอยู่แล้ว ให้มีทีมประจำท้องถิ่น เพื่อสร้างโอกาสทางด้านการกีฬาให้ผู้คนที่นี่ซึ่งมีเป็นแสนคน นี่ยังไม่รวมถึงผู้คนจากที่อื่นมาทำงานในโรงงานในแถวนี้อีกจำนวนมิใช่น้อย เชื่อว่า จะได้รับความสนใจจากแฟนคลับไม่แพ้ใคร นอกจากนี้ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนละแวกนี้ หันมาสนใจฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยมมากขึ้น ประกอบด้วยสนามฟุตบอล (หญ้าเทียม) ที่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ลงทุนไปไม่น้อยกว่า 10ล้านบาท มีมาตรฐานและความสวยงามระดับสากล พร้อมต้อนรับแฟนบอลชาวบางปะอิน และ อยุธยา เข้ามาชมเกมในสนามอย่างเต็มที่ โดยมีการบรรลุข้อตกลงในการทำทีมกับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมดังจากไทยลีก 1 ในการนำนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี  มีดีกรีระดับเยาวชนทีมชาติมาร่วมทีมเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบางปะอินจะได้เห็นคลื่นลูกใหม่ที่มีความพร้อม เป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นนักกีฬาระดับทีมชาติไทยต่อไป ขณะที่ "เสี่ยโส" โสฬส อุดมสมปอง ผู้จัดการทีม ได้กล่าวว่า   บางปะอิน อยุธยา เอฟซี  เหมือนเป็นคลื่นลูกใหม่ คอนเซปท์ที่เราวางไว้ คือ "เดอะเน็ก" หรือ เดินไปข้างหน้า ประกอบด้วย 1.เดอะเน็กสเตชั่น สถานีต่อไปที่ทุกคนจะต้องเข้ามาชมและเชียร์ให้กำลังใจ จากการเล่นฟุตบอลแบบเอ็นเตอร์เทนของนักเตะเราที่มีอยู่ 2.เดอะเน็กซ์เจอเนอเรชั่น กลุ่มนักเตะรุ่นใหม่ ที่หลายคนผ่านการคว้าแชมป์ระดับยูธลีกยู19 ปี มาแล้ว ซึ่งแต่ละคนล้วนมีดีกรีระดับเยาวชนทีมชาติ อาทิ "เจ้าตี้" ธีรภัทร เลาหบุตร, "เจ้าเดียร์" ธัชพล ไชยยันต์ นักเตะยอดเยี่ยมชุดแชมป์ยูธลีก และ "เจ้าโดม" เจษฏากร น้อยศรี   ทั้งยังมีนักเตะต่างชาติเข้ามาผสมผสานด้วยทั้ง ราฟาเอล กองกลางชาวบราซิล กับ ปาร์ค ฮยุนวู กองหลังจอมแกร่งจากกาหลีใต้ และสุดท้าย 3.เดอะเน็กซ์ฟุตบอลไทย ด้วยวิธีการบริหารแบบมืออาชีพ และกุนซือหนุ่มไฟแรงที่เป็นตำนานของทีมชาติไทยแถมยังเป็นสุภาพบุรุษลูกหนังนั่นก็คือ "โค้ชเจษ" เจษฏา จิตสวัสดิ์ เฮดโค้ช ที่มีดีกรีไลน์เซนส์ ผู้ฝึกสอนระดับชั้นแนวหน้าของเมืองไทย จะเข้ามาช่วยพัฒนาและทำให้วงการลูกหนังไทยตื่นตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแฟนคลับของเราจะได้เห็นการทุ่มเทตั้งใจของนักเตะดาวรุ่งเฉลี่ยอายุระหว่าง 19-21 ปี ประเภท วิ่งสู้ฟัดไม่มีหมดใน 90 นาที แม้ว่า ประสบการณ์ของนักเตะจะน้อยไปนิด แต่จะเอาความฟิตเข้ามาทดแทนเพื่อไปสู้เป้าหมายความสำเร็จทีวางไว้คือ ติด 1 ใน 5 ของฤดูกาลนี้ให้ได้ ส่วนชุดแข่งขันนั้นทางสโมสรได้รับการสนับสนุนจากทาง "อีโก้สปอร์ต" แบรนด์กีฬาชื่อดังมาดูแลให้ ซึ่งมีความสวยงามตามแบบฉบับของ “เดอะบูลวอริเออร์” โดยสีเหย้า ยังคงเป็น "สีน้ำเงิน" เช่นเดิม ส่วนสีทีมเยือนเป็น "สีเหลือง" นอกจากนี้ยังมีแพคเกจตั๋วปี (การ์ด+เสื้อแข่ง+ถุงผ้า) ในราคาเพียง 890 บาทเท่านั้น ซึ่งแฟนคลับสามารถเข้าชมเกมนัดเหย้าของทีมได้ทั้งฤดูกาล พร้อมส่วนลด 10% ในการซื้อของที่ระลึก สินค้าสโมสร ด้าน "โค้ชเจษ" เจษฏา จิตสวัสดิ์ เผยความรู้สึกให้รับฟังว่า แม้นักเตะน้องๆในทีมจะยังมีประสบการณ์น้อย แต่ทุกคนเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ ทุกเกมมีความสำคัญกับพวกเราไม่มากก็น้อย ทุกวันนี้ตัวเองได้เตรียมตัวทำการบ้านและศึกษาข้อมูลทีมต่างๆที่เราจะพบในไทยลีก 3 3 แบบนัดต่อนัด เวลานี้ความพร้อมจาก 100 เปอร์เซ็นต์ เราน่าจะอยู่ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่ยังขาดหายไปคือ เรื่องของความเข้าใจและความสัมพันธ์ภายในเกมที่ดี และจะพยายามปรับจูนให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วน เป้าหมายที่ทางผู้ใหญ่สโมสรฯวางไว้นั้น คือ ติดอันดับท็อปไฟว์ ตัวเองจะพาลูกทีมไปให้ถึงแน่นอน สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปศึกไทยลีก 3 นัดที่ 2 วันเสาร์ที่ 29 ก.พ.นี้ "เดอะบูลวอริเออร์" บางปะอิน อยุธยา เอฟซี จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชียงราย ซิตี้ เวลา16.00น. ที่สนามฟุตบอลภายในโรงเรียนบางปะอิน