logo-heading

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฏาคม 2017 เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นในวงการลูกหนัง เมื่อ อับเดลลาค นูริ หรือ อัปปี นูริ มิดฟิลด์อนาคตไกลของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ เกิดหมดสติคาสนามระหว่างการแข่งขันอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่น กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ต้องรีบส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปที่โรงพยาบาล ยังดีที่ทีมแพทย์สามารถยื้อชีวิตเด็กหนุ่มวัย 19 ปีในตอนนั้นเอาไว้ได้ แต่ก็ตามมาด้วยข่าวร้าย นั่นคือสมองเขาโดนทำลายอย่างถาวร 

  ต่อมา อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ ได้ออกแถลงการณ์ว่าโอกาสที่ นูริ จะหายกลับมาเป็นปกตินั้นเท่ากับ 0% แค่รู้สึกตัวยังยากอาจต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราไปตลอดกาล แต่ล่าสุด 27 มีนาคม 2020 หรือ 2 ปี 9 เดือน หลังหมดสติไป ครอบครัวของ นูริ ก็ได้เผยข่าวดีว่า เจ้าตัวอาการดีขึ้นมากฟื้นจากโคม่าแล้ว สามารถทานอาหารเบาๆ ได้, แสดงสีหน้าท่าทางได้บ้าง แต่ยังขยับตัวไม่ได้มาก และยังต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่แค่นี้ก็ถือว่าเป็นปฏิหารย์ และเป็นข่าวดีของแฟนบอลทั่วโลกแล้ว   อย่างไรก็ตามจะว่าไปก็เสียดายนะ ที่อดเห็นว่าเจ้าหนูนี่จะไปได้ไกลแค่ไหนในโลกลูกหนัง เพราะก่อนเกิดเรื่องร้ายนี้ขึ้น นูริ ถูกยกให้เป็นแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์สูงเบอร์ต้นๆ ของ อาแจ็กซ์ เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จัก เช็คฟอร์มเช็คฝีเท้าของเขาสักหน่อยดีกว่า ว่าตอนนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง   นูริ เกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายน 1997 ที่แถบชานเมืองของ กรุงอัมสเตอร์ดัมส์ ประเทศฮอลแลนด์ และก้าวเข้ามาติดทีมอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ 8 ขวบ และเป็นนักเตะเยาวชนที่ฝีเท้าโดดเด่นกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันมากๆ จนถูก "เดอะ การ์เดี้ยน" สื่อชื่อดังยกให้เป็น 1 ใน 40 แข้งเยาวชนที่น่าจับตามองมากที่สุดประจำปี 2014 เลยทีเดียว   ปี 2015 นูริ ถูกเรียกตัวให้ขึ้นไปเล่นในทีมสำรองของ อาแจ็กซ์ หรือที่เซียนพนันจะคุ้นชื่อกันว่า "ยอง อาแจ็กซ์" ในปี 2015 และก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่่างยอดเยี่ยมไม่กลัวใครหน้าไหน และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ แอร์สเต้ ดิวิซี่ (ดิวิชั่น 1 ของ ฮอลแลนด์ เทียบเท่า แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ) ประจำฤดูกาล 2016/17 มาครองได้ด้วย   แฟรงค์ เดอ บัวร์ อดีตกุนซือ อาแจ็กซ์ ระหว่างปี 2010-2016 เคยได้ให้สัมภาษณ์ถึง นูริ เอาไว้เมื่อปี 2015 ตอนที่เล่นให้ทีมสำรองว่า "แม้เขาจะยังไม่ได้ถูกดันขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในตอนนี้ แต่ผมจับตาดูฟอร์มเขาอยู่ตลอด ผมยอมเสียเงินค่าตั๋วและค่าเดินทางเพื่อไปดูเขาลงเล่นกับตา เขาคือปรากฏการณ์ของ อาแจ็กซ์ ผมยังไม่เคยเห็นนักเตะแบบเขามาก่อนเลยในชีวิตนี้"   คำพูดนี้จากปากของ เดอ บัวร์ อาจจะดูเกินจริงไปสักหน่อย แต่ใครจะไปรู้หากวันนี้ นูริ สบายดี ป่านนี้อาจจะเก่งเทียบเท่าหรือเก่งกว่า คีเลียน เอ็มบัปเป้ โคตรดาวรุ่งในยุคเดียวกันไปแล้วก็เป็นได้ ใครจะไปรู้   21 กันยายน 2016 นูริ ได้ลงประเดิมสนามเปิดซิงในทีมชุดใหญ่ให้ อาแจ็กซ์ เป็นเกมแรก โดยเป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วย KNVB คัพ เจอกับ วิลเลี่ยม ทเว ซึ่งเขาก็สามารถทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกเลยด้วย ช่วยให้ต้นสังกัดชนะไปขาดลอย 5-0 ประตู   "ผมคิดถึงเขาเสมอ ผมจำได้ดีตอนที่เขาได้ลงสนามให้ อาแจ็กซ์ เป็นนัดแรก เขาให้พี่ชายของเขาถ่ายวิดีโอเอาไว้ด้วย เขาเหงื่อตก ดูตื่นเต้นและประหม่ามากๆ แต่พอลงสนามเขากลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม พอจบเกมเขานัดเพื่อนๆ มาฉลองมันเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเขา มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดๆ เลยหละ" ฮาคิม ซีเย็ค หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมคนสนิทของ นูริ ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้หลังเกิดเหตุวูบคาสนาม เฟรงกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์หัวทองของ บาร์เซโลน่า ก็เป็นอีกหนึ่งเพื่อนสนิทร่วมรุ่นของ นูริ ซึ่งหลังย้ายไปอยู่กับ "เจ้าบุญทุ่ม" เฟรงกี้ ก็ได้เปิดเผยด้วยว่าก่อนเซ็นสัญญาได้ไปเยี่ยม นูริ ที่บ้านเพื่อถามถึงเรื่องการย้ายทีม โดยบอกว่า "ผมไปเยี่ยมเขาที่บ้าน นั่งข้างๆ เขา ก่อนที่แม่เขาจะเดินเข้ามาและถาม อัปปี (ชื่อเล่น นูริ) 'อัปปี เฟรงกี้ ควรจะย้ายไปไหนดี? บาร์เซโลน่า ดีมั้ย?' ทันทีที่แม่เขาพูดจบ อัปปี ก็ยักคิ้วให้ทีนึง เหมือนชอบใจ นั่นเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุดๆ ไปเลย"   จัสติน ไคลเวิร์ต, เฟรงกี้ เดอ ยอง, ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค, ฮาคิม ซีเย็ค, มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นผลิตผลของ อาแจ็กซ์ ที่รุ่นไล่ใกล้เคียงกับ นูริ ทั้งสิ้น และแต่ละคนก็โด่งดังขึ้นไปเป็นแข้งระดับแถวหน้าของวงการไปแล้ว มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าถ้า นูริ ยังค้าแข้งอยู่ ตอนนี้เขาจะอยู่จุดไหน?   แม้ นูริ จะเกิดที่แดนกังหันลม แต่เขาก็มีเชื้อสายโมร็อกโก และนับถือศาสนาอิสลาม อย่างเคร่งครัด ครั้งนึงเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ด้วยว่า “ผมจะละหมาดทุกวันไม่เคยขาด และช่วงเดือนรอมฎอนผมก็จะไม่กินอะไรเลย แม้กระทั่งน้ำ แต่มันก็ไม่ส่งผลต่อการเล่นฟุตบอลของผมนะ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมคือ 'ศรัทธา' ผมให้ความสำคัญกับมันมากที่สุดในชีวิต ชีวิตผมยังคงเปี่ยมไปด้วยความเชื่อ อะไรก็ตามที่ผมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ผมจะทำมันให้เต็มที่”   และวันนี้ นูริ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขามี 'ศรัทธา' และ 'ความเชื่อ' เหลือล้นจริงๆ ขอให้หายไวๆ ขอบสนามเป็นกำลังใจให้นะ!  

ชิน ชินพัฒน์

logoline